หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัยกลายเป็นผู้เล่นประสบการณ์รายล่าสุดที่เก็บเสื้อผ้าย้ายจาก 'คัมป์ นู' ในช่วงซัมเมอร์นี้ต่อจาก อีวาน ราคิติช, อาร์ตูโร่ วีดาล กับ เนลซอน เซเมโด้ 

นั่นคือการถ่ายเลือดเก่าของทีมอาซูลกราน่ายุค โรนัลด์ คูมัน ที่สโมสรดึงเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก เอ็นรีเก้ เซเตียน ซึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังเกมอัปยศที่ปราชัยต่อ บาเยิร์น มิวนิค 2-8 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมซีซั่นที่ผ่านมา 

ทว่าการถ่ายเลือดของ บาร์เซโลน่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยโดยเฉพาะวิธีทางที่สโมสรบีบให้นักเตะย้ายสังกัดแม้ว่าบางคนจะไม่เต็มใจก็ตาม 

จาก 4 คนข้างต้นมีเฉพาะ เนลซอน เซเมโด้ เท่านั้นที่สโมสรได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นสมน้ำสมเนื้อหลังย้ายไปค้าแข้งกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโรบวกโบนัสอีกจำนวนหนึ่ง ใกล้เคียงกับตอนจ่ายให้ เบนฟิก้า เพื่อดึงแบ็กขวาชาวโปรตุกีสมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัว 30.5 ล้านยูโรบวกโบนัสเพิ่มเติม

ส่วน อีวาน ราคิติช, อาร์ตูโร่ วีดาล กับ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งต่างเหลือสัญญาเพียงปีเดียวถูกปล่อยออกจาก 'คัมป์ นู' ด้วยค่าตัวรวมกันไม่ถึง 10 ล้านยูโร!?!?

ราคิติช ย้ายจาก เซบีย่า มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโร ตลอด 6 ปีกับทีมอาซูลกราน่าลงเล่นทุกรายการ 310 เกม ยิง 36 ประตู ก่อนถูกปล่อยกลับทีมเก่าด้วยค่าตัวเพียง 1.5 ล้านยูโรบวกโบนัสจำนวนหนึ่ง 

ย้อนกลับไปในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 บาร์เซโลน่า เคยปฏิเสธข้อเสนอมูลค่า 90 ล้านยูโรจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ยื่นซื้อ ราคิติช ในช่วงหน้าร้อนปีนั้น ทว่าอีก 2 ปีต่อมา ทัพอาซูลกราน่าเลือกโละทิ้งมิดฟิลด์ชาวโครแอตด้วยค่าตัวจุ๋มจิ๋มเพียง 1.5 ล้านยูโร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แข้งวัย 32 ปีทำข้อตกลงกับทีมเซบียาโน่นั่นเอง

ตามข้อมูลระบุว่า ราคิติช รับค่าจ้างจาก บาร์เซโลน่า ปีละประมาณ 13 ล้านยูโร เฉลี่ยสัปดาห์ละ 256,000 ยูโร ซึ่งทีมอาซูลกราน่าต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเหนื่อยของนักเตะหลังประสบปัญหาเสียรายได้ก้อนโตกว่า 300 ล้านยูโรจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

ไม่ต่างจากสถานการณ์ของ อาร์ตูโร่ วีดาล ที่ย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ด้วยค่าตัวราว 19 ล้านยูโร ทว่ามิดฟิลด์วัย 33 ปีค้าแข้งใน 'คัมป์ นู' เพียงสองฤดูกาลเท่านั้น ก่อนถูกปล่อยไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านยูโรบวกโบนัสจำนวนหนึ่ง ทั้งที่ทีมเนรัซซูร์รี่เคยยื่นข้อเสนอราว 20 ล้านยูโรซื้อมิดฟิลด์ทีมชาติชิลีในช่วงหน้าร้อนปีก่อน แต่ทีมยักษ์กาตาลุนย่าบอกปัดข้อเสนอดังกล่าว

วีดาล เหลือสัญญากับ บาร์เซโลน่า อีกหนึ่งปี มีกำหนดรับเงิน 9 ล้านยูโร หรือราวสัปดาห์ละ 173,000 ยูโร ซึ่งทีมอาซูลกราน่าต้องการปลดเปลื้องภาระดังกล่าว

มาถึงคิว หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าวัย 33 ปีที่ค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า มานาน 6 ฤดูกาล นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ก่อนสร้างชื่อเป็นหนึ่งในกองหน้าดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร 

