โอกาสของ "ม้ามืด"
ชัดเจนนะครับว่าซีซั่นนี้จะไม่ใช่แบบซีซั่นที่แล้วที่ ลิเวอร์พูล ตะบึงควบเก็บคะแนนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบม้วนเดียวจบ และจะไม่เหมือนกับ 2 ซีซั่นก่อนที่ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็น 2 ทีมที่เดินหน้าเก็บแต้มอย่างสนุกสนานโดยไม่เปิดโอกาสให้ทีมอื่นเขาเลย
นี่คือฤดูกาลที่เปิดกว้างและน้าแมวมองว่า "ม้ามืด" 2 ทีมมีโอกาสที่จะเป็นตัวสอดแทรกได้ครับ นั่นก็คือ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี และ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
ขออนุญาตตัด อาร์เซน่อล และ แมนฯยูไนเต็ด ออกไปก่อน เพราะว่า ไอ้ปืนใหญ่ เล่นไป 8 เกมชนะ 4 แพ้ 4 โดยเฉพาะ 4 นัดหลังแพ้ไป 3 สถิติแบบนี้ไม่ใช่ลักษณะของทีมที่จะเป็นแชมป์อย่างแน่นอน การแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-3 คาถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ตอกย้ำตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
อาร์เซน่อล เพิ่งจะยิงไปได้แค่ 9 ประตู เมื่อ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ฟอร์มหล่นอย่างน่าใจหายแบบนี้ผลงานของทีมก็หล่นตามไปด้วย ขุมกำลังของ เดอะ กันเนอร์ส ยังไม่พอเพียงต่อการลุ้นยาวๆครับ
เช่นเดียวกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แห้งชามน้ำชามวนลูปไปมา สถิติ 3-1-3 ใน 7 เกมแรกของพวกเขาทำเอาแฟนๆ เร้ด อาร์มี่ กระอักกระอ่วน น้าแมวว่าปัญหาพวกเขายังมีอีกเยอะ อย่างแรกเลยผู้บริหารไม่จริงใจ คือมาขุดขุมทองจากสโมสรไม่ใช่มาทำให้ดีขึ้นอย่างที่ผู้บริหารของ แมนฯซิตี้, เชลซี, ลิเวอร์พูล หรือ เลสเตอร์ เขาทำ
อย่างที่สอง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังไม่ใช่กุนซือที่จะพาทีมประสบความสำเร็จ ดูจากบุคลิกและโหวงเฮ้งแล้ว น้าแมวจะแปลกใจมากถ้า โซลชา พา แมนฯยูฯ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในส่วนของตัวผู้เล่นกองหน้าตัวเป้าซึ่งสำคัญมากๆ แมนฯยูฯ ใช้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล บอกเลยว่าเป็นแชมป์ยาก
ทีมระดับแชมป์พรีเมียร์ลีกต้องการกองหน้าที่เก่งกว่านี้ ยิงเป็นกอบเป็นกำมากกว่านี้ การแสดงออกในสนามของ มาร์กซิยาล ที่ชอบทำหน้าเรียบๆเฉยๆ น้าแมวว่าไม่ใช่อะ แมนฯยูฯ ควรจะขายเขาออกไปแล้วเอานักเตะอย่าง แดนนี่ อิงส์ มายังดีซะกว่า จากนี้ไปทีมควรจะให้โอกาสของ เอดิสัน คาวานี่ มากกว่านี้
ด้วยปัญหาในเกมรับที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายก็จะต้องตัด แมนฯยูไนเต็ด ออกไปเช่นกัน
"ม้ามืด" ที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้คือ เชลซี ครับ !
แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้ทีมที่สมบูรณ์มากขึ้น ว่ากันตามตรงเวลานี้ขุมกำลังของ เชลซี ดีกว่าเขาหมด ติโม แวร์เนอร์, คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเย็ค, ไค ฮาแวร์ตซ์, เมสัน เมาน์ต, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ติอาโก้ ซิลวา ฯลฯ ชื่อเหล่านี้ดีพอที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้
ที่สำคัญปัญหาในเกมรับพวกเขาได้รับการแก้ไขด้วยการเปลี่ยนโกล์มาเป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ดูสิครับ 6 นัดในทุกรายการเสียไปแค่เม็ดเดียวให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เท่านั้น แล้วเห็นมั้ยว่าระยะหลังๆ เชลซี ยิงระเบิดเลยพวกเขาชนะ คราสโนดาร์ 4-0 (เยือน), ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-0 (เยือน), ชนะ แรนส์ 3-0 (เหย้า) และ ชนะ เชฟฯยูฯ 4-1 (เหย้า) เป็นสัญญาณเตือน ลิเวอร์พูล และ แมนฯซิตี้ เต็มๆ
"เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ เองได้ รูเบน ดิอาส มาเราจะเห็นได้ว่าเกมรับเริ่มที่จะเข้ารูปเข้ารอยแล้ว แต่นี่ เนธาน อาเก้ ก็เจ็บจากเกมทีมชาติซะอีก และสิ่งหนึ่งที่ แมนฯซิตี้ อ่อนลงก็คือ "เกมรุก" พวกเขาไม่ใช่ทีมที่มีเกมรุกมหาวายร้ายเหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อนอีกต่อไปแล้ว
การถดถอยของ ลิเวอร์พูล และ แมนฯซิตี้ บวกกับการพัฒนาตัวเองขึ้นมาของ เชลซี และ สเปอร์ส มันคือการ "สวิง" ที่ชัดเจนเลยล่ะ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า เชลซี และ สเปอร์ส จะยืนระยะได้ดีแค่ไหน โดย สเปอร์ส นั้น น้าแมวเขียนถึงไปหลายครั้งแล้ว โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 6 นัดถัดไปจะชี้ชะตาว่า ไก่เดือยทอง ทีมนี้ดีพอที่จะเป็น "ม้ามืด" เหมือน เชลซี หรือไม่
แมนฯซิตี้ (เหย้า), เชลซี (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า), คริสตัล พาเลซ (เยือน), ลิเวอร์พูล (เยือน) และ เลสเตอร์ (เหย้า) นี่มันนรกชัดๆ
อัตราต่อรองแชมป์พรีเมียร์ลีกล่าสุดที่ สกาย เบ็ต เปิดออกมาก็คือ แมนฯซิตี้ 11-8, ลิเวอร์พูล 13-8, เชลซี 8-1, สเปอร์ส 10-1, แมนฯยูฯ 28-1, อาร์เซน่อล 28-1 ฯลฯ
แมนฯซิตี้ และ ลิเวอร์พูล คงทำแต้มไม่ถึง 90 กว่าแต้มเหมือน 2 ซีซั่นที่ผ่านมาแน่ ก็ต้องลุ้นกันว่า เชลซี กับ สเปอร์ส จะทำได้ดีแค่ไหน ถ้า 2 ทีมนี้กล้าๆทำสัก 87-90 แต้ม ในฤดูกาลนี้ ก็ถึงแชมป์ได้เหมือนกันครับ
"แมวเพชร"