อาการบาดเจ็บเป็นปัญหาวุ่นวายที่รบกวนอาชีพนักฟุตบอลของ Timothy Fosu-Mensah มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้เขาหายเจ็บกลับมาและกำลังเรียกความฟิตอยู่เพื่อที่จะกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้งในฤดูกาลนี้ นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจจะวิเคราะห์ว่า เมื่อเขากลับมาแล้วจะสามารถเล่นในตำแหน่งไหน หรือรับบทบาทใดให้แก่สโมสรได้บ้าง
หลังจากที่โด่งดังขึ้นมาในยุคของ Louis van Gaal ท่าทางที่ดูเหมือนจะเป็นดาวรุ่งอนาคตไกลของเขานั้นน่าสนใจมากสำหรับพ่อหนุ่มดัตช์วัยกระเตาะผู้นี้ แต่อย่างไรก็ตามเส้นทางของเขาก็สะดุดลงอย่างแรงเมื่อเจออาการบาดเจ็บที่ทำให้ผู้คนต่างๆเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับระดับความฟิตของเขา และการยืมตัวสองครั้งก็ล้มเหลวในแง่ของการได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นตอนนี้จึงเกิดคำถามว่า เขายังมีคุณค่าต่อโซลชาหรือไม่ในการเป็นตัวเลือกลงในทีมของเรา จากการที่กลับมาเริ่มฟิตเช่นนี้
อาชีพนักฟุตบอลของเขาจะสามารถกลับมาเหมือน"เกิดใหม่" ได้หรือไม่ นี่คือคำถามที่ต้องหาคำตอบ
หลังจากได้เดบิวต์ในยุคของจารย์หลุยส์ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016 ในฐานะตัวสำรองเกมชนะอาร์เซนอล 3-2 ทิมโบ้มีฤดูกาลเปิดตัวที่ดีโดยการได้ลงสนามถึง10นัดในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ซึ่งเมื่อมาถึงในวันอาทิตย์ที่10 เมษาบน 2016 อันเกมที่แฟนแมนยูไม่อยากจะจดจำนั้น คือแมตช์ที่แพ้ไก่เดือยทองในเกมเยือนถึง 3-0 ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นแม้จะแพ้แต่เราได้เห็นความสามารถและศักยภาพของทิมโบ้เยอะมาก(ทิมโบ้ หรือ ติโม ก็ได้ในชื่อเล่น)
เขาได้อยู่ในสนามไป68นาทีก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกโดย Matteo Darmain โดยการตัดสินใจของฟานกัลที่เปลี่ยนตัวในตำแหน่งฟูลแบ็ค ซึ่งก่อนที่จะถูกเปลี่ยนออกไปนั้นทิมโบ้เล่นได้ดีมากๆ ด้วยสถิติแท็คเกิล5ครั้ง ตัดบอลได้อีก5ครั้ง และเคลียร์บอลจากตำแหน่งอันตรายได้ถึง6ครั้งเต็มๆ ซึ่งพอเขาถูกเปลี่ยนออกไป หลังจากนั้นแค่2นาทีเห็นผลเลยเมื่อ สเปอร์ได้ขึ้นนำทันที 1-0 จากความผิดพลาดของดาร์เมี่ยนตัวที่เอาลงไปนั่นแหละ และเมื่อจบเกม 3-0 มันจึงหาเรื่องดีๆจากนัดนั้นแทบจะไม่ได้เลยนอกจากสิ่งที่ดีงามเพียงอย่างเดียวของแมตช์นั้นคือ ฟอร์มสุดยอดของโฟซูเมนซาห์นั่นเอง
นั่นคือเกมที่ดีที่สุดในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขา ซึ่งหลังจากนั้นมา อีก4ปีต่อมากราฟชีวิตนักฟุตบอลของเขาก็มีแต่ดาวน์ลงอย่างเดียว
แฮรี่เคนก็โดนทิมโบ้เล่นหนักๆมาแล้วเกมนั้น
