เมฆหมอกดำแห่งความล้มเหลวในตลาดซื้อนักเตะกำลังค่อยๆปกคลุมโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกครั้งในตอนนี้ กระแสด้านลบที่ค่อยๆทวีขึ้นเมื่อเส้นตายของการคว้าเจดอน ซานโช่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กับคำถามในใจลึกๆของแฟนแมนยูว่ามหากาพย์นี้มันจะจบลงเมื่อไหร่ และแฟนๆเองก็เริ่มเบื่อหน่ายกับสถานการณ์เหล่านี้กันอยู่แล้ว จะสังเกตได้จากการignoreข่าวไปเลยของแฟนบางคนที่เอาไว้รอชูเสื้อทีเดียว หรือรอตอนตลาดปิดไปเลยค่อยว่ากัน
สิ่งนี้อาจจะดีกว่าการมาติดตามข่าวซื้อขายของแมนยูไนเต็ดให้ปวดตับก็เป็นได้(ฮา)
นอกจากนี้การโดนปาดหน้าเรกีลอนไปแบบตบหน้ากลางสี่แยกของสเปอร์ ก็อาจจะส่งผลให้ทวีความ"มาคุ"ยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อเราต้องพลาดเป้าหมายที่อยากได้ไปอีกตัวนึง แต่ก็ยังโชคดีที่ว่าแฟนผีส่วนใหญ่เข้าใจกรณีนี้ดีว่า บอร์ดเราที่ไม่ยอมจะให้มีbuy-back clause อยู่ในเงื่อนไขสัญญานั้น เป็นสิ่งที่ทำถูกต้องแล้วที่ไม่ให้มาดริดเอาเปรียบได้ง่ายๆ
ไม่ได้ตัวนี้ก็ไปหาตัวอื่นก็ได้ แม้จะไม่หลอกตัวเองว่ามันน่าเสียดายก็จริงที่พลาดคว้าตัว แต่ก็ไม่ได้เป็นworst caseขนาดนั้น
เหลือเวลาอีกสามวันลูกทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา กำลังจะเริ่มลงแข่งขันพรีเมียร์ลีกในซีซั่นใหม่แล้วโดยที่คู่ต่อสู้แรกคือการเจอกับคริสตัล พาเลซ ของบรมของขลังอย่างอาจารย์รอย ฮอดจ์สัน ที่ไม่อาจจะดูถูกได้ ใครที่คิดว่าเกมนี้จะหมู ขอให้คิดใหม่ มันไม่มีงานง่ายสำหรับแมนยูไนเต็ดอีกต่อไปแล้ว
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้รับคำชมเพิ่มมากขึ้นในขวบปีที่สอง(ปีแรกที่ได้ทำทีมเองแบบเต็มๆ)จากการเสริมแนวหลังอย่าง แฮรี่ แมกไกวร์ และ อารอน วานบิสซาก้าเข้ามาที่ทำผลงานได้ถือว่าสอบผ่านเลย ในขณะที่ลุค ชอว์ที่ดีวันดีคืน และรักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างมีมาตรฐาน เป็นตัวเดียวในแผงหลังจริงๆที่ฟอร์มไม่มีแกว่ง และเล่นปิดทองหลังพระให้แนวรับทีมเสมอ รวมถึงเติมเกมบุกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ในแผงแบ็คโฟร์เรายังมีปัญหาในเรื่องของ "คู่หู" ของแฮรี่ แมกไกวร์อยู่เช่นเคย
