:::     :::

ทีมยอดเยี่ยมมูรินโญ่ที่ไร้แข้งปีศาจแดง

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
2,029
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
20 ปีบนเส้นทางกุนซือ กว่า 15 ปีที่ก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์ที่มีชื่อเสียง โชเซ่ มูรินโญ่ ไปที่ไหน ที่นั่นต้องมีถ้วยแชมป์
จาก เบนฟิก้า สโมสรแรกและ อูนิเอา เด เลยเรีย เป็นสองสโมสรแรกในสองปีที่ไม่มีโทรฟี่แชมป์ แต่หลังจากกับ ปอร์โต้ ที่สร้างชื่อให้เราได้รู้จัก"เดอะ สเปเชียล วัน" เมื่อย้ายมาคุมทีมในอังกฤษ
หลังจากนั้น นายใหญ่ชาวโปรตุเกสก็ติดลมบนคว้าแชมป์เป็นว่าเล่นกับทีมสิงโตแห่งกรุงลอนดอน มูรินโญ่ กลายเป็นพระเจ้าสำหรับแฟนบอลหลังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
บางคนอาจจะค่อนขอดว่าเพราะด้วยเม็ดเงินของ โรมัน อบราโมวิช หรือจะอะไรก็ตามแต่ เทรนเนอร์ฝีปากคมก็เดินหน้าคว้าแชมป์ต่อหลังไปคุม อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด รวมถึงตอนกลับไปคุม เชลซี อีกรอบ และล่าสุดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ล่าสุดเจ้าตัวออกมาจัดทีมที่ดีที่สุดที่เคยทำงานด้วย ซึ่งแน่นอนเมื่อมีนักเตะเพียง 11 คนในทีม หลายต่อหลายคนที่ถือเป็นยอดนักเตะที่หลุดไปไม่ว่าจะเป็น เวสลี่ย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, มาร์เชโล่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เซร์คิโอ รามอส, ชาบี อลอนโซ่ หรือ อีเกร์ กาซียาส
และไม่ต้องแปลกใจว่ารายชื่อในลิสต์จะเต้มไปด้วยนักเตะ เชลซี ที่สร้างชื่อให้เจ้าตัวโด่งดังเหมือนทุกวันนี้
แต่ไม่มีนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นะบอกไว้ก่อนเลย
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
สโมสร : เชลซี
        
แข้งอันดับต้นๆที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ดึงตัวมาร่วมทีมจาก แรนส์ ในฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวราว 7 ล้านปอนด์เมื่อปี 2004 
ปีเตอร์ เช็ก เข้ามาเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมในทันที ไม่ใช่แค่เป็นกำลังสำคัญของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่เขากลายเป็นตำนานของ เชลซี ไปเลย
นายทวารทีมชาติเช็กก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในมือกาวที่ดีที่สุดในโลกในการค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์นี่เอง ถ้วยแชมป์กับสโมสรหลั่งไหลมาแทบไม่นับถ้วนทั้งในยุค มูรินโญ่ และยุคของเทรนนอร์คนอื่น มีแชมป์ติดมือในทุกรายการที่ลงสนาม ขาดแค่สโมสรโลกเท่านั้น
ส่วนรางวัลส่วนตัวทั้งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเช็ก, ถุงมือทองคำพรีเมียร์ลีก, ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมยุโรป, ทีมยอดเยี่ยมพีเอฟเอหรืออะไรอีกมากมายนับไม่ถ้วน
แบ็คขวา : ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ
สโมสร : อินเตอร์ มิลาน

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมกับ เชลซี อีกหนึ่งสโมสรที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เปรียบเสมือนพระเจ้าสำหรับแฟนบอลก็คือที่ อินเตอร์ มิลาน นี่เอง
และเมื่อพูดถึง "งูใหญ่" นักเตะที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ที่อยู้ค้าแข้งกับทีมยาวนานถึง 19 ปี ตั้งแต่ปี 1995-2014
ช่วงเวลา 2 ปีระหว่างปี 2008-10 ถือเป็นช่วงที่แข้งชาวอาร์เจนติน่ารายนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับทีมภายใต้การนำของ มูรินโญ่ โดยแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัยนั้น ซาเน็ตติ พลาดการลงสนามไปแค่เกมเดียว และในปี 2010 ที่ได้แชมป์ยุโรปนั้น เจ้าตัวลงสนามครบทุกเกมด้วย
ไม่แปลกหากจะบอกว่านี่คือแบ็คขวาที่ดีที่สุดของ มูรินโญ่ และเป็นแบ็คขวาตลอดกาลอันดับต้นๆของโลกด้วย
เซนเตอร์ : จอห์น เทอร์รี่
สโมสร : เชลซี

