“อันเดรีย ปิร์โล่” ถือเป็นนักเตะสำคัญในแดนกลางของเอซี มิลาน ผู้คอยกำหนดจังหวะเกมในแดนกลาง โดยผ่านการค้าแข้งในถิ่น “ซาน ซีโร่” 10 ฤดูกาลเต็ม แน่นอนว่า นอกจากแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อีกหนึ่งความทรงจำของเขาคือการพาพลพรรค “ปีศาจแดง-ดำ” คว้าแชมป์ยุโรป 2 สมัย 

ย้อนกลับไปเวลานั้น บุคคลที่คอยมอบโอกาสสำคัญ นั่นคือ “คาร์โล อันเชล็อตติ” ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์ โดยเฉพาะการเปลี่ยนตำแหน่งการยืนในสนามของปิร์โล่ ให้ยืนในแนวหลังกองหน้า ทำให้สามารถงัดศักยภาพออกมา จนได้กลายเป็นหนึ่งกองกลางระดับโลก 

อย่างไรก็ตาม ชีวิตของปิร์โล่ กับเอซี มิลาน เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน รวมถึงการโบกมือลาจาก อันเชล็อตติ ที่โยกไปคุมเชลซี นำมาซึ่งคำปรามาสที่เข้ามา ในแง่ของอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ กระนั้น เขายังขอฝ่าฟัน และขอพิสูจน์ตัวเอง ... ช่วงนี้ เราลองไปย้อนวันวานของเหตุการณ์กัน

ย้อนไปช่วงปี 2009 อันเชล็อตติ ตัดสินใจแยกทางกับเอซี มิลาน ทีมที่คุมทีมมาอย่างยาวนาน พร้อมกับโยกไปกุมบังเหียนทีมเชลซี ซึ่งถือว่าเป็นการคุมทีมนอกบ้านเกิดเป็นครั้งแรกในชีวิต จากนั้น อันเช่ นำเรื่องเสนอไปยังบอร์ดบริหาร ในการเสริมทัพที่อยากจะได้

หนึ่งในคนที่อันเชล็อตติ ร้องขอให้บอร์ดบริหารของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ดึงตัวมาร่วมทีมให้ได้ นั่นคือลูกศิษย์คนโปรดอย่างปิร์โล่ ซึ่งตัวของปิร์โล่ ออกมายอมรับภายหลังว่า เขาอยากย้ายออกจากถิ่น “ซาน ซีโร่” เช่นเดียวกัน เพื่อกลับมาร่วมงานกับเจ้านายคู่ใจอีกครั้ง แต่แผนการทุกอย่างต้องพับลงไป

เนื่องจากบอร์ดบริหารเชลซี ทำการแจ้งกลับไปยังอันเชล็อตติ ว่าไม่อาจอนุมัติการซื้อตัวปิร์โล่ มาร่วมทีมได้ พร้อมกับแนบเหตุผลประกอบว่า กองกลางทีมชาติอิตาลี รายนี้มีอายุที่มากเกินไป และไม่น่าจะเอาตัวรอดกับการเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกที่เน้นการเข้าปะทะได้อย่างแน่นอน 

ปิร์โล่ ย้อนความทรงจำว่า “ผมมีโอกาสย้ายตามอันเชล็อตติ ไปอยู่กับเขลซี แต่การเจรจาต้องล่มไปแบบไม่เป็นท่า เนื่องจากบอร์ดบริหารของเชลซี มองว่าผมอายุมากเกินไปสำหรับพวกเขาทั้งที่ช่วงเวลานั้น ผมเพิ่งมีอายุแค่ 30 ปี”

กระทั่ง2 ปีต่อมา ปิร์โล่ ในวัย 32 ปี ต้องถูกปล่อยออกจากเอซี มิลาน แบบไร้ค่าตัว เพราะทีมมองแล้วว่า ปิร์โล่ แก่จนเกินไป 

นอกจากนี้ เอซี มิลาน ยังมองว่าปิร์โล่ เลยจุดสุดยอดในการค้าแข้งไปแล้ว  โดยพวกเขาทำการดึงตัวบรรดากองกลางรุ่นใหม่มาร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น อัลแบร์โต้ อควิลานี่, ซัลลี่ย์ มุนตารี่ และอันโตนิโอ โนเชริโน่

ผลสุดท้าย ปิร์โล่ ที่ถูกมองว่าแก่เกินไปอีกแล้ว ในวัย 32 ปี เขาย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับร่วมลีกอย่างยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นดีลฟรีที่คุ้มค่ามากๆ 

ปิร์โล่ สามารถทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม ตลอด 4 ฤดูกาลเต็มในเมืองตูริน โดยผ่านการคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัยติดกัน (หนึ่งในนั้นมีการไร้พ่าย) พ่วงด้วยโคปปา อิตาเลีย 1 ครั้ง 

ซึ่งช่วงเวลา 4 ฤดูกาลดังกล่าว เอซี มิลาน ที่ขาดปิร์โล่ ไปแล้ว ไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดมาครองได้เลย ถือเป็นการตอกย้ำว่า การสูญเสียปิร์โล่ ออกจากทีมไป ส่งผลกระทบต่อรูปเกม รวมไปถึงความสำเร็จของทีมพอสมควร

ปิร์โล่ ทิ้งท้ายถึงการที่โดนหลายสโมสร โดยเฉพาะทีมที่เขารักอย่างเอซี มิลาน สบประมาทในเรื่องอายุ และมองว่าเขาไม่น่าจะสร้างแรงกระเพื่อมกับทีมได้

โดยกล่าวว่า “ผมย้ายออกจาก เอซี มิลาน เพราะพวกเขาไม่ต้องการผมอีกต่อไป ผมต้องการจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ผมยังสามารถเล่นในระดับสูงได้ และนั่นคือสิ่งที่ผมได้แสดงให้เห็นแล้ว”