เควิน เดอ บรอยน์ ไปไหนดี
ตัวเลขของสตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยมคือสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีกับจำนวนประตู 31 ลูกกับอีก 64 จาก 146 เกมในพรีเมียร์ลีกต้องบอกว่ายอดเยี่ยมเลย ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ติดต่อกัน
จากที่คงจะอยู่ในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยมไปยาวๆ กลับมีเรื่องปัญหาไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ที่สโมสรอาจจะอดไปเล่นในฟุตบอลยุโรป 2 ปี
ในวัยที่กำลังจะครบ 29 ปีในเดือนมิถุนายนนี้ ต้องบอกว่าอยู่ในช่วงที่พีคเต็มที่ หาก "เรือใบ" ติดโทษแบน, 2 ปีที่หายไปถือว่าเสียหายไม่น้อย
อย่างที่รู้กันว่าโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซึ่งเป็นแชมป์สโมสรที่ได้รับยกย่องว่าดีที่สุดในโลกซึ่งใครก็อยากได้มาครอบครอง ไม่เว้นแม้แต่กับ เดอ บรอยน์
ที่สำคัญเจ้าตัวออกมาแย้มว่าอาจจะตัดสินใจอำลาทีมหากสโมสรติดโทษแบนจริง ซึ่งคำพูดที่น่าสนใจคือ "หนึ่งปีเป็นสิ่งที่พอรับได้ แต่สองปีมันนานไป"
แน่นอนว่าทีมที่ย้ายไปร่วมทีมจะต้องมีภาษีดีพอที่จะคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้ ซึ่งมีไม่กี่สโมสร
แต่ความเป็นไปได้คือย้ายไปเล่นในต่างแดนมากกว่า คงจะทำร้ายจิตใจแฟนซิตี้เกินไปหน่อยหากจะไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล!!!
เรอัล มาดริด
เชื่อว่าคงเป็นคำพูดที่เรามักได้ยินอยู่เสมอกับนักเตะที่ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยประโยคที่ว่า "ใฝ่ฝันที่จะให้ เรอัล มาดริด"
เจ้าของตำแหน่งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมากที่สุด 13 สมัย และเป็นแชมป์รายการนี้ 4 จาก 6 ปีหลัง ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของนักเตะที่อยากได้แชมป์ยุโรปมาครองสักครั้ง
การดึง ซีเนดีน ซีดาน กลับมาทำงานอีกครั้งแม้จะยังดูไม่เข้าที่เข้าทางเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าทีมต้องการกลับมาทวงบัลลังค์จากเจ้านายที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้
ติดอย่างเดียวตรงที่พวกเขาไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกแล้ว นั่นอาจจะเป็นปัจจัยหลักให้ทีมฟอร์มไม่เปรี้ยงอย่างที่ผ่านมา และดูท่าทีมอาจจะต้องสร้างทีมขึ้นมาใหม่
เควิน เดอ บรอยน์ จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ขุมกำลังอื่นที่เหลืออาจจะยังต้องลุ้นกันเหนื่อยสักหน่อย
ยูเวนตุส
การมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้ ยูเวนตุส ดีขึ้นทันตาและดูมีภาษีดีขึ้น แม้ว่าสตาร์ทีมชาติโปรตุเกสจะอายุปาไป 35 ปีแล้วก็ตาม
ไหนจะการมาของ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ ในฤดูกาลนี้แสดงให้เห็นว่า "ม้าลาย" ต้องการเสริสร้างความแข็งแกร่งไว้เพื่อสู้ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกโดยเฉพาะ
ที่ผ่านมาทีมแชมป์อิตาลีแสดงความปราถนาอย่างชัดเจนที่จะเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลางหลังปล่อย ปอล ป็อกบา ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทีมก็หวังได้สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสกลับมาอีกครั้งหลังมีข่าวอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่ามิดฟิลด์อาจจะเป็นฟันเฟืองที่ขาดหายไปของ ยูเวนตุส ที่ปรารถแชมป์รายการนี้มากกว่าถ้วยไหนๆในโลก หลังหนสุดท้ายที่ได้มาเชยชมต้องย้อนไปถึงปี 1996 เลย
น่าจะเป็นหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะกับ เควิน เดอ บรอยน์ เหมือนกัน, ทีมกระหาย-นักเตะกระหาย ความสำเร็จคงไม่ไกลเกินเอื้อม
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
อีกหนึ่งทีมใหญ่ของยุโรปที่ไม่มีมีแค่กำลังเงิน เพราะพวกเขาหวังที่จะครองจ้าวยุโรปและเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลกเหมือนกัน
เห็นได้จากการทุ่มทุนมหาศาลดึง เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ สองนักเตะที่ดีอันดับต้นๆของโลกมาร่วมทีม รวมถึงขุมกำลังที่มีอยู่ก็ถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้า
ปัญหาคือแม้ทีมจะไปได้ดีในลีก เอิง ฝรั่งเศส แต่ในฟุตบอลยุโรปนั้นยังไปไม่ถึงไหน ซึ่งในปี 2019/20 ที่ยังระงับการแข่งขันอยู่เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังที่ทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้
แต่อีกปัจจัยที่สำคัญคือเรื่อง เนย์มาร์ ที่ตกเป็นข่าวย้ายทีมหนักเหลือเกิน ถ้าสามารถรั้งให้อยู่กับทีมต่อไปได้จะมีผลกับความสำเร็จของทีมในอนาคตเลย
รอดูฤดูกาลนี้ว่าสุดท้ายทีมจะไปได้ไกลแค่ไหนหากกลับมาเตะกันได้ต่อแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ยังไงทีมไม่มีปัญหาแน่นอนกับการจ่ายค่าตัวหรือค่าเหนื่อยของ เควิน เดอ บรอยน์
แนวรุกที่มี เอ็มบั๊ปเป้, เนย์มาร์, อังเคล ดิ มาเรีย บวกกับ เดอ บรอยน์ คงเป็นอะไรที่น่าดูชมทีเดียว
บาเยิร์น มิวนิค
สโมสรขาใหญ่ของยุโรปที่มีเป้าหมายในการประสบความสำเร็จในทุกรายการที่ลงสนามในแต่ละฤดูกาล แม้ว่าในหลายปีที่ผ่านมาในฟุตบอลยุโรปจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักก็ตาม
ถึงกระนั้น บาเยิร์น มิวนิค ก็ยังเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่มีศักยภาพทำลายล้างและพร้อมที่จะก้าวไปเป็นข้าวยุโรปในทุกๆปี
ที่สำคัญในบุนเดสลีกา เยอรมันนั้น "เสือใต้" แทบจะผูกขาดความสำเร็จในแต่ละปี นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถมุ่งความสนใจที่มีไปใส่ในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อย่างเต็มที่
แต่เรื่องที่เรื่องสักหน่อยคือเป้าหมายของทีมคือ เลรอย ซาเน่ ซึ่งเป็นแข้งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่แล้ว คงเป้ไปได้ยากที่จะซื้อ 2 แข้งสำคัญของทีม "เรือใบ" มาร่วมทีมในคราเดียว
อีกอย่างคือเป้าหมายของพวกเขาคือนักเตะในตำแหน่งตัวรุกริมเส้น กองกลางดูจะเป็นเรื่องรอง แต่หากมีโอกาสได้ก็คงไม่ปฏิเสธที่จะเอามาร่วมทีม
บาร์เซโลน่า
ถือเป็นความเจ็บปวดของเหล่าสาวกเจ้าบุญทุ่มที่ต้องทนเห็นคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด เถลิงบัลลังค์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกติดๆในช่วงหลัง ในขณะที่ทีมไม่ได้แชมป์รายการนี้มาตั้งแต่ปี 2015
ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บาร์เซโลน่า คือทีมเต็งแชมป์ในทุกปีที่ลงสนาม แม้ว่าช่วงหลังเหล่าแข้งหลักจะอายุมากขึ้น แต่ทีมก็พยายามเติมความสดกันแข้งอายุน้อยเข้ามาผสมผสาน
ทีมกำลังวางแผนที่จะปล่อย อีวาน ราคิติช กับ อาร์ตูโร่ วีดาล ออกจากทีม แน่นอนว่าต้องมีใครเข้ามาเสริม แม้ว่าตอนนี้คนที่เป็นข่าวอย่างหนาหูจะเป็น มิราเล็ม เปียนิช ของ ยูเวนตุส ก็ตาม
แต่ด้วยผลงานที่พิสูจน์มาแล้วของ เควิด เดอ บรอยน์ น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากกว่า ที่สำคัญการเรียนรู้การเล่นภายใต้การนำทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะทำให้เขาเข้ากับปรัชญาของ บาร์เซโลน่า ได้ไม่ยาก
เหล่าบรรดาสาวกอาซูลกราน่าอาจจะได้เห็นการผ่านบอลหรือขึ้นเกมสวยๆเมื่อครั้งมี ชาบี เอร์นานเดซ หรือ อันเดรส อีเนียสต้า อีกครั้ง