แม้ว่าสถิติเชิงตัวเลขจะแสดงให้เห็นพัฒนาการเรื่องการป้องกันประตูที่ทำได้ดีและเสียประตูน้อยลง แต่ก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ดีในเรื่องของสไตล์ที่ไม่เข้ากันระหว่างแมกไกวร์กับลินเดอเลิฟ ก็อย่างที่เราทราบๆกันว่าทั้งสองตัวเป็นกองหลังสายball-playingที่จะไม่ชอบเข้าบอล และตัดเกมเร็วก่อนในลักษณะของตัวstopper ทำให้สไตล์การเล่นมันซ้ำกันเกินไปซึ่งจะทำให้ขาดมิติบางอย่าง เช่นลูกหนัก หรือการตัดไฟแต่ต้นลมในเกมรุกคู่ต่อสู้เป็นต้น
กองหลังยูไนเต็ดตอนนี้ยังขาดความเร็วสูงและความแข็งแกร่งซึ่งเป็นด้านกายภาพที่สมบูรณ์แบบ(สำหรับการใช้งานเกมรับ) และบางครั้งโมเดลของ วิดิช-เฟอร์ดินานด์ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ยังคงใช้ยกตัวอย่างได้เสมอในด้านของคอนเนคชั่นระหว่างผู้เล่นสองตัวที่มีความแตกต่างในด้านสไตล์ด้วย
การทุ่มเงินซื้อแฮรี่ แมกไกวร์มา80ล้านแล้วไม่มีคู่หูที่เหมาะสมจริงๆให้เขา และทำให้ลินเดอเลิฟต้องมายืนคู่กันนั้นก็อาจจะกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้เจ้าเลิฟกลายเป็น"ผู้ร้าย"ที่ไปยืนบดบังตำแหน่งกองหลังตัวที่จะมาเข้าคู่แมกไกวร์ก็เป็นได้ ซึ่งจริงๆแล้วลินเดอเลิฟสมควรที่จะได้เป็นกองหลังคนสำคัญที่คอยหมุนลงมาเล่นสลับกับแมกไกวร์ได้ โดยที่มาตรฐานการเล่นจะไม่ดรอปลงไปมาก แง่มุมนี้ต่างหากที่สมควรจะมองลินเดอเลิฟในด้านที่ถูกต้องจริงๆ เพราะไม่ใช่ความผิดมันที่จะลงมาจับคู่แมกไกวร์แล้วฟอร์มไม่ดีเช่นนี้
ดังนั้น "คู่หูของแมกไกวร์" ถือเป็นKey position อีกจุดนึงที่แมนยูควรต้องเสริมทัพให้ได้
เซ็นเตอร์แบ็คทางซ้ายนั้นมีรายงานว่าอยู่ในลิสต์เสริมทัพของโซลชาที่ดูเหมือนน่าจะยังไม่มีทางได้มาในตอนนี้ ซึ่งก็มีข่าวลือตามที่เห็นกันว่าช้อยส์หนึ่งก็คือเซ็นเตอร์ของRB Leipzigอย่าง Dayot Uapmecanoแล้ว แต่ก็เพิ่งต่อสัญญาไป และตามข่าวหากเป็นจริงก็คือเขามีrelease clauseที่เป็นค่าฉีกสัญญาที่จะactivateในปีหน้า
นอกจากนี้ยังมีรายงานกับกองหลังอย่าง Pau Torres ของบีญารีล และ Benoit Badiashile จากค่ายโมนาโกที่ก็มีแนวโน้มว่าจะได้ตัวไม่ยากนักเพราะเราทำธุรกิจกับโมนาโกไม่มีปัญหาอะไร