ถือเป็นหนึ่งในลูกสมุนรู้ใจของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ถือเป็นนักเตะขาใหญ่, เป็นกัปตันทีม, เป็นแกนหลัก เป็นทุกๆอย่างในเกมรับของ เชลซี
ความสำเร็จของ จอห์น เทอร์รี่ ในเส้นทางลูกหนังต้องบอกว่าได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากนายใหญ่ชาวโปรตุเกส เพราะก่อนที่จะคว้าแชมป์ปบบถล่มทลาย เซนเตอร์ทีมชาติอังกฤษมีแค่โทรฟี่เอฟเอ คัพเพียงรายการเดียวเท่านั้น
เรียกได้ว่าจุดกำเนิดและการยกระดับฝีเท้ามาจาก มูรินโญ่ นั่นเอง
และความสำเร็จกับ "สิงห์บลูส์" นี่แหละที่ทำให้เจ้าตัวอยู่เหนือกองหลังคนอื่นๆที่เคยทำงานกับ มูรินโญ่ มาก่อน
เซนเตอร์ : ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่
สโมสร : เชลซี

ตามเจ้านายมาจากสโมสร ปอร์โต้ ในโปรตุเกส และนี่คือนักเตะคนแรกที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ซื้อมาร่วมทีมหลังรับตำแหน่งผู้จัดการทีมแห่งรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์
จากนักเตะที่แทบไม่มีใครรู้จัก ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กลายเป็นปราการหลังจอมแกร่งอันดับต้นๆของโลก เป็นกำลังสำคัญของทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ
ไม่ใช่แค่ที่ เชลซี เท่านั้น, มูรินโญ่ ยังดึง คาร์วัลโญ่ ตามไปร่วมงานกันตอนที่ไปคุมทีม เรอัล มาดริด ด้วย เรียกได้ว่านี่ถือเป็นแข้งคู่บุญที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ "สเปเชี่ยล วัน" เลย
เรียกได้ว่าแชมป์ที่ คาร์วัลโญ่ เคยได้มาครอบครองในชีวิต เกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้การคุมทีมของชายที่ชื่อ โชเศ่ มูรินโญ่ นี่แหละ
แบ็คซ้าย : วิลเลี่ยม กัลล่าส์
สโมสร : เชลซี

อาจจะเป็นที่ถกเถียงกันซักหน่อยกับตำแหน่งนี้ แต่ โชเซ มูรินโญ่ ก็เลือกให้ วิลเลี่ยม กัลล่าส์ อยู่เหนือ มาร์เชโล่ หรือ แอชลี่ย์ โคล
กับรายหลังเป็นที่เข้าใจได้แม้จะเป็นคนแลกตัวกับ กัลล่าส์ มาจาก อาร์เซน่อล แต่กับ มาร์เชโล่ นั้นถือว่าแฟนบอลเทใจช่วยมากเป็นพิเศษ
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ แข้งทีมชาติฝรั่งเศสคือนักเตะในยุคบุกเบิกความสำเร็จในอังกฤษกับ มูรินโญ่ มา นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเข้าวินเหนือคนอื่น
หากไม่นับถ้วยแชมป์กับ เชลซี ในยุคของ มูรินโญ่ แล้ว กัลล่าส์ ก็ไม่ได้แชมป์ที่ไหนอีกเลยนับตั้งแต่นั้นทั้งกับ อาร์เซน่อล, สเปอร์ส หรือแม้แต่ เพิร์ธ กลอรี่ ในออสเตรเลีย
กองกลาง : โคล้ด มาเกเลเล่
สโมสร : เชลซี

ได้ชื่อว่าเป็นกองกลางตัวตัดเกมที่ดีที่สุดในโลกยุคของเขา ซึ่งอยู่กับ เชลซี ก่อนหน้าที่ โชเซ่ มูรินโญ่ จะเข้ามาคุมทีม 1 ปี ในสมัยของ เคลาดิโอ รานิเอรี่
การมาของ โชเซ่ มูรินโญ่ ยิ่งทำให้ โคล้ด มาเกเลเล่ กลายเป็นแข้งคนสำคัญของสโมสร ด้วยความยอดเยี่ยมในการตัดเกมและยืนตำแหน่งหน้าแผงหลัง ช่วยให้เหล่าบรรดาแนวรุกของทีมเดินหน้าลุยแบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
โชคดีที่ในช่วง 3 ฤดูกาลเศษภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่, มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสไม่เจอกับอาการบาดเจ็บเลย และลงสนามมากกว่า 130 เกม
แชมป์ที่ได้กับ "สิงห์บลูส์" ทั้งหมดก็เกิดขึ้นในยุคของนายใหญ่ชาวโปรตุเกสทั้งหมดนั่นแหละ
กองกลาง : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
สโมสร : เชลซี

ถ้าขาดนักเตะที่ชื่อว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไปคงต้องบอกว่าจิ๊กซอว์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็คงไม่สมบูรณ์อย่างแน่นอน
"เฮียเครียด" ปลุกปั้นมิดฟิลด์ธรรมดาคนหนึ่งให้กลายเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลก และเป็นจอมถล่มประตูที่ไม่น้อยหน้าหรืออาจจะบอกว่าอกงหน้าหลายคนต้องอาย
ถึงขนาดเป็นขนาดเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ภทายมต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ ยาวนานขนาดนั้น แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับ จอห์น เทอร์รี่ ที่ต้องบอกว่าได้รับอิทธิพลอย่างมาก
ก็สามารถพูดได้เต็มคำว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด มีวันนี้เพราะเรียนรู้จาก โชเซ่ มูรินโญ่ เหมือนกัน
แนวรุก : เมซุต โอซิล
สโมสร : เรอัล มาดริด

