อาร์เซน่อล พบกับความโชคร้ายต้องเสีย แบรนด์ เลโน่ จากอาการบาดเจ็บหัวเข่าในเกมพ่ายต่อ ไบรท์ตัน 1-2 และแม้จะไม่ได้ร้ายแรงสุดๆ อย่างที่หวาดหวั่นในตอนแรก แต่นายทวารทีมชาติเยอรมันก็ยังต้องพักราว 4-6 สัปดาห์อยู่ดี
โปรแกรมพรีเมียร์ลีกจะปิดฉากในปลายกรกฎาคมนี้ นั่นเท่ากับว่า เลโน่ ไม่น่าฟิตทันกลับมาช่วยทีม และบอกลาฤดูกาลนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย
อาการบาดเจ็บของ แบรนด์ เลโน่ จึงเป็นการเปิดทางให้กับ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารมือสองของทีมได้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่เต็มตัวตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล
นายทวารชาวอาร์เจนไตน์ที่มีชื่อเต็มว่า "ดาเมียน เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ โรเมโร่" เป็นผู้เล่นที่อยู่กับ อาร์เซน่อล มายาวนาน 10 ปีเต็มนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2010 ขณะอายุเพียง 17 ปี
ในช่วง 2 ปีแรก เอมิ มาร์ติเนซ อยู่ในทีมเยาวชนก่อนถูกส่งให้ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ทีมในลีกรองยืมใช้งานและเป็นสโมสรที่เขาได้สัมผัสเกมฟุตบอลอาชีพของอังกฤษในเดือนพฤษภาคม ปี 2012
สถานะของ มาร์ติเนซ คือสำรองตลอดกาล บางฤดูกาลเขารับหน้าที่มือ 2 รอคอยโอกาสในบอลถ้วย บางฤดูกาลหลุดไปเป็นมือ 3
หลายต่อหลายครั้ง นายทวารสำรองอดทนถูกส่งให้สโมสรต่างๆ ยืมใช้งานไม่ว่าจะเป็น เชฟฯ เว้นส์เดย์ (2013-14), ร็อทเธอร์แฮม (2014-15), วูล์ฟแฮมป์ตัน (2015-16), เร้ดดิ้ง (2018-19) หรือกระทั่งทีมในลา ลีกา สเปนอย่าง เคตาเฟ่ (2017-18) ก็เคยเรียกใช้บริการมาแล้ว
โอกาสส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเป็นบอลถ้วย
นับจนถึงฤดูกาลที่แล้ว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ลงเฝ้าเสาให้กับทีมรวมกันทั้งหมด 14 นัด เมื่อเทียบกับการที่ว่าเขาเป็นผู้เล่น อาร์เซน่อล ชุดปัจจุบันที่อยู่กับทีมมานานสุดนับทศวรรษ ก็ถือว่าน้อยนิดน่าเห็นใจ
แต่กระนั้น นายทวารจากเมืองมาร์ เดล พลาต้า ก็เข้าใจสถานะของตัวเองเป็นอย่างดี เขาก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมด้วยความมุ่งมั่นและไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด ในทางตรงกันข้ามก็เตรียมตัวเองให้พร้อมเสมอเมื่อได้รับโอกาส
แม้โอกาสลงสนามในช่วงที่ผ่านมาไม่มากนัก แต่ มาร์ติเนซ ก็ได้ร่วมฝึกซ้อมกับนายทวารเก่งๆ หลายคนตลอดสิบปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น เยนส์ เลห์มันน์, มานูเอล อัลมูเนีย, วอยเชียจ เชสนี่, ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้, ดาวิด ออสปิน่า, ปีเตอร์ เช็ก จนกระทั่งล่าสุด แบรนด์ เลโน่
สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์ชั้นดีและทำให้ทุกวันในการฝึกซ้อมของเขาไม่เคยสูญเปล่า เขาตั้งใจเรียนรู้และเตรียมตัวเองให้พร้อมตลอดเวลาเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม
และตอนนี้โอกาสดังกล่าวก็มาถึงและเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม
"ขอพลังเลโน่จึงสถิตแด่ข้า"
อาร์เซน่อล ในโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 2019/20 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างแท้จริงเพราะทีมกำลังลุ้นทำอันดับให้ติดพื้นที่ยุโรปให้ได้หลังผลงานโดยรวมฤดูกาลนี้ค่อนข้างย่ำแย่จนต้องเปลี่ยนตำแหน่งโค้ชจาก อูไน เอเมรี่ มาเป็น มิเกล อาร์เตต้า โดยที่มี เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก ขัดตาทัพช่วงสั้นๆ
โอกาสหลุดพื้นที่ยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่ายี่สิบปีมีสูงมาก ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่ท้าทายสุดๆ สำหรับ อาร์เซน่อล, มิเกล อาร์เตต้า และผู้เล่นทุกคนในทีม
ด้วยเกมรับที่สั่นคลอนและเสียประตูง่ายของ อาร์เซน่อล ตำแหน่งผู้รักษาประตูจึงเป็นตำแหน่งที่สำคัญอย่างมาก และก่อนหน้านี้ แบรนด์ เลโน่ ก็แสดงให้เห็นว่าเขาสำคัญต่อทีมมากเพียงใด หากไม่งัดซูเปอร์เซฟออกมาช่วยทีมครั้งแล้วครั้งเล่า ทีมปืนใหญ่อาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้ก็เป็นไปได้
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ รู้ดีว่ามาตรฐานที่ เลโน่ ทำเอาไว้สูงลิบทีเดียว แต่เขาก็พร้อมแล้วที่จะทำหน้าที่ทดแทน
"เราซ้อมร่วมกันทุกวัน เราสนับสนุนกันและกัน เราสนิทกันจริงๆ เรามีแม้กระทั่งกลุ่ม วอตส์แอปป์ ที่มีเพียงผม, แบรนด์ และ แม็ตต์ (เมซี่ย์) มันเสียหายอย่างยิ่งที่เขาต้องเจ็บแบบนี้"
"ผมขอให้เขาหายกลับมาเร็วๆ แต่หากเขาต้องพักตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล ผมและ แม็ตต์ จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีในพรีเมียร์ลีก เพื่อทดแทนเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในฐานะผู้รักษาประตู คุณก็ไม่อยากเห็นคนอื่นได้รับบาดเจ็บ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน"
"เกมสุดท้ายที่ผมได้เล่นในพรีเมียร์ ลีกคือเมื่อ 3 ปีก่อน (แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-3) แต่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นตอนที่ถูกส่งลงสนามมา ผมเซฟไป 7 ครั้งติด แต่ผมผิดหวังกับผลการแข่งขัน ผมคิดว่าเราควรนำ 2-0 หรือ 3-0 แต่คุณต้องยอมรับและเรียนรู้ให้ได้"
มือกาวจากอาร์เจนตินาจึงได้ลงตัวจริงนัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ที่ออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ก่อนช่วยทีมเก็บชัยชนะสวยงาม 2-0
อาร์เซน่อล เก็บชัยชนะนัดแรกหลังแพ้ 2 นัดติดที่ฟุตบอลอังกฤษกลับมาแข่งขันอีกครั้ง และตัว มาร์ติเนซ เองก็สามารถเก็บคลีนชีตได้ด้วยซึ่งคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว
พร้อมทำหน้าที่แทน เลโน่ ที่ปิดเทอมฤดูกาลนี้
ก่อนหน้านี้ที่ อาร์เซน่อล บุกชนะคู่แข่งนอกบ้านและไม่เสียประตูต้องย้อนกลับไปนัดเปิดฤดูกาลที่ชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเลยทีเดียว
เกมบุกชนะนักบุญถึงรังเซนต์ แมรี่ส์ เป็นการออกสตาร์ทในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 6 ของ มาร์ติเนซ และสถิติก็น่าพอใจอย่างมากเมื่อช่วยทีมชนะได้ถึง 5 นัด และคลีนชีตไป 4 นัด
สถิติลงตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีกของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เป็นดังนี้
29/11/14 ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 (เยือน)
03/12/14 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 (เหย้า)
06/12/14 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 3-2 (เยือน)
05/04/17 ชนะ เวสต์แฮม 3-0 (เหย้า)
10/04/17 แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-3 (เยือน)
25/06/20 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 (เยือน)
มิเกล อาร์เตต้า กล่าวถึงอดีตเพื่อนร่วมทีมที่เคยร่วมงานกันช่วงที่ อาร์เตต้า เล่นให้ อาร์เซน่อล ว่า "เขามีความอดทนมากๆ มานานหลายปี เฝ้ารอคอยโอกาสนี้ และตอนนี้โอกาสก็อยู่ในมือเขาแล้ว เขาต้องสนุกไปกับมัน ต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้ ทำให้เต็มที่และช่วยทีมอย่างที่เขาต้องการจริงๆ เขาอยู่ตรงนี้ก็เพื่อช่วยทีม"
นอกจากในลีกที่ต้องลุ้นกันนัดต่อนัดแล้ว มาร์ติเนซ ก็ช่วยให้ อาร์เซน่อล ผ่านเข้ารอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จหลังบุกชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และคู่ต่อสู้ที่ขวางทางสู่รอบชิงชนะเลิศก็คือกระดูกชิ้นโตอย่าง แมนฯ ซิตี้
ในความโชคร้ายของ แบรนด์ เลโน่ ก็เป็นโอกาสของ มาร์ติเนซ ที่จะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และแบกความหวังให้กับทีมเต็มสองบ่า
อาร์เซน่อล จะคว้าตั๋วยุโรปในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ได้หรือไม่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ คืออีกคนที่พร้อมลุยสุดตัวเพื่อช่วยทีมทำภารกิจให้สำเร็จ