ในฤดูกาลถัดมาต่อจากนั้น ก็เป็นฤดูกาลที่นักเตะดาวรุ่งอายุน้อยต่างๆเริ่มมีส่วนร่วมกับทีมน้อยลงมากๆ โฟซูเมนซาห์ได้ลงสนามเพียงแค่ 11นัดตลอดทั้งปี นั่นอาจจะเป็นตัวที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมันมาจากมุมมองของมูรินโญ่ที่มักไม่ค่อยไว้ใจการใช้งานนักเตะดาวรุ่งสักเท่าไหร่นัก ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปดังนั้นจริงๆเมื่อสุดท้ายแล้วTFMก็ถูกปล่อยยืมตัวออกไปสองปีติด โดยย้ายไปพาเลซในฤดูกาล 17/18 และไปฟูแล่มในปีฤดูกาล 18/19
ประวัติอาการบาดเจ็บของเขาได้แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตนักเตะที่มักจะเป็นมารผจญอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเอาจริงๆแล้วเรื่องการบาดเจ็บนี่มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ฟีดแบ็คต่างๆมันสะท้อนให้เห็นว่าแฟนบอลและผู้คนที่รับรู้เรื่องนี้ส่วนใหญ่จะมีแนวโน้มที่จะคิดเช่นนั้นกับเขาว่า เรื่องบาดเจ็บมันสร้างปัญหาให้อย่างมาก ซึ่งมันก็ใช่ เขามีฤดูกาลที่ยากลำบากหลังจากบาดเจ็บอย่างหนักซึ่งเป็นที่บริเวณ "เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า" (ซึ่งเรื่องเข่าสำหรับนักบอลนั้น หลายคนน่าจะรู้ว่ามันทำให้คนเตะบอลไม่สามารถเล่นได้เต็มที่เลย) และเมื่อผ่าตัดในฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เขาไม่สามารถลงสนามได้เลยมา271วัน ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นโชคร้ายที่เขาต้องเจ็บยาวๆแบบนี้
แผลใหญ่จนเห็นได้ชัดเจน
แต่เรื่องอาการบาดเจ็บก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดคอขาดบาดตาย เพราะชีวิตนักฟุตบอลของเขาเพิ่งจะเริ่มต้นได้ไม่นาน ดังนั้นการเจ็บหนักๆแม้อาจจะทำให้น่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องระดับความฟิต แต่ว่ายังไงก็ตามหวังว่าการที่ตอนนี้เขาหายเจ็บกลับมาแล้วเช่นนี้ จึงสามารถเป็นโอกาสให้เขาค่อยๆเรียกความฟิตกลับมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองได้ ไม่ใช่ว่าจะเจ็บไปตลอดชีวิตสักหน่อยอย่างที่เห็น
ตอนนี้โฟซูเมนซาห์ได้กลับมาสู่ภาคของการฝึกซ้อม และเรียกระดับความฟิตกลับมา ดังนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นตามมาด้วยว่า จะให้เขาไปลงตำแหน่งไหนดีถึงจะเหมาะสมและเข้ากับทีม และเขาจะสามารถทำอะไรให้กับทีมเราได้บ้าง เป็นเพราะว่าช่วงเวลาที่ยืมตัวไปนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็ทำผลงานได้น่าผิดหวัง
สิ่งที่พอจะมองเห็นจากช่วงยืมตัวก็คือ "ความสามารถที่เล่นตำแหน่งจับฉ่าย" นั่นเองคือสิ่งที่โฟซูเมนซาห์ทำได้ จากการที่เขาเป็นนักเตะประเภทที่ยืดหยุ่นมากๆและเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง
There's only one Jabchai ถ้ายังเล่นโกลกับกองหน้าไม่ได้ก็อย่าคิดจะใช้ฉายา"นิวจับฉ่าย"เฟ้ย!!!!
การยืมตัวสองครั้งนั้นเขาเล่นทั้งตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ค และตำแหน่ง แบ็คขวา โดยที่ลง12เกมเป็นแบ็คขวาให้พาเลซ และลงเซ็นเตอร์ไป7 ส่วนที่ฟูแล่มนั้นได้ลงแบ็คขวาเช่นกัน11เกม และอีก1เกมลงเล่นเซ็นเตอร์
ความสามารถของเขานั้นไว้ใจให้ลงในสองตำแหน่งนี้ได้ ซึ่งจะเห็นว่าเกมที่ดีที่สุดของเขาตอนเล่นให้ยูไนเต็ดนั้นก็เป็น"แบ็คขวา"เช่นกัน ดูเหมือนว่าตำแหน่งนั้นเป็นจุดที่ผู้จัดการทีมเห็นว่าเขาสมควรได้ใช้งานที่พื้นที่ตรงนั้น จากผลของการมีส่วนร่วมทั้งหมด 34เกมในตำแหน่งดังกล่าว มากที่สุดกว่าตำแหน่งอื่นใดที่เขาได้เล่น
การแย่งตำแหน่งของเขาในยูไนเต็ดนั้นน่าสนใจมาก ชัดเจนว่าแบ็คขวานั้นถูกเติมเต็มแล้วด้วย Aaron Wan-Bissaka ในฤดูกาลแรกของเขาที่ยอดเยี่ยมเกินบรรยาย และพวกตัวทดแทนในตำแหน่งนี้ก็เต็มไปด้วยนักเตะดีๆที่มีศักยภาพอีกหลายคน Dalot เป็นตัวเลือกสำหรับการเติมเกมรุกให้ทีมจากตำแหน่งนั้น ในขณะนี้ Ethan Laird เป็นดาวรุ่งเยาวชนแห่งอนาคต แถมไอ้เด็กตาขวางคนล่าสุดที่แจ้งเกิดได้อย่าง Williamsเองนั้นก็ดันสามารถเล่นแบ็คขวาได้อีกต่างหาก
Liams & Laird & Mengi เหล่ากองหลังดาวรุ่งแห่งอนาคตของยูไนเต็ด
ดังนั้นในฐานะฟูลแบ็ค โฟซูเมนซาห์หากฟิตสมบูรณ์เขาอาจจะเหมาะกับการเป็นตัวแทนของบิสซาก้า มากกว่าดาโลต์หากต้องการ "แบ็คขวาเน้นรับ" ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นในเกมที่ต้องเน้นป้องกัน ทิมโบ้ก็เหมาะสมมากกว่าดาโลต์ชัดเจนในงานป้องกันประตู
ทิมโบ้ดูเหมือนอาจจะเล่นเกมรุกได้ดีกว่าวานบิสซาก้าด้วยซ้ำ ดูเป็นนักฟุตบอลที่ครบเครื่องมากกว่าก็จริงหากแต่โดยรวมๆแล้วเขาเองก็ยังไม่สามารถแตะระดับของบิสซาก้าได้ใกล้เคียงเลย ลักษณะสกิลการเล่นคล้ายจะเป็นส่วนผสมของ ดาโลต์ ที่รวมร่างกับบิสซาก้า และรวมสไตล์ของตัวเขาเองด้วย เมื่อพิจารณาเช่นนั้นแล้วทั้งสองคน ทิมโล่ กับ ทิมโบ้ อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนที่ใช้งานได้ดีในตอนนี้ หลังจากระยะเวลาช่วงนี้ในอนาคต แลร์ดนั้นดูจะมีศักยภาพภายในที่อาจจะเก่งกว่าทั้งสามคนก็ว่าได้และผู้เขียนก็อยากเห็นเขาได้รับโอกาสก่อนโฟซูเมนซาห์ด้วยซ้ำในตำแหน่งแบ็คขวา ดังนั้นการจะพิจารณาให้ติโมเป็นนักเตะแบ็คขวาตัวเลือกของทีมนั้น จึงอาจจะทำให้เขามีโอกาสยากจริงๆ
ในอีกทางหนึ่งอาจให้เขาลงช่วยแบ็คซ้ายของทีมได้หรือไม่ รวมๆคิดว่าน่าจะไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา ทั้งยังมีทั้งชอว์กับวิลเลียมส์ขวางหน้าอยู่ในการเล่นแบ็คซ้ายขนานแท้และมีพื้นฐานที่ดีกว่าสำหรับตำแหน่งนั้น แถมทั้งคู่ยังฟอร์มดีด้วยในฤดูกาลนี้ ในฐานะแบ็คซ้ายเราพิจารณาเขาได้ยากจริงๆเพราะได้เคยลงเล่นตำแหน่งนี้เพียงแค่6นาทีในการลงสนามจริง และถ้าพยายามคิดหาว่าเขาจะมีอะไรดีกว่าหรือแตกต่างจากชอว์หรือวิลเลียมส์ได้ในตำแหน่งนี้หรือไม่ มันก็ไม่มีเลย
แม้ว่าทิมโบ้จะเล่นแบ็คซ้ายได้ แต่ก็ควรจะใช้แค่เฉพาะกรณีฉุกเฉินสุดๆเท่านั้น
ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คนั้น หน่วยก้านและความสามารถนั้นถือว่าใช้ได้ก็จริงแต่ไม่ได้แปลว่าเขาควรจะเล่นที่ตำแหน่งนี้ เขายังไม่ดีพอสำหรับลงตำแหน่งCBอันสำคัญให้กับสโมสร เป็นเพราะว่ามีกองหลังที่ดีกว่าเขาอยู่แล้วในตำแหน่งที่เป็น "สำรองของแมกไกวร์กับลินเดอเลิฟ" ซึ่งนั่นก็คือ "ตวนเซเบ้" ที่ขวางทางเขาอยู่และดีพอจะลงตัวจริง ในขณะที่ Teden Mengi ที่ดูดีมากในทีมชุดเยาวชนก็อาจจะได้ลงประเดิมสนามในซีซั่นหน้าได้
และอย่าลืม ฟิล โจนส์!
แฮ่!!!
ถึงโจนส์จะโดนแฟนบอลตำหนิค่อนข้างหนักก็ตามแต่เขาก็ยังเป็นเซ็นเตอร์แบ็คธรรมชาติมากกว่าโฟซูมากๆ ทำให้เขาแทบจะเป็นเบอร์สุดท้ายของลิสต์ตำแหน่งกองหลังเลยทีเดียว
ภาพรวมสำหรับตำแหน่งกองหลังนั้น โฟซูเมนซาห์สามารถลงเล่นตำแหน่งนี้ได้สำหรับการเป็นแบ็คอัพให้ทีมหากมีคนประสบปัญหาบาดเจ็บ การใช้งานเขาฐานะ "เซ็นเตอร์ในระบบหลังสาม" อาจจะดูเป็นไปได้มากที่สุด มากกว่าระบบที่เป็นเซ็นเตอร์คู่ที่มีคู่แข่งในตำแหน่งนี้อยู่เต็มไปหมด ดังนั้นเขาอาจจะขึ้นมาทดแทนการขาดหายไปของโรโฮได้บ้าง(ตำแหน่งแทบจะคล้ายกันเลย ยืดหยุ่นทั้งเซ็นเตอร์กับแบ็ค แต่อยู่ทางขวาแค่นั้น) ซึ่งด้านโรโฮก็ย้ายไปอยู่กับ Estudiantesแล้ว ดังนั้นโฟซูเมนซาห์ก็อาจจะเติมความปราดเปรียว ความเร็วให้กับทีม การต่อบอลเข้ากับระบบที่ดี และความสามารถที่ลงในตำแหน่งหลังสามได้ แต่ก็อาจจะยังไม่ใช่จุดเติมเต็มให้ทีมที่ดีที่สุดของเขา
โอเล่อาจจะใช้ทิมโบ้ได้ในสามตำแหน่งที่ว่ามานั้น(แบ็คซ้าย แบ็คขวา เซ็นเตอร์ .. นิวจับฉ่ายชัดๆ) แต่ที่ว่ามานั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาเลย ซึ่งมันจะดีกับตัวเขาเองหากได้ลงในจุดที่ถนัดสุดซึ่งเป็น "สนามรบตำแหน่งที่สี่" ของเขาจากสามตำแหน่งแรกดังกล่าวในการแย่งตำแหน่งในทีมแมนยูไนเต็ด อนึ่ง..จากการที่เจ้าตัวไม่เคยถูกใช้ลงในตำแหน่งมิดฟิลด์เลยไม่ว่าจะเป็นที่ฟูแล่ม หรือพาเลซที่ยืมตัวไปเล่นในลีก หน้าที่ของ"มิดฟิลด์ตัวรับ" ยังคงเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของโฟซูเมนซาห์อยู่เช่นเดิม