โชเซ่ มูรินโญ่ เบิกคลัง เรอัล มาดริด 15 ล้านยูโร เพื่อดึง เมซุต โอซิล จาก แวร์เดอร์ เบรเมน มาร่วมทีมในปีแรกที่คุมทีมในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว
แน่นอนว่า 3 ปีในสเปนทั้งของ มูรินโญ่ และ ของตัว โอซิล เอง เป็นช่วงที่สตาร์ทีมชาติเยอรมันมีช่วงที่พีคที่สุดในเส้นทางอาชีพด้วยการซัดถึง 27 ประตูจาก 159 เกมทุกรายการ 
ด้วยฟอร์มสุดยอดนี่เองทำให้ อาร์เซน่อล ที่ปกติไม่ควักกระเป๋าง่ายๆยอมทุ่มเงินระดับ 50 ล้านยูโร เป็นนักเตะเยอรมันที่ค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลด้วย
แม้กับทีม "ปืนใหญ่" จะช่วงที่โชว์ฟอร์มเยี่ยมอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้ดีติดต่อกันนานถึง 3 ปีเหมือนภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ ที่ เรอัล มาดริด อีกแล้ว
แนวรุก : เอแด็น อาซาร์
สโมสร : เชลซี

แม้จะทำงานร่วมกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ เอแด็น อาซาร์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ในซีซั่นอื่นๆกับทีมเหมือนกัน
ตอนย้ายมาจาก ลีลล์ หลายคนยังตั้งจ้อสงสัยในความสามารถของสตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยม กับปีแรกที่ทำได้ 13 ประตูจากการลงสนามถึง 62 จะว่าน้อยก็น้อย จะว่าเยอะก็เยอะ
แต่การมาของ มูรินโญ่ ช่วยเค้นศักยภาพของ อาซาร์ ให้พุ่งออกมาใน 2 ปีแรกกด 17 ประตูตามด้วย 19 ประตูในปีถัดมา ช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและลีก คัพมาครอง
ถึงทำงานกันแค่ 2 ปีเศษ แต่ มูรินโญ่ ก็ยกให้ อาซาร์ อยู่ในลิสต์แนวรุกเหนือ อาร์เยน ร็อบเบน ไปแบบฉิวเฉียด
แนวรุก : คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สโมสร : เรอัล มาดริด

ถือเป็นหนึ่งในลูกรักของ โชเซ่ มูรินโญ่ นอกจากจะเป็นจอมถล่มประตูให้แล้วยังเป็นคนชาติเดียวกันอีกด้วย
จากปีแรกที่ย้ายมาด้วยค่าตัวสถิติโลกกับผลงาน 33 ลูกจาก 35 เกม การมาของ มูรินโญ่ ช่วยให้ โรนัลโด้ ยิงมีความเด่นขึ้นมาอีก 3 ปีที่ทพงานร่วมกัน โรนัลโด้ ทำไปถึง 168 ประตูจาก 164 เกม ยิงมากกว่าที่ลงสนาม บ้าไปแล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นกุนซือคนไหน หากเคยทำงานร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วมาจัดทีมนักเตะที่เคยทำงานด้วย ยังไงก็ต้องมีเขาอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน
แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จในเรื่องของจำนวนโทรฟี่มากนักแค่แชมป์ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ ซูเปร์โกปา เดล เรย์ อย่างละรายการเท่านั้น แต่จากจำนวนประตูยังไงก็ต้องยกให้เค้าล่ะ
กองหน้า : ดิดิเยร์ ดร็อกบา
สโมสร : เชลซี

ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้านั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากชายที่ชื่อ ดิดิเยร์ ดร็อกบา อีกหนึ่งนักเตะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ดึงมาร่วมทีมในปีแรกที่คุม เชลซี
นี่คือหัวหอกที่กุนซือทั่วโลกล้วนอยากมีไว้ในทีม นี่คือนักเตะที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นหอกตัวเป้า ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่, เก็บบอลได้, พักให้เพื่อนได้, เปิดทางให้เพื่อนได้, ชนกองหลังคู่แข่งได้, โหม่งได้, ยิงได้, ฟรีคิกได้
นี่แทบจะครบสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว!
ดร็อกบา อาจจะไม่ใช่กองหน้าที่ยิงประตูถล่มทลาย แต่นี่คือกองหน้าที่ควรจะมีไว้ในทีม ซึ่งกองหน้าแบบนี้ในปัจจุบันหาได้ยากมาก หรือจะบอกว่าหาไม่ได้เลย
นั่นทำให้ยอดกองหน้าทั้งหลายอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, กอนซาโล่ อีกวาอิน, ซามูแอล เอโต้ หรือ คาริม เบนเซม่า ต้องหลีกทางให้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด