ลูกยิงไกลระยะ 35 หลา สุดสวย ของกรานิต ชาก้า ในนาที 56 เป็นประตูตีเสมอ 2-2 ให้กับเจ้าบ้านอาร์เซน่อล หลังจากโดนทีมเยือนอย่างลิเวอร์พูลขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 กลายเป็นประเด็นดังหลังเกมที่บรรดาแฟนบอลทั่วไปโดยเฉพาะบรรดาเหล่าเดอะ ค็อป หรือแฟนบอลลิเวอร์พูลกล่าวถึง และชื่อของไซม่อน มินโญเล่ต์ ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล ก็กลายเป็นเทรนด์ฮิิตทวิตเตอร์ในระยะเวลาอันสั้น
เกิดอะไรขึ้นในกับการเสียประตูนี้ เราลองมาย้อนเหตุการณ์กันอีกสักรอบครับ
ชาก้าได้บอลตรงกลางสนาม จ่ายถ่างไปให้อเล็ก อิโวบี้ ทางขวา เลี้ยงจี้แบ็คซ้ายลิเวอร์พูลอย่างแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ถอยคุมเชิงอยู่ห่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ หักบอลเข้ากลางชาก้าวิ่งเติมเข้ามายืนอยู่คนเดียวระยะ 35 หลา ไม่มีนักเตะลิเวอร์พูลอยู่ในรัศมีการครองบอลของชาก้า ใกล้สุด คือ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ถอยลงมาช่วยซ้อนโรเบิร์ตสันข้างใน ซึ่งมิลเนอร์ก็พยายามวิ่งออกมาบังทางชาก้าแต่ทว่าสายเกินไป !!
ชาก้าได้บอล จับ 1 ที ก่อนก้มหน้ากดบอลเต็มเท้าซ้าย บอลพุ่งวาบตรงตัวมินโญเล่ต์ ก่อนที่บอลจะเสียบใต้คานสุดสวย !!
จากภาพช้า มินโญเล่ต์ พยายามใช้มือซ้ายข้างเดียวชกบอลให้พ้นคานออกไป แต่ด้วยการยิงของชาก้ามันมาแรงและเร็วมาก บอลก่อนจะถึงมินโญเล่ต์เลยมีการส่ายเกิดขึ้น จังหวะที่มินนี่คิดว่าจะชกบอลเต็มใบจึงกลายเป็นจังหวะชกแป๊ก บอลปลิ้นเข้าประตูไปซะอย่างนั้น !!
ความผิดพลาดเกิดขึ้นกับผู้รักษาประตูรายนี้อีกครั้ง ท่ามกลางเสียงก่นด่าของแฟนบอลและเหล่ากูรูว่า พอกันทีผู้รักษาประตูแบบนี้
เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล เป็นคนแรกที่เปิดประเด็นนี้ผ่านหน้าจอถ่ายทอดสดของสกายสปอร์ต หลังเจ้าตัวเป็น 1 ในสักขีพยานที่ได้เห็นมินโญเล่ต์จั่วลมต่อหน้าต่อตา
"จนกว่าลิเวอร์พูลจะหาผู้รักษาประตูที่มีคลาสกว่านี้ได้ ทีมพวกเขาถึงจะมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์"
เช่นเดียวกับแกรี่ เนวิลล์ ตำนานนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่หูวิจารณ์บอลของคาร์ราเกอร์ ก็ออกมาบอกว่าลิเวอร์พูลยากที่จะประสบความสำเร็จหากยังไม่กำจัดจุดอ่อนเสียที
"เราพูดถึงเรื่องผิดพลาดของไซม่อน มินโญเล่ต์มามากมายหลายครั้งแล้ว หากอยากเห็นทีมประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องกำจัดจุดอ่อนนะ คุณลองดูตัวอย่างจาก เป็ป กวาร์ดิโอล่า ทำเมื่อซีซั่นก่อนสิ เขาซื้อเคลาดิโอ บราโว่ มาด้วยเงินก้อนโต แต่เมื่อไม่ดีพอสำหรับพรีเมียร์ลีกก็ต้องกล้าดองไวข้างสนาม แล้วหันไปซื้อ เอแดร์ซอน มาแทน ซึ่งเอแดร์ซอนก็ทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง ยกระดับทีมได้แทบจะทันที"
ขนาด 2 กูรู ชื่อดังแห่งสกายสปอร์ต ยังสับเละขนาดนี้ ไม่ต้องสืบเลยว่าในทวิตเตอร์ มินโญเล่ต์จะโดนแฟนบอลสับเละเทะขนาดไหน