แต่แม้กระนั้นก็ตามที มีรายชื่อตัวที่จะเข้ามาเสริมทีมเหล่านี้ ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนอีกอยู่ดี(มันก็เป็นความเสี่ยงของทุกๆการซื้อนักเตะอยู่แล้วละนะ)ว่า ตัวเหล่านี้ที่เข้ามานั้นจะดีกว่าสิ่งที่มีอยู่รึเปล่า หากเราพิจารณานักเตะที่เหลือว่า ตอนนี้เอริค ไบญี่ก็ยังอยู่ในทีม และมีฝีเท้าที่ดีแม้จะเจ็บบ่อย หรือกระทั่งแอกเซล ตวนเซเบ้ ตอนนี้กลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมๆกับลุคชอว์แล้วเรียบร้อย
การจ่ายเงิน40ล้านปอนด์เพื่อตัวเหล่านี้ (ตอเรส บาเดียชิล)อาจจะยังต้องใช้เวลาในการปรับตัว ซึ่งยูไนเต็ดตอนนี้ต้องการ"ความเปลี่ยนแปลงทันทีทันใด" ที่สามารถเข้ามาแล้วสร้างImpactได้เลย (เหมือนที่บรูโน่ทำ ก็คือนักเตะพร้อมใช้นั่นแล)
วิธีที่เมคเซนส์อย่างนึงก็คือ เราควรจะอดทนรออีกสักปีค่อยไปbidสู้ในเคสของน้องอเมริกาโน่ Upamecano เพื่อที่จะมาเสริมแอเรียแดนหลังให้แข็งขึ้นนั้น น่าจะโอเคที่สุด ณ ตอนนี้ กระนั้นซัมเมอร์นี้แฟนผีอาจจะต้องทำใจเรื่องของCBไปก่อนที่น่าจะใช้งาน ไบญี่ แมกไกวร์ ลินเดอเลิฟเป็นหลัก โดยมีตัวเสริมอย่างตวนเซเบ้ "และ" กองหลังตัวเก๋าที่อาจจะปล่อยจากทีมไม่ออกสักหนึ่งตัว ไม่ว่าจะเป็น สมอลลิ่ง โจนส์ โรโฮ สามตัวนี้ผมค่อนข้างเชื่อว่า มีตัวใดตัวนึงจะต้องอยู่ช่วยเราในปีที่กำลังมาถึงนี้แน่ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม คำตอบของการ "เสริมกองหลังเพื่อทีมในอนาคต" ที่ว่านี้อาจจะอยู่ใกล้ตัวเกินกว่าที่คิดก็ได้ ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกล เขาคือเด็กปั้นจากระบบเยาวชนของเราเอง
เด็กหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่า Teden Mengi
มาดูข้อมูลเบื้องต้น ตำแหน่ง และจุดเด่นจุดด้อยที่น่าสนใจของเมนจี้กันคร่าวๆ
1.ข้อมูลทั่วไป
Teden Mengi "เทเด้น เมนจี้"
อายุ 18ปี เกิด 30 April 2002 (นี่พวกเราอยู่ในยุคที่เด็กเพิ่งเกิดปี2002 จะมาเตะบอลให้เราดูแล้วเรอะเนี่ย!)
สัญชาติ : อังกฤษ, แองโกลา
ส่วนสูง 183cm น้ำหนัก 74kg
เท้า : ขวา
2.ตำแหน่งการเล่น
หลักๆเลยเมนจี้นั้นเป็นกองหลังCentre-Backโดยธรรมชาติแบบเน้นๆเพียวๆ แต่ว่าเนื่องจากทักษะที่สูงพอและมีความเร็วความคล่องตัว ทำให้เขามีความ "อเนกประสงค์" แบบนักเตะในยุคนี้ที่ต้องใช้งานให้คุ้ม และเล่นได้หลายๆมิติตำแหน่ง เมนจี้จึงสามารถดึงเอาไปเล่นแบ็คในลักษณะของ "Full-Back" ได้ (อยู่ในระดับที่"พอเล่นได้" ก็ถือว่าเก่งแล้วนะ เผื่อฉุกเฉิน ชุดสำรองเขาลงตำแหน่งแบ็คซ้ายไป2นัด)
สไตล์การเล่นเหมือนใคร ถ้าเป็นตัวยุคเก่าๆที่แฟนบอลเด็กโข่งทั้งหลายนึกออกแบบชัดๆอาจจะไม่มี แต่ถ้าเทียบกันเองกับยุคนี้แล้วละก็ สายที่ใช้ความเร็วจัดการกองหน้าคู่ต่อสู้ แข็งๆถึกๆทางบอลดีแบบนี้ ก็ชัดเจนว่า หมอนี่เป็น "Upamecanoจิ๋ว" ได้เหมือนกันนะ เพราะทางเดียวกันเป๊ะๆ
แต่แตกต่างกันนิดหน่อยคือ เหมือนว่าเมนจี้จะใช้ "ความเร็ว"ในการเล่นเป็นหลักๆเพื่อวิ่งไล่ตามประกบ+อ่านทางดักบอล มากกว่าจะใช้ความแข็งแกร่งเข้าแทคเกิล ซึ่งจริงๆเจ้าตัวก็เข้าปะทะหนักได้นะ มีให้เห็นอยู่ ร่างกายแกพร้อมบวกส์มาก
หากให้สรุปเลยว่าแกเป็นกองหลังแบบไหน ผมคิดว่าเมนจี้เป็น"สายผสม" ระหว่าง Stopper + Commanding Defender ที่มีทักษะการเล่นแบบสไตล์Ball-Playing
เรียกว่าเป็นCentral Defender แบบ all-around ก็ได้นะ
3.จุดเด่นที่สำคัญๆ
3.1 สปีดความเร็วที่กองหน้าไม่กล้าหือ
จริงๆแล้วข้อนี้มันไม่ควรจะมาเป็นจุดเด่นของการรีวิวเด็กกองหลังเลย แต่มันก็เป็นไปแล้ว(555) ไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆว่า เทเด้น เมนจี้นั้นจุดเด่นที่สุดก็คือพละกำลังด้านกายภาพของเขา ทั้งความเร็วความแข็งแกร่ง อยู่ในระดับสูงที่สามารถขึ้นไปแตะจุดของนักเตะระดับแนวหน้าได้ คือสวรรค์มอบร่างกายที่แข็งแกร่งมาให้เขา แต่เจ้าตัวก็มีความขยันและพรแสวงในการฝึกฝนและพัฒนากล้ามเนื้อด้วย
จุดหลักที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของเมนจี้ผมคิดว่าเป็น สปีดความเร็วที่กองหน้าไม่กล้าหือ เพราะหมอนี่คือนักฟุตบอลที่มีความเร็วอยู่ระดับต้นๆเมื่อเทียบกันกับทั้งสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ความเร็วใกล้เคียงกับเดอะแฟลชอย่างแดเนียลเจมส์ อันนี้เรื่องจริงเลย ซึ่งจินตนาการกันเอาเองว่า ถ้าคุณเล่นกองหน้า แล้วเจอตัวใหญ่ๆถึกๆ วิ่งด้วยความเร็วระดับแดเนียลเจมส์เข้ามาหา คุณจะรู้สึกยังไง (ฮา)
ดุ้งดิ!!!!!
3.2 การอ่านวิถีของบอล
ข้อนี้ผมจัดให้เป็นอีกเรื่องนึงที่เด่นมากๆของเมนจี้ อยู่ในระดับ"ไม้ตาย" พอๆกับเรื่องความเร็วเลย นั่นก็คือ จากการศึกษาการเล่นของเขาในสนาม พบว่าหมอนี่เป็นกองหลังดักทางที่เก่งมากๆ ตั้งแต่อ่านเกมคู่ต่อสู้ อ่านลูกจ่าย อ่านทางบอล และอ่านวิถีของลูกบอล ไม่ว่าจะลอยกลางอากาศ กะจังหวะตก หรือไทม์มิ่งการเข้าสกัด ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบมากๆเหมือนน้องเป็นคนที่เกิดมาเพื่อจะเล่นกองหลังเท่านั้นเพียวๆเลย คือborn to be defender จ๋าๆเลย
อ่านดักทาง ตัดบอล สกัดบอลเก่งมากๆ โดยที่บางครั้งก็ไม่ได้จำเป็นต้องเข้าปะทะ(tackle)ให้เสี่ยงบาดเจ็บเหมือนเคสไบญี่ด้วยซ้ำ
หน้าแม่งโคตรเอา
3.3 "อินเนอร์การเล่น"
จุดเด่นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยเขียนมาก่อนในการรีวิวเด็กตัวไหนเลย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องพูดว่า เทเด้น เมนจี้ มันเล่นกองหลังด้วย"อินเนอร์"จริงๆ คือเล่นจากข้างในออกมาว่า ข้าเป็นกองหลัง ข้าจะเอาชนะ ข้าจะป้องกันให้สำเร็จให้ได้ น้องดูมีอินเนอร์การเล่นสูง ซึ่งเป็นคนละสิ่งกับPassion แต่มันออกมาจากข้างในจริงๆ
เขียนไปเขียนมาถึงเพิ่งรู้สึกว่า อ๋อ นี่คงเป็นสิ่งเดียวกับที่โซลชาพูดถึงละมั้ง คืออินเนอร์แบบกองหลังแท้ๆที่เราสามารถหาได้จากนักเตะทุ่มเทๆกับเกมรับแบบฟิลโจนส์ โรโฮ เป็นอินเนอร์ที่แข็งแกร่ง
แถมที่สำคัญ น้องเป็นเด็กที่ "กล้าเล่น" มากๆ ไม่ว่าจะช็อตไหนก็ตาม ถ้าบุกก็กล้าบุก บังบอลออกหลังก็มั่นใจและกล้าทำ ไม่มีหวั่นไหว นอกจากนี้ยังมีความเป็นผู้นำสูงมากด้วยคล้ายๆเดอลิกต์ หมอนี่ก็เป็นกัปตันทีมชุดเล็กของเราเช่นกัน และก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับรุ่นพี่ๆในทีมด้วยสังเกตจากการโพสต์ต่างๆก็จะมีเมนจี้แสดงความรู้สึกออกมาทางการโพสต์เสมอๆ
3.4 ทักษะพื้นฐานแบบกองหลังสมัยใหม่
ข้อนี้สำคัญที่จะทำให้เห็นว่าเขาไม่ใช่กองหลังแบบโบราณที่ทำได้อย่างเดียวคือ "สกัดบอล" หลายต่อหลายครั้งเขาพาบอลขึ้นมาในลักษณะแบบball-playing defenderได้ บางครั้งกระชากขึ้นไปนู่น ถึงหน้ากรอบก็มีให้เห็นบ่อยๆ สิ่งนี้ก็เห็นชัดเจนว่า "เข้าแก๊ป" แบบสุดๆกับสูตรการตั้งบอลจากแดนหลังของโซลชา
มิน่าล่ะว่าทำไมโซลชาพร้อมหนีบขึ้นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปีก่อนแล้ว มันลงล็อคขนาดนี้
3.5 อื่นๆ
ด้านอื่นๆนี้คือสกิลที่โดดเด่นรองลงมา เขียนแยกเอาไว้เพื่อให้เห็นชัดว่า 4ข้อด้านบนนี่คือจุดเด่นจริงๆ แต่ด้านอื่นๆที่ดีก็ยังมีอีก เช่น
-ร่างกายแข็งแกร่ง หน่วยก้านดี ข้อนี้จริงๆรวมกับจุดเด่นด้านกายภาพ ที่มัดรวมกับเรื่องสปีดความเร็วก็ได้ เด็กคนนี้สด เร็ว และคล่องมาก จุดเด่นสุดๆเลย
