เวลาที่นักฟุตบอลพูดถึงสโมสรเก่าของเขา เรามักจะได้ยินเสมอๆว่าพวกเขายังคงติดตามผลการแข่งขันอยู่ตลอดเวลาที่ย้ายไปอยู่กับทีมใหม่แล้ว ซึ่งการบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นแบบนี้ ก็เป็นเรื่องซ้ำๆเดิมๆที่ทุกคนได้ยินกันจนเบื่อจากนักเตะแทบทุกคน แต่ว่าแฟนๆก็ยังชอบที่จะได้ยินนักเตะเก่าพูดแบบนี้ออกมาเสมอ เพราะฟังแล้วมันฟิน

ฟาบิโอ ดาซิลวา ไม่เสิร์ชหาผลการแข่งขันของแมนยูไนเต็ดมามากกว่า6ปีแล้วนับตั้งแต่เขาย้ายออกจากโอลด์แทรฟฟอร์ด เพราะว่าทุกๆครั้งที่แมนยูยิงเข้า หรือเสียประตู โทรศัพท์ของเขาจะส่องแสงสว่าง หรือสั่นอยู่ในกระเป๋าตลอดเวลา

แทบจะไม่มีอะไรน่าแปลกใจเลยหากจะถามถึงเรื่องของยูไนเต็ดจากปากของฟาบิโอ เรื่องที่สโมสรเปลี่ยนชีิวิตของเขาและคู่แฝดของเขาอย่างราฟาเอล ที่เพิ่งจะได้เดินทางกลับมาเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดในเกมล่าสุดกับอิสตันบูล บาชัคเชเฮียร์

แม้ฟาบิโอจะได้ลงเล่นให้แมนยูไนเต็ดเพียงแค่56เกม แต่แบ็คชาวบราซิลเลียนผู้นี้ก็ไม่เคยลืมสโมสรเรา หรือสิ่งที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้ทำให้เขาและครอบครัวเอาไว้ ดังนั้นเขาถึงได้เซ็ตnotificationเกี่ยวกับที่นี่เอาไว้ตลอดเท่าที่จะเป็นไปได้ กับอีเวนต์ทุกๆอย่างที่เกิดกับโอลด์แทรฟฟอร์ด ทุกๆสิ่งนั่นเองจึงเป็นสาเหตุให้พวกเขาทั้งสองวางเป้าหมายเอาไว้ว่า หลังจากแขวนสตั๊ดแล้วพวกเขามีแพลนจะบินมาแมนเชสเตอร์ในทุกๆสุดสัปดาห์เพื่อที่จะมาเชียร์แมนยูไนเต็ดร่วมกับเหล่าแฟนบอลที่ยังคงรักและคิดถึงพวกเขาทั้งสอง

ฟูลแบ็ครายนี้ยังคงค้าแข้งอยู่ในลีกเอิงกับNantes และมีความสุขกับชีวิตที่แคว้นเบรอตาญ(Bretagne หรือ Brittany อยู่ซีกซ้ายบน หรือตะวันตกเฉียงหนือของฝรั่งเศส ฝั่งด้านที่ติดทะเลคู่กับอังกฤษ) แต่สำหรับช่วงนี้ที่มีโควิดอยู่ เขาควรจะได้มาดูพี่ชายของเขาลงเล่นให้กับทีมแชมป์จากตุรกีทีมนี้ที่สนามแข่งซึ่งมีความหมายกับพวกเขาทั้งสองอย่างมาก

ฟาบิโอคุยกับราฟาเอลเมื่อไม่นานมานี้หลังจากเกมแรกเมื่อสามอาทิตย์ก่อนที่อิสตันบูลชนะแมนยู 2-1 เขาได้เปิดเผยว่าฝาแฝดของเขากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อได้รู้ว่า ผลการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกทำให้พวกเขามีโอกาสได้กลับมาโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกครั้ง

"การได้ดูน้องชายผมลงแข่งกับยูไนเต็ดอีกครั้งมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ" ฟาบิโอให้สัมภาษณ์กับMEN.