"ไม่มีคลีนชีทสำหรับลิเวอร์พูลในค่ำคืนนี้ แต่สำหรับไซม่อน มินโญเล่ต์ เอาไปเลยจ้า คลีน ชิท !!" ทานเครดี้ พัลเมรี่ นักข่าวคนดังแห่งบีอิน สปอร์ต ทวิตไว้หลังเกม
"ผมเคยสนับสนุนมินโญเล่ต์นะ ในวันที่ทุกคนโจมตีเขาผมก็ยังเชื่อมั่นแบบนั้น แต่่หลังจากเกมนี้จบลง ผมพอแล้ว ! เขาไม่ควรจะได้ลงสนามอีกต่อไป ไม่มีการพัฒนาเลยให้ตายเหอะ นับวันยิ่งแย่ลงๆ" @fenia_LFC แฟนบอลลิเวอร์พูลทวิตหลังเกม
"เหตุผลเดียวที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาชนะอาร์เซน่อลที่บ้านได้ เพราะดาวิด เด เกอา ในทางตรงข้าม เหตุผลเดียวที่ลิเวอร์พูลไม่ชนะในวันนี้ ก็เพราะว่า ไซม่อน มินโญเล่ต์ ถ้าเราอยากจะลุ้นแชมป์ ไล่เขาออกจากทีมไปซะ" @andcouldheplay7 อีกหนึ่งแฟนบอลลิเวอร์พูล ทวิตไว้
ดูเหมือนตอนนี้ไซม่อน มินโญเล่ต์ จะสูญเสียทุกอย่างแม้กระทั่งแฟนคลับที่เคยสนับสนุนไปจนหมดสิ้น แล้วทางเจอร์เก้น คล็อปป์ หล่ะ ยังเชื่อใจในตัวเขาอยู่หรือเปล่า ??
ไม่ว่าใครจะตัดสินมินโญเล่ต์ว่าอย่างไร แต่ชะตาชีวิตของเขามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะบอกได้ คนนั้นก็คือ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั่นเอง
คล็อปป์ให้สัมภาษณ์หลังเกมถึงเรื่องความผิดพลาดของมินโญเล่ต์ไว้ น่าสนใจมาก
"แน่นอน ผมคิดว่าไซม่อนตัดสินใจพลาดนะ(จังหวะเสียประตูให้ชาก้า) ถ้าเขาใช้ทั้ง 2 แขนในการป้องกัน เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ หากเป็นปกติ มินโญเล่ต์ สามารถเซฟได้แน่ 99.9% แต่มันไม่ใช่กับคืนนี้"
"แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของใครคนเดียว มันคือความหละหลวมของทั้งทีม ลูกแรก-ลูกสองที่เสีย เป็นการยืนตำแหน่งพลาด เราเป็นคนเปิดประตูเชิญแขกเข้ามาเองในช่วง 5 นาที เป็นอะไรที่น่าผิดหวังมาก"
ผมเองก็อ่านใจคล็อปป์ไม่ออก ว่าตกลงแล้วคล็อปป์ยังจะดันมินโญเล่ต์ต่อไปหรือไม่ หรือจะสลับให้ลอริส คาริอุส มือ 2 ชาวเยอรมันได้ลงมาพิสูจน์ตัวเองบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นด้วยกับหลายๆคนก็คือ หากลิเวอร์พูลอยากจะประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างหนึ่ง พวกเขาจำเป็นต้องมีนักเตะที่ดีกว่านี้
2 ปีแรกของคล็อปป์ อาจจะเป็นการพัฒนาในด้านของขนาดของทีม ให้มีผู้เล่นที่มีความสามารถทดแทนกันได้ในแต่ละตำแหน่งอย่างนน้อย 2 คน ซึ่งถึงตรงนี้ ลิเวอร์พูลทำได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก้าวต่อไป มันควรจะเป็นการหานักเตะที่ฝีเท้าดีกว่าที่ทีมตัวเองมีอยู่ เข้ามาทดแทนของเดิมที่อาจจะดีน้อยกว่า
ผมไม่ได้บอกว่าของเดิมไม่ดีนะครับ ของเดิมมันดี แต่ของใหม่มันดีมาก ... ดีธรรมดา มันก็ได้แต่ผลงานธรรมดา แต่ถ้าลองของดีมาก ผลลัพธ์ที่ออกมามันอาจจะดีกว่า
โค้ชก็เหมือนกับพ่อครัวครับ ส่วนนักเตะก็เหมือนวัตถุดิบในการทำอาหาร ฝีมือพ่อครัวแม้จะเก่งอย่างไร ถ้าวัตถุดิบไม่ถึง ทำให้ตายยังไงก็ขายราคาแพงไม่ได้
อยากจะได้มิชลินสตาร์ มันก็ต้องทุ่มกันหน่อย ไม่เชื่อถาม เจ๊ไฝ ดูครับ ฮ่าๆๆๆๆ