-โหม่งได้ แม้จะสูงแค่183cm แต่หลายๆคนที่กังวลเรื่องส่วนสูง เท่าที่สังเกตมาเมนจี้ก็เป็นตัวที่เทคตัวโหม่งได้โอเค และกล้าที่จะเล่นโดยใช้หัวโหม่งสกัดได้ดีตามมาตรฐาน ก็คล้ายๆคันนาวาโร่นั่นแหละ ตัวเตี้ย แต่แรงจัมพ์ดีอันเกิดจากพื้นฐานมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง
-เทคนิคดี อาจจะไม่ได้เลิศเลอเก่งขนาดพวกตัวรุก ไอ้นั่นก็โม้เกินไป แต่ที่แน่ๆคือตัวนี้มีเทคนิคพอตัว บางทีเห็นกระชากเลี้ยงผ่านขึ้นหน้าได้ชิลๆเหมือนเป็นกลางรุกก็มี ช็อตแตะลอดดากกองหน้าก็มี (โอเชียถูกใจเด็กคนนี้) ก็คือมีเทคนิคการเล่นในระดับที่ใช้งานได้จริง ไม่ใช่กองหลังทื่อๆแน่
-จุดอ่อนที่น่ากังวล คิดว่าก็คงจะเป็นเรื่องส่วนสูงอย่างเดียวแหละที่แม้จะเล่นลูกโหม่งได้ไม่แย่ก็ตามที แต่บางช็อตอาจจะเสียเปรียบได้ หากว่าเทคตัวจากจุดที่ดีกันทั้งคู่ในการแย่งโหม่ง ถ้าเจอคู่ต่อสู้ที่เป็นกองหน้าสายTarget Manตัวใหญ่ๆ อาจจะเสียเปรียบจุดนี้ได้ ส่วนนอกจากนี้ก็คือเรื่องของประสบการณ์ที่คงต้องใช้เวลาเป็นตัวช่วยเท่านั้นในการเพาะบ่มสั่งสมexpไปเรื่อยๆเพื่อทางบอลและการรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ดีในอนาคต
ซัดกับอิกาโล่ได้สบายๆตอนซ้อม
4.สถิติส่วนตัว
เนื่องจากเป็นนักเตะชุดสำรอง ข้อมูลที่ลงลึกหน่อยก็อาจจะไม่มีมากเหมือนพวกนักเตะทีมชุดใหญ่ แต่เอาเป็นว่า ฤดูกาลที่ผ่านมาเทเด้น เมนจี้ ลงไปทั้งหมด 27นัด ทำได้2ประตู กับ2ใบเหลือง โดยที่แบ่งเป็นเกมลีกของ PL2 ทั้งหมด 15นัด ซึ่งเขาเป็นตัวหลักของทีม ลงตัวจริงทั้งหมด14เกม สำรอง1 โดยที่ในยามที่มีเขาลงสนาม15นัด ทีมทำประตูได้ 31ลูก เสียไป15 ซึ่งเฉลี่ยแล้ว เกมที่มีเขาลงเล่นในสนามอยู่ จะสามารถทำประตูต่อ90นาทีได้ในเรท +1.21ลูกต่อนัด (เพราะลงสนามแล้วมีผลต่างประตูที่+16นั่นเอง) คะแนนต่อนัด=2.47 ซึ่งทำได้เกือบๆจะ3แต้มเต็มเลยด้วยซ้ำ
ส่วนการเดบิวต์กับสโมสร เมนจี้ก็ทำไปเรียบร้อยแล้วในเกมกับLASKลงไปแทนโฟซูเมนซาห์ช่วงนาทีที่84
โซลชาพูดถึงเทเด้น เมนจี้เอาไว้ดังนี้
"พวกเรารู้ดีอยู่เสมอว่า ระบบเยาวชนของเราจะสร้างนักเตะขึ้นมาให้ทีมมากมาย และเทเด้นก็ทำให้ผมประทับใจมาก ซึ่งการที่เราจะไว้ใจใช้งานกองหลังที่จะให้เล่นในการแข่งสำคัญๆนั้น มันมีวิธีคิดที่แตกต่างกันไป คุณจะต้องเมคชัวร์ว่าเขาพร้อมแล้วที่จะลงสนาม ตัวอย่างเช่นที่อาแจ็กซ์ มัทไธจ์ เดอลิกต์เป็นกัปตันแล้วในยามที่อายุ18 นั่นเป็นเพราะว่าคุณเห็นความพิเศษในตัวเขา"