"เขาเองก็อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างให้ได้เห็นด้วย ซึ่งในบั้นปลายที่น้องผมต้องย้ายออกจากยูไนเต็ดมันขมขื่นนิดหน่อยที่มีปัญหากับหลุยส์ ฟานกัล แต่ว่าเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขายังคู่ควรที่จะได้อยู่ที่นั่นอยู่ มันดีมากๆเลยที่ได้เห็นน้องผมเช่นนั้น ผมชอบมากๆ"

"ตอนที่เขาเห็นผลการจับสลากและรู้ว่าจะได้ลงเตะที่โอลด์แทรฟอร์ดเจอแมนยูอีกครั้ง เขาร้องไห้ออกมาเลยนะ สายสัมพันธ์ขอเขากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย มันแทบจะไม่น่าเชื่อ"

ขณะนี้ฟาบิโอกับราฟาเอลอายุ30ปี และเป็นเวลาที่นานมากแล้วนับตั้งแต่พวกเขาย้ายเข้ามาสู่แมนเชสเตอร์ด้วยไฟแห่งความมุ่งมั่น และเอาชนะใจแฟนๆได้

เฟอร์กูสันพาพวกเขามาดูแลภายใต้ร่มเงาของป๋า และสร้างพันธะระหว่างกันที่ไม่น่าเชื่อระหว่างขรัวเฒ่าสก็อตต์และเด็กวัยรุ่นสายชิลจากริโอเดอจาเนโร

ระหว่างบทสนทนาที่โทรศัพท์ให้สัมภาษณ์กับทาง MEN ฟาบิโอนั้นไม่สามารถซ่อนความรู้สึกเคารพนับถือเซอร์อเล็กซ์อย่างมากเอาไว้ได้

"เขาไม่ได้เป็นเพียงแต่ผู้จัดการที่มหัศจรรย์เท่านั้น เขายังเป็นบุคคลคนหนึ่งที่มหัศจรรย์อีกด้วย ผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาขอบคุณสิ่งที่ป๋าเคยได้ทำให้ผมและน้องชาย รวมถึงครอบครัวของเราเลย"

นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า การจากทีมไปของบรมกุนซือในปี2013ถือเป็นข่าวร้ายมากๆสำหรับเขาเป็นการส่วนตัว แล้วฟาบิโอก็ย้อนความให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นตอนที่พวกเขาทั้งสองอายุ15 และมาฝึกซ้อมที่ยูไนเต็ดท่ามกลางอากาศหนาวจนเย็นเยือกแข็งในช่วงเดือนฤดูหนาวยามนั้น

"ครั้งแรกที่ผมเจอเขา เขาเขย่ามือผม ผมตกใจหน่อยๆจนตัวผมสั่นเลยล่ะ ตอนนั้นยังเด็กมากและมันเป็นอะไรที่คุณคาดไม่ถึงหรอกตอนนั้นที่อายุ15"

"มันไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอลอย่างเดียว แต่ป๋าชอบเราในด้านทั่วๆไปด้วย สัปดาห์แรกที่เราเพิ่งมาจากบราซิล ตอนนั้นอายุ15 และมาถึงแมนเชสเตอร์ในเดือนมกราคม โคตรหนาวเลยนะ แต่เราก็ไม่ได้กลัวหรอก"

"เราไปลงในสนามแล้วก็ซ้อมอย่างหนัก เราวิ่ง เราสู้ทุกๆอย่าง ผมคิดว่าเขาคงจะชอบทัศนคติของพวกเรามั้ง สิ่งที่เราทำเพื่อสู้กับความหนาว จากการที่เราเป็นคนที่มาจากบ้านที่เป็นเมืองร้อนด้วยอากาศราว 37-38 องศา"

"เราใส่กางเกงขาสั้นออกมา บางทีเวลาที่พวกนักเตะบราซิลมาอยู่ที่นี่พวกเขามักจะใส่ถุงมือหรือใส่อะไรๆมาซ้อมด้วย แต่พวกเรามีแค่กางเกงขาสั้นกับใจถึงๆ แล้วก็วิ่งพล่านไปทั่ว ผมคิดว่าป๋าคงจะเห็นอะไรพิเศษๆในตัวพวกเรามั้ง"

นั่นคือบุคลิกที่ทำให้ฟาบิโอกับราฟาเอลนั้นเป็นสมาชิกที่ป็อปปูลาร์ในห้องแต่งตัวของยูไนเต็ด รวมถึงในหมู่แฟนๆปีศาจแดงด้วย