หัวหอกทีมชาติอุรุกวัยกระทุ้งรวมกัน 198 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 283 เกม ซึ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ของสโมสรต่อจาก ลิโอเนล เมสซี่ (634 ประตู) และ เซซ่าร์ โรดรีเกซ (232 ประตู) เขาคว้าแชมป์ 13 รายการ โดยเฉพาะ ลา ลีกา 4 สมัย, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 ครั้ง และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อีกหนึ่งสมัย 

ทว่า บาร์เซโลน่า ตัดสินใจโละทิ้ง หลุยส์ ซัวเรซ ให้ แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวเพียง 6 ล้านยูโร ส่วนเพราะต้องการเซฟเงินค่าจ้างปีละ 23.4 ล้านยูโร หรือราวสัปดาห์ละ 450,000 ยูโร

หลุยส์ ซัวเรซ เคยแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ปีหน้าเป็นอย่างน้อย แต่มีรายงานข่าวอ้างว่า โรนัลด์ คูมัน โทรศัพท์แข้งนักเตะให้หาสังกัดใหม่โดยใช้เวลาบอกกล่าวไม่ถึงนาทีจนเทรนเนอร์ชาวดัตช์ถูกวิจารณ์ว่าปฏิบัติแบบไม่ให้เกียรตินักเตะที่สร้างคุณงามความดีกับสโมสรมานาน 6 ปี 

บาร์เซโลน่า แถลงข่าวการปล่อยตัว หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายไปค้าแข้งกับ แอตเลติโก มาดริด อย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา ซึ่ง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานบาร์ซ่ายกย่องกองหน้าวัย 33 ปีเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรและยืนยันว่า บาร์เซโลน่า ยังคงเป็นบ้านของกองหน้าชาวอุรุกวัยตลอดไป

'มันเป็นวันพิเศษมาก ไม่มีใครปฏิเสธเสน่ห์ของเขาและความรู้สีกที่มีเรา มันเป็นวันพิเศษมาก เขาเป็นตำนานในประวัติศาสตร์สโมสร กับการคว้าแชมป์ 13 รายการและเป็นผู้ทำประตูมากสุดอันดับ 3 เขาให้เรามากมายจนถึงวันนี้ เรารู้สึกขอบคุณมาก'

'ผมจำได้ตั้งแต่ช่วงเวลาแรกที่ ซัวเรซ ย้ายมาเป็นคนของเรา หลุยส์ เดิมพันกับ บาร์ซ่า ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ผมต้องการเน้นถึงการมีส่วนร่วมของเขาด้วยแคแร็กเตอร์และการต่อสู้ ในนามของชาวกาตาลันทั้งมวลในโลก ผมขอกล่าวคำขอบคุณ ขอให้คุณมีความสุขมากๆทั้งในและนอกสนาม สำหรับคุณและครอบครัว บาร์ซ่าคือบ้านของคุณตลอดไป' บาร์โตเมว กล่าว

หลังการเริ่มต้นแถลงข่าวของประธานสโมสรบาร์เซโลน่าที่กล่าวยกย่องและขอบคุณนักเตะเสร็จสิ้นลงก็เป็นคิวของ หลุยส์ ซัวเรซ ที่เริ่มต้นด้วยการขอบคุณสโมสรที่่ช่วยเติมเต็มความฝันของเขา 

'มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับผม ก่อนอื่นขอขอบคุณสโมสรที่ไว้วางใจผมหลังจากการทำผิดพลาดก่อนเซ็นสัญญา (ก่อเรื่องกัดไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ในศึกฟุตบอลโลก 2014 จนถูกฟีฟ่าแบน 4 เดือน) ผมจะขอบคุณเสมอสำหรับการเยียวยาที่ได้รับ ทุกคนต่างทราบดีถึงความพยายาม'

'ผมมีเพื่อนฝูงมากมายที่นี่ ฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึกว่ากำลังจะจากไป ขอบคุณครอบครัวผมที่อดทนและใช้ชีวิตทุกอย่างร่วมกับผม สิ่งดีๆที่พวกเขามีความสุขและไม่ดีที่พวกเขาให้กำลังใจผม ผมจะเก็บทุกอย่างที่ดีไว้ ลูกๆของผมเห็นผมชูโทรฟี่แชมป์และทำประตูได้มากมาย ที่พวกเขาเห็นผมอยู่เคียงข้างคนเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ สำหรับผมจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ขอบคุณแฟนๆสำหรับความรัก ความสำคัญที่มอบให้ผมและผมจะไม่มีวันลืม ขอบคุณมากสำหรับทีมสตาฟฟ์ พวกเขาจะมีอีกหนึ่ง 'กูเล่' เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน'

'การมาที่นี่คือความฝันที่เป็นจริง ผมไม่คิดว่าจะอยู่ถึงการทำสถิติเหล่านี้ ผมสามารถจากไปพร้อมความภาคภูมิใจและความพึงพอใจหลังจาก 6 ปีนี้'

'เรามีความทรงจำมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมชอบการคว้าแชมป์ลีกาสมัยแรก, แชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกและผมทำหนึ่งประตู หลังการอำลาเพื่อนนักเตะ แต่ละคนมีวิถีชีวิตของพวกเขาและผมจะเก็บมันไว้กับตัวเอง'

'สิ่งที่ต้องชื่นชมตอนนี้คือผมต้องรู้สึกภูมิใจ มีคนเห็นด้วยเสมอและคนอื่นๆอาจไม่เห็นด้วย ช่วงเดือนหนึ่งที่ผ่านมามันบ้าบอมาก มีการพูดเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมาย เรื่องราวต่างๆถูกประดิษฐ์และรั่วไหลออกมาและมีเรื่องบางอย่างทำให้ผมควันออกหัว'

'ทุกคนต่างรู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับ เลโอ (เมสซี่) ตอนที่มาถึง บาร์เซโลน่า มีคนพูดว่า 'ระวัง เลโอ' แต่ช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เราพยายามทำให้ผลให้ดีที่สุด ผมต้องภูมิใจกับเรื่องนั้น'

'ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้ว มันเป็นเพียงอดีต ผมรู้สึกว่ายังมีความสามารถในการเล่นลีกาพร้อมด้วยความปรารถนามากมาย มากกว่าปีที่่ผ่านมา ผมจะลงแข่งต่อไปด้วยความกระตือรือร้นและเป้าหมายใหม่'

'นักเตะและสโมสรมีการเปลี่ยนแปลง แต่เทรนเนอร์ไม่นับรวมผลเป็นหนึ่งในนั้น ผมจากไปพร้อมกับความรู้สึกที่ผมได้เติมเต็มแล้ว ด้วยประสิทธิภาพเหนือกว่าผู้เล่นชั้นยอดหลายคนและมีความสุขที่ได้ทิ้งภาพลักษณ์ที่ดี ที่พวกเขาจะจดจำผมสำหรับเรื่องราวดีๆที่ผมทิ้งไว้ที่สโมสรแห่งนี้'

'ตอนที่เทรนเนอร์บอกผมว่าเวลาของผมสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผมยังทำงานต่อไปและได้รับความเคารพจนกว่าผมจะค้นพบทางออกใหม่ เทรนเนอร์ก็ไม่มีปัญหาใดๆ'

'เมื่อ บาร์ซ่า ส่งผมเข้าตลาดนักเตะและมีคนโทรศัพท์ติดต่อมาจำนวนมาก ผมรู้สึกมีพลังที่จะไปแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน'

'ผมติดใจความท้าทายใหม่นี้มาก การแข่งขันกับทีมเก่าของคุณเป็นเรื่องพิเศษ ผมรู้จักพวกเขาและบอกพวกเขาไปบ้างแล้ว เล่นเกมป้องกันตามแบบฉบับของผม มันจะดีเอง'

'มันยากที่จะยอมรับในการจากไป แต่มันคือความเป็นจริงและมันคือสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของฟุตบอล' 

'ผมได้คุยกับ ดีเอโก้ (ซิเมโอเน่) และกับ อองตวน (กรีซมันน์) ผมกำลังจากไปด้วยความกระตือรือร้นและความคาดหวังสูง พวกเขาต่อสู้เพื่อแชมป์ ลา ลีกา และสะท้อนให้เห็นว่าเป็นทีมที่มีความสามารถในการแข่งขันและมีความทะเยอทะยาน ผมหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายสำคัญกับทีมใหม่'

'ผมเคยเผชิญหน้ากับ เมสซี่ มาแล้วในการเล่นทีมชาติและสิ่งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของเรา เราจะไม่นำมันมาผสมปนเปกัน'

ระหว่างการแถลงข่าว หลุยส์ ซัวเรซ ชำเลืองมอง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว หลายครั้งเหมือนเป็นภาษากายที่บ่งบอกว่าประธานบาร์ซ่าเป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่บีบให้เขาต้องย้ายออกจาก 'คัมป์ นูง ว่า 'วันนี้เป็นวันอำลาของผมและผมจะไม่ทำให้ใครไม่พอใจ' กองหน้าวัย 33 ปีกล่าวแบบติดตลก 'เราพยายามจะจบลงด้วยดีอย่างที่เป็นมา'

หลุยส์ ซัวเรซ มีคิวลงเผชิญหน้ากับทีมเก่านัดแรกบนสังเวียน 'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่' วันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ก่อนกลับไปเยือน 'คัมป์ นู' ในวันที่ 5 พฤษภาคมศกหน้า