"เทเด้นเองก็มีบางอย่างพิเศษในตัวเหมือนกัน มันจึงจำเป็นมากที่จะต้องมอบโอกาสลงเล่นที่เหมาะๆให้กับเขา แบรนดอนเองก็ทำได้ดีในซีซั่นก่อนอย่างที่เห็นเขาขึ้นมาในฐานะแนวรับของเรา"
"ความผิดพลาดของนักเตะกองหลังและก็โกลนั้นเวลาเกิดขึ้นทีนึงก็จะส่งผลต่อทีมมากๆ ในขณะที่กองหน้าถ้ายิงไม่เข้ามันก็ดูจะเบากว่าเยอะ เขาก็แค่ไปอยู่ตรงนั้น และได้โอกาสยิง แต่มันพลาด แค่นั้นเอง"
"นักเตะกองหน้าเวลาที่จะพาทีมชนะได้ก็ต้องใช้ความกล้า กระตือรือร้น ความห้าวแบบเด็กหนุ่ม และไม่กลัวที่จะล้มเหลว ใช้สิ่งเหล่านี้บุกเข้าไป แต่ว่ากลับกัน นักเตะที่เป็นกองหลังจะต้องนิ่งและผู้จัดการต้องมั่นใจว่าเขาพร้อมจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะreactยังไงถ้าถึงเวลาที่ก่อความผิดพลาดเกิดขึ้น"
ด้วยความที่เป็นคนเรียนรู้ได้เร็ว เมนจี้นั้นปรากฏชื่อขึ้นมาอยู่สามครั้งในทีมของแมนยูไนเต็ดซีซั่นที่แล้ว จุดเริ่มต้นคือเมื่อเขาย้ายเข้ามาในปี2018 จากนั้นเขาก็ลงแข่งขันในฐานะ "กัปตัน" ของทีมชุดu-18 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุแค่17ปีเท่านั้นแต่ได้รับการเลื่อนชั้นให้โปรโมทขึ้นมาอยู่ชุด u-23 ของNeil Wood (ซึ่งเป็นชุดสำรองจากfirst team) และก็ยึดตัวจริงได้ทันทีในการลงแข่งขันPremier League 2 ซึ่งนีล วู้ดพูดถึงเขาเอาไว้ว่าเป็นนักเตะที่ "ยอดเยี่ยม" และน่าจะเป็น"เยาวชนคนถัดไปที่จะดันขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ได้"
ด้วยความสามารถโดยพื้นฐานในฐานะนักเตะที่เพียบพร้อม และความเป็นผู้นำในตัวนั้นทำให้เขากำลังตามรอยของเมสัน กรีนวู้ด และก็มาร์คัส แรชฟอร์ดไปเรื่อยๆแล้ว เพื่อที่อาจจะกลายมาเป็นตำนานหน้าหนึ่งก็เป็นได้
ลักษณะเด่นๆของเมนจี้คือความเร็วและฝีเท้าที่เก่งกาจ ซึ่งมีอะไรบางอย่างที่ลินเดอเลิฟไม่มี ซึ่งการวัดสมรรถภาพโดยสโมสรนั้น เทเด้น เมนจี้มีความเร็วเป็นอันดับ4ของนักเตะในสโมสร จะแพ้ก็เพียงคนแบบเจสซี่ ลินการ์ดเท่านั้น(ฮา แต่เรื่องจริงนะ ลินการ์ดก็วิ่งเร็วที่สุดในระยะทางสิบกว่าkจริงๆ) นอกจาก14แล้วก็ยังมี แอกเซล ตวนเซเบ้ และก็แดเนียลเจมส์ อีกสองคนเท่านั้นที่เร็วกว่าเมนจี้ในสโมสรนี้
ย้ำเตือนความจำอีกครั้งนะ ไอ้หมอนี่เป็นกองหลัง!!!