พวกเขาเซ็นสัญญากับแมนยูไนเต็ดตอนอายุ17 แต่ว่ายังลงทะเบียนไม่ได้จนกว่าพวกเขาจะขึ้น18 และวิธีที่เซอร์อเล็กซ์ใช้ในการดูแลพวกเขานั้น มันทำให้ผู้ปกครองของทั้งสองคนนั้นย้ายถิ่นฐานมาจากบราซิลได้ง่ายดายขึ้นมากๆ

"ตอนที่พวกเราย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดดูแลเราเป็นพิเศษอย่างมาก แม่ผมชอบการดูแลของพวกเขามากๆเลยซึ่งมันพิเศษสุดๆ เราถึงได้รักแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากๆเพราะเรื่องนี้นั่นแหละ" ฟาบิโอกล่าว

"ในฐานะเด็กหนุ่มที่โตมาอยู่ที่บราซิล มันไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ปกครองที่ต้องทำงานหนักส่งเสียพวกเราให้ดีที่สุด ตอนอายุนั้นเราไม่รู้เลยว่าเราจะทำยังไงหรือไปทางไหนดี"

"ถึงเราจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการไปเสียทุกอย่างครบถ้วนเป๊ะๆ แต่อะไรที่จำเป็นๆเราก็ได้หมด เซอร์อเล็กซ์คือคนที่เปลี่ยนชีวิตพวกเรา"

ราฟาเอลปิดฉากการรับใช้ยูไนเต็ดด้วยสถิติลงเล่น 170นัด แต่ฟาบิโอลงเล่นน้อยกว่าหนึ่งในสามของตัวเลขนี้ซะอีก ซึ่งตอนนั้นก็เหมือนจะมีทีท่าว่าเขาอาจจะได้เป็นแบ็คขวาถาวรอยู่เหมือนกัน อย่างตอนรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีกปี2011 เขาก็ได้ลงตำแหน่งนั้นในช่วงนั้นหลังจากที่ราฟาเอลมีอาการบาดเจ็บ

แต่ว่าข้อตกลงที่คู่ฝาแฝดคุยกับเฟอร์กูสันในตอนที่ย้ายมาอยู่ยูไนเต็ดนั้นมันแสดงให้เห็นว่า ฟาบิโอเองไม่ได้ต้องการตำแหน่งนั้น(แบ็คขวา)ถาวรที่โอลด์แทรฟฟอร์ดแต่อย่างใด

"มันยากมากนะสำหรับผม เพราะว่าน้องชายผมก็เป็นแบ็คขวาเหมือนกัน สิ่งแรกที่ผมกับน้องคุยกับป๋าก็คือ เราไม่อยากจะต้องมาแย่งตำแหน่งกันเอง"

เรื่องนี้เปิดเผยไว้ในหนังสือ The Sunshine Kids ที่เขียนโดยราฟาเอลซึ่งจะวางในปีหน้า

"สำหรับเรามันเป็นเรื่องที่ยากมากๆเช่นนั้นแหละ ผมถนัดเท้าขวานะ แต่นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมผมไปเล่นแบ็คซ้าย แต่สุดท้ายแล้วน้องผมก็มีอาการบาดเจ็บ และผมก็ลงเล่นในทีมได้ดีต่อเนื่อง เป็นช่วงฟอร์มดีที่สุดที่แมนยูไนเต็ดเลย ผมเล่นดีมาก และได้ลงรอบชิงของแชมเปี้ยนส์ลีกในตำแหน่งแบ็คขวาด้วย"

ฟาบิโอ VS สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

ไม่มีอะไรดีกว่านั้นอีกแล้วในยามที่อยู่ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม ฟาบิโอก็เอ่ยว่า รอบชิงที่เวมบลีย์ และ FA Cup รอบ8ทีมสุดท้ายที่เอาชนะอาร์เซนอลที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในยามที่เขาลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กับราฟาเอลแล้วยิงประตูได้ต่อหน้าพ่อแม่ของเขาและฝูงแฟนบอลในสนาม นั่นคือไฮไลท์สำคัญที่สุดเลย แต่หลังจากฤดูกาลนั้น ย้ายออกไปยืมตัวกับ Queens Park Rangers, การเลิกคุมทีมของป๋า และการเข้ามาของเดวิด มอยส์นั้น ทุกอย่างเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นถึงจุดจบของเรื่องทั้งหมด

