5 ข้อที่ ทินกร อสุรินทร์ ใช่สำหรับบุรีรัมย์ฯ
ภายหลังจากที่เจ้าตัวเตรียมแยกทางกับ สุพรรณบุรี เอฟซี บ้านลูกหนังที่ตะบันชีวิตมาเกือบ 5 ปี มุ่งหน้าสู่สถานีใหม่แดนอีสานใต้
ชื่อของ ทินกร อสุรินทร์ อาจไม่แมส หรือเป็นที่รู้จักเท่าซุป’ตาร์รายอื่น ไม่ได้เป็นนักเตะที่ติดธงระดับทีมชาติ หากแต่ในแง่ฝีตีน “คนฟุตบอล” ต่างรู้พิษสงแข้งอีซ้ายร่างบางรายนี้เป็นอย่างดี
และนี่คือ 5 เหตุผลที่เราเชื่อว่า ทินกร จะไปได้ดีกับการผจญภัยครั้งใหม่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นักเตะตามสั่ง
จุดเด่นของ ทินกร นอกจากจะมีอีซ้ายเป็นอาวุธ อีกสิ่งสำคัญที่เจ้าตัวมีคือการเป็นผู้เล่นสไตล์ “ตามสั่ง” ประหนึ่งร้านอาหารข้างทาง สั่งให้เล่นตรงไหน ก็สามารถบอกได้ เป็นแข้งสไตล์สารพัดประโยชน์
เจ้ากร อาจแจ้งเกิดจากตำแหน่งแบ็กซ้ายจอมบุก หากแต่ช่วงที่อยู่กับ สุพรรณบุรี เขาคือนักเตะที่ถูกจับไปเล่นตำแหน่งอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน จากแบ็กซ้าย สู่วิงแบ็ก จนขยับสูงไปเป็นปีก ถูกถอยล่นมารับบทบาทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ จนช่วงหลังที่ถูก อเดบาโย เฮดโค้ชช้างศึกยุทธหัตถี ใช้งานในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรับ และกองกลางคุมจังหวะเกม
และทุกตำแหน่งหมอนี่ทำได้ “ดี” เลยทีเดียว
ผ่านการพาสเจอไรซ์ ใช้งานได้เลย
ขนาดทีมของ บุรีรัมย์ฯ ไม่ได้ใหญ่มากเท่าทีมอื่น เพราะอุดมไปด้วยดาวรุ่ง แต่บางส่วนเป็นดาวรุ่งที่รอวันบ่มเพาะ ต้องใช้ระยะเวลา ทำให้สโมสรจะเจอปัญหาปวดขมับพอควรยามที่นักเตะแกนหลักได้รับบาดเจ็บ เพราะเหล่านกน้อยของ “ลุงเนวิน” บางคนยังไม่สามารถทดแทนรุ่นพี่ได้
กับ ทินกร บนวัย 30 ผ่านภาคสนามไทยลีก-ลีกรองมานับไม่ถ้วน เรื่องประสบการณ์ ทัศนคติการเล่นในสนามนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะผลงานที่ผ่านมาของเขาน่าจะตอบแทนได้
เล่นได้ทั้งระบบหลัง 3 และ 4
การเปลี่ยนเก้าอี้โค้ชในทีมมาเป็น อเล็กซานเดร กามา ที่กลับมาเสก บุรีรัมย์ฯ เล่นแนวรับ 3 คนอีกครั้ง แต่นั่นไม่ได้มีปัญหาสำหรับ “เจ้ากร” เพราะช่วงที่อยู่กับ สุพรรณบุรี เขาลงเล่นให้ทีมแทบทุกบทบาท
หมอนี่สามารถเล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์รูปแบบ 3 คน ในวันที่ พรรษา เหมวิบูลย์ หรือ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ร่างกายไม่พร้อม ส่งไปยืนกองกลางตัวรับคอยสลับกับ รัตนากร ใหม่คามิ หรือ จักรพันธ์ แก้วพรม ก็ยังได้ ไม่ว่าจะในฐานะ “ผู้เล่นหลัก” หรือ “อะไหล่”
ช่วยเพิ่มการแข่งขันในภายในทีม
การมาของ ทินกร นอกจากเพิ่มมิติทีมให้มีตัวเลือกหลากหลายยิ่งขึ้น อีกนัยหนึ่งคือการสร้างความเข้มข้นภายในทีมให้สูงขึ้น
ที่ผ่านมาด้วยความที่อุดมด้วยดาวรุ่ง ทำให้ผู้เล่นหลักบางคนอาจไม่ได้กระตุ้นหรือรีดฟอร์มตนเองออกมาถึงขีดสุด หากแต่เมื่อมีนักเตะอย่าง ทินกร ที่มากด้วยประสบการณ์ และเป็นสไตล์จับฉ่าย เล่นได้หลายตำแหน่ง การเบียดแย่ง 11 ตัวจริงทีม อาจถูกยกระดับขึ้นอีกขั้น
ยิ่งทีมปล่อยยืมแนวรับดาวรุ่งอย่าง ศรายุธ สมพิมพ์ ไปแล้ว หากใครยังเหยาะแหยะชิล ๆ ไม่สามารถผลิตฟอร์มการเล่นที่ดี รักษามาตรฐานเดิมไว้ได้
มีโอกาสที่ตำแหน่งจะหลุดได้เช่นกัน
ความมุ่งมั่นทุ่มเท
สไตล์การเล่นของ ทินกร ถือว่าตรงข้ามกับสรีระพอสมควร เขาพร้อมเปลี่ยนโหมดเป็นมิดฟิลด์พันธุ์ดุ วิ่งพล่านไล่บี้คู่ต่อสู้ ตัดเกมก็ได้ หรือจะคุมจังหวะเกมแดนกลางเนิบ ๆ ก็ดีระดับหนึ่ง
ยิ่งกับปรัชญาลูกหนัง บุรีรัมย์ เล่นบอลเพรสซิ่งเป็นหลัก นักฟุตบอลต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา การมีม้าพยศที่สารพัดประโยชน์ และสภาพร่างกายพร้อมทุ่มเทให้ทีมตลอดยามได้รับโอกาส
แน่นอน ผู้เล่นแบบนี้ไม่ว่าใครก็อยากมีไว้ติดทีม
Credit Photo : FB Suphanburi FC