นอกจากนี้เมนจี้ยังสามารถปรับตัวเองลงไปเล่นตำแหน่งฟูลแบ็คได้ด้วยในบางเกมของชุดu-23 ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่ามันเป็นตำแหน่งที่ต้องการความสามารถทางด้านเทคนิคค่อนข้างเยอะ คือต้องเป็นผู้เล่นเทคนิคดีๆนั่นแหละ จะเอาตัวทื่อๆเล่นกับบอลไม่เก่งมาไม่ได้เด็ดขาด, ต้องมีความเร็วในระดับที่ไม่ต่างจากปีก ดังนั้นการที่มีประสบการณ์การเล่นในตำแหน่งนี้นั่นแสดงให้เห็นว่ากองหลังวัยรุ่นชาวอังกฤษผู้นี้ก็สามารถเล่นบอลได้ดีในระดับที่น่าพอใจเลย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราระลึกได้ก็คือ "ความนิ่ง" ในการเล่นกองหลังนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในปรัชญาของโซลชาที่ต้องการให้ทีมเขามี build-up play เริ่มตั้งแต่ไลน์ดีเฟ้นส์แนวหลังเป็นหลักๆ
ซึ่งเมนจี้ทำสิ่งนี้ได้สบาย
พวกเขาคือ "อนาคต" ที่ลุกขึ้นมาช่วยทีมเราที่กำลังขาดแคลนตัวผู้เล่น
สิ่งที่โซลชาพูดว่าเขานั้นมีบางอย่างพิเศษนั้น ไม่ต้องมีคำถามเลยว่าทำไมบอสนอร์วีเจี้ยนรายนี้ถึงได้ประเมินค่าของเขาไว้สูงมากนัก ในเดือนกรกฎาคม แหล่งข่าวหนึ่งจากThe Athleticรายงานถึงสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นถึงการเติบโตขึ้นในขณะที่ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ว่า "เขาดูตัวอย่างและฟังคำแนะนำจากพี่ๆซีเนียร์ในทีม และเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในไม่กี่สัปดาห์ การเล่นของเขาพัฒนาขึ้น มีสมาธิอยู่กับการครองบอลและจ่ายบอลออกไปให้สำเร็จ เขาในตอนนี้สามารถดันสูงขึ้นมาเล่นในพื้นที่บริเวณรับผิดชอบของพวกมิดฟิลด์ได้ ดังเช่นลักษณะเดียวกันกับที่เราเห็นจากCBสมัยใหม่ในยุคนี้ "
นอกจากนี้ในรายงานเดียวกันนี้ยังอธิบายอีกว่าเขาเป็นมือโปร มืออาชีพอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ โดยมีหลักฐานในระหว่างช่วงล้อกดาวน์ว่า เขาใช้เวลาช่วงนั้นในการวิเคราะห์ผลงานการเล่นของตัวเองกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านศึกษาเทปการเล่น แถมยังจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวมาด้วย ชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่แมนยูไนเต็ดต้องการจะเสริมแกร่งให้ทีม
การขึ้นมาซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ของเขานั้นแสดงให้เห็นหลักฐานว่าเขาอยู่ในแผนการของโอเล่ในซีซั่นที่จะถึงนี้ บางคนอาจจะเห็นว่าการใช้เด็ก18ปีในตำแหน่งที่มันมีโอกาสจะทำลายความมั่นใจนักเตะได้ง่ายๆนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเลย เพราะว่าเขาแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆแน่นอนซึ่งแสดงให้เห็นจากการที่ขึ้นมาจากชุดเยาวชนได้
เมนจี้ไม่ใช่กองหลังเท้าซ้ายโดยธรรมชาติที่โซลชาต้องการ แต่มันก็อาจจะมีข้อยกเว้นสำหรับนักเตะที่มีพรสวรรค์โดดเด่นจัดๆและเขาก็อาจจะเหมาะลงตัวกับตำแหน่งนี้พอดีก็ได้
ในช่วงเวลาที่แฟนบอลเจอกับข่าวลบๆมากมายนั้น Teden Meni น่าจะเป็นเรื่องนึงที่สร้างรอยยิ้มและความตื่นเต้นให้กับแฟนแมนยูไนเต็ดได้ในฤดูกาล 2020/21 นี้
-ศาลาผี-
References
https://www.manutd.com/en/news/detail/teden-mengi-compared-to-de-ligt-but-ole-preaches-caution
https://fbref.com/en/players/91748070/Teden-Mengi
https://www.transfermarkt.com/teden-mengi/profil/spieler/548470