"ผมคงไม่กล้าโทษใครนอกจากโทษตัวเองครับ ผมยังเด็กมากๆ และเริ่มมันต้องแต่สมัยละอ่อน แต่ตอนนี้มันต่างออกไปมากแล้ว สภาวะความคิด จิตใจมันต่างจากตอนนั้น" ฟาบิโอพูดถึงเส้นทางที่จบลงกับโอลด์แทรฟฟอร์ด

"ผมกดดันตัวเองมากๆ ผมไม่อยากจะทำให้ใครผิดหวัง นั่นล่ะผมเป็นเช่นนั้น ซึ่งน้องชายผมก็บ่นผมเรื่องนี้ประจำ"

"ผมไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง ผมชอบทุกๆคนในทีม และพวกเขาก็ชอบผมเช่นกัน ผมไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวัง แต่ผมก็คิดว่าผมกดดันตัวเองมากจนเกินไป ผมจะต้องเลิกเป็นแบบนั้นให้ได้ "

ฟาบิโอได้ลงเล่นแค่สามครั้งจากทั้งหมด6เดือนนับตั้งแต่เดวิด มอยส์ย้ายมาคุมทีม ก่อนที่ฟาบิโอจะออกไปร่วมทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่คาร์ดิฟฟ์ และออกมาบอกว่า หลักๆที่มีปัญหากับตัวแทนป๋าคนนั้น คือเรื่องที่เขาไม่มีความเชื่อใจให้กัน

เส้นทางสุดท้ายของอาชีพของเขากับยูไนเต็ดปิดฉากลงอย่างหงอยเหงาด้วยใบแดงในเอฟเอคัพรอบสามที่พ่ายแพ้ต่อหงส์..ขาว สวอนซีซิตี้ ก่อนที่จะต้องเดินเข้าไปในอุโมงค์ยาวที่โอลด์แทรฟฟอร์ด และตอนนั้นเขารู้ตัวดีว่านั่นคือเกมสุดท้ายที่จะได้เล่นให้กับสโมสรในฝันของเขาแล้ว

"กับมอยส์มันแตกต่างออกไปเลย ผมได้ลงเล่นนัดนึงในการเจอกับคริสตัลพาเลซ ผมเล่นดีมาก แต่ผมก็ไม่ได้โอกาสลงสนามอีกเลย"

"ผมผิดหวังมากๆในสิ่งที่มันเกิดขึ้น ผมควรจะได้ลงเป็นตัวจริงในเกมเจอสวอนซี แต่มอยส์มาบอกผมว่าผมจะเป็นแค่ตัวสำรอง และผมรู้แล้วว่าเขาไม่ไว้วางใจในตัวผม"

"เพราะเหตุนั้นแหละ ตอนที่ผมลงไปในสนามถึงได้ถูกไล่ออกในไม่กี่นาที เพราะผมผิดหวังอย่างมาก ผมเข้าเสียบแบบขาดสติ และผมก็ยอมรับผิดนะ"

"ตอนนั้นผมรู้เลยว่ามันเป็นเกมสุดท้ายของผม ถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว"

https://www.youtube.com/watch?v=NanxmSk6Yf8

แต่คู่แฝดทั้งสองนี้ก็จะไม่มีทางลืมในสิ่งที่ยูไนเต็ดได้มอบไว้ให้พวกเขา วันนึงในยามที่แขวนสตั๊ดแล้วนั้น พวกเขาก็จะกลับมาซัพพอร์ตสโมสรที่รักในฐานะแฟนบอลคนนึงอีกครั้ง และเมื่อถึงตอนนั้น ฟาบิโอก็จะได้ไม่ต้องคอยเปิดnotificationsไว้เวลาแมนยูยิงได้สักที..

เพราะเขาจะมาอยู่เคียงข้างพวกเรา และเชียร์ปีศาจแดงในโรงละครแห่งความฝันนั่นเอง

-ศาลาผี-

Reference

https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/man-utd-fabio-exclusive-interview-19330250