เขาเคยเล่นกลางรับอยู่หลายต่อหลายครั้งที่ยูไนเต็ด ลงสนามไป15นัดทั้งทีมชุดใหญ่และชุดสำรอง จึงเป็นอีกตำแหน่งที่ผู้จัดการทีมอาจใช้งานเขาได้ ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ของโอเล่กับสื่อในเกมเอฟเอคัพกับวูล์ฟเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น โอเล่พูดถึงอาการบาดเจ็บที่เล่นงานแผงกองกลางของเขาอย่างหนักหน่วงในซีซั่นนี้ และกล่าวถึงTFMว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้
"ทิมถ้าเขาหายเจ็บกลับมาได้เมื่อไหร่ เขาลงตำแหน่งมิดฟิลด์ได้นะ"
ถึงจะไม่ได้ระบุชัดเจนขนาดนั้นว่านี่จะเป็นตำแหน่งที่เขาได้ลงในยุคของโอเล่ แต่คำพูดนี้ก็ใบ้ให้เห็นอะไรบางอย่างได้ ซึ่งคิดว่านี่น่าจะเป็นจุดที่โฟซูเมนซาห์สามารถทำอะไรให้กับทีมได้มากที่สุด ในรายของมาติชนั้นยังอยู่ก็จริงแต่เขาก็เป็นตัวโฮลดิ้งเสียมากกว่า หากเราปรับไปใช้แผนที่ต้องการ กลางรับ1ตัวในแผนการเล่น แทนการใช้double Pivot นักเตะคู่กลางอย่างแม็คเฟร็ดอาจจะแย่งบอลได้เก่งก็จริงแต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาทั้งคู่เป็นตัวโฮลดิ้งบอลที่ดีไปด้วย
โฟซูเมนซาห์มีความเร็วและคล่องในแบบที่มาติชไม่มี ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้โอเล่สามารถเลือกใช้ได้หากเขาต้องการระบบ"สามมิดฟิลด์"ที่เล่นกันแน่น และต้องการความเร็วในการสู้กันกลางสนามเพื่อแผนการเล่นที่เน้นเหนียวแน่นแข็งแกร่งและมั่นคง มาติชที่ดูจะคืนฟอร์มเก่งได้แล้วก็ตามยังอาจจะเจอปัญหาในการรับมือกับมิดฟิลด์ฝั่งตรงข้ามที่มีความเร็วสูง หรือตัวประเภทที่วิ่งจู่โจมใส่พื้นที่ด้านหลังของเขาที่ทำให้มาติชอาจจะตามไม่ทัน สิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่โฟซูเมนซาห์รับมือได้ดีกว่ามาติช เพราะเขาเต็มไปด้วยสปีด การเล่นด้วยเซนส์ของนักเตะตัวรับ และความสามารถในการเก็บบอลคุมบอล
ตำแหน่งการเล่นคล้ายกันมากระหว่างสองคนนี้ คือเล่นตัวรับสากลได้ทุกตำแหน่ง CB/FB และDM สำหรับอดีต2คนสำคัญยุคจารย์หลุยส์
ทั้งหมดที่ว่านั่นคือสิ่งที่เราคาดหวังว่าเขาจะสามารถทำมันให้กับทีมได้ในอีกช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ดูเหมือนว่าทิมโบ้อาจจะกลายเป็นนักเตะที่ถูกลืมไปแล้วที่ยูไนเต็ด กระนั้นเองก็ยังหวังว่าเขาจะสามารถกลับมายึดตำแหน่งของตัวเองได้ในทีมเรา หนุ่มคนนี้เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ และประกอบไปด้วยความดุดัน คล่องแคล่ว และการเล่นที่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับเกมฟุตบอลในปัจจุบันนั้นสำคัญมากๆ และนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เรายังคิดว่า เขาน่าจะยังมีที่ว่างในทีมเราอยู่
ถึงเวลาพิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลและผู้จัดการทีมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เห็นแล้วทิมโบ้
-ศาลาผี-
References
