:::     :::

แข้งย้ายต้นปี'สุดปัง'ยุคพรีเมียร์ลีก

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
4,839
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สโมสรจากพรีเมียร์ลีก มักจะระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินจำนวนมากในช่วงกลางฤดูกาล แต่มันก็มีหลายดีลที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำธุรกิจเดือนนี้เป็นเรื่องที่ดี

    บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ เฟอร์จิล ฟาน ไดต์ มายัง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ในเดือนมกราคม ขณะที่ อาร์เซน่อล และ เชลซี เองก็ได้รับประโยชน์เช่นกันจากการใช้เงินในเดือนนี้

    ปืนใหญ่ ซื้อ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง มาในตลาดต้นปี ขณะที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ก็กลายเป็นที่รักของแฟน สิงห์บลูส์ ในการย้ายมาหลังปีใหม่

    เราจะมาทุกท่านไปดูการย้ายทีมที่ดีที่สุดในเดือนมกราคม อาจตรงหรือไม่ตรงใจใครบ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้

มาร์ติน ดูบราฟก้า

(สปาร์ต้า ปราก มา นิวคาสเซิ่ล 4 ล้านปอนด์ ปี 2018)

    ดูบราฟก้า ก้าวเข้ามาเป็นมือหนึ่งของ สาลิกาดง ได้ทันทีนับตั้งแต่ย้ายมาจากเช็กด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือนในเดือนมกราคม ปี 2018

    เขาประเดิมสนามด้วยการพาทีมชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ และจากนั้นนายทวารทีมชาติสโลวาเกียก็ย้ายถาวรหลังจบฤดูกาล 2017-18 ทว่าในปีนี้กลับต้องเสียตำแหน่งให้กับ คาร์ล ดาร์โลว์

บรานิสลาฟ อิวาโนวิช

(โลโคโมทีฟ มอสโก มา เชลซี 9 ล้านปอนด์ ปี 2008)

    สิงห์บลูส์ เอาชนะ อินเตอร์, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส และ อาแจ็กซ์ ในการเซ็นสัญญากับกองหลังชาวเซิร์บ

    เขามาด้วยข้อตกลง 3 ปีครึ่ง และก็ลงเล่นไป 377 เกมให้กับสโมสรจากเวสต์ลอนดอน โดยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก, เอฟเอ คัพ 3 สมัย และลีก คัพ


เนมานย่า วิดิช

(สปาร์ตัก มอสโก มา แมนฯ ยูไนเต็ด 7 ล้านปอนด์ ปี 2006)

    นี่คืออีกหนึ่งแข้งเซอร์เบียที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก โดยจับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้อย่างแข็งแกร่งในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก

    เขาก็เหมือนกับ อิวาโนวิช ที่มาจากรัสเซีย ก่อนจะค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 8 ปี ลงเล่นไป 300 นัด และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก และลีก คัพ 3 สมัย ก่อนจะย้ายไป อินเตอร์ ในปี 2014

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์

(เซาธ์แฮมป์ตัน มา ลิเวอร์พูล 75 ล้านปอนด์ ปี 2018)

    ปราการหลังชาวดัตช์ย้ายมาจาก นักบุญ ในเดือนมกราคม ปี 2018 ซึ่งเขาก็เข้าวินอันดับสองของรางวัลบัลลงดอร์ในอีก 23 เดือนถัดมา

    ปัจจุบันเซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่ก็เป็นส่วนสำคัญในการพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว


ปาทริซ เอวร่า

(โมนาโก มา แมนฯ ยูไนเต็ด 5.5 ล้านปอนด์ ปี 2006)

    อีกหนึ่งสมาชิกจากค่าย ผีแดง ในแผงแนวรับเช่นเดียวกับ วิดิช และ เฟอร์ดินานด์

    แบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศสย้ายมาในเดือนเดียวกับ วิดิช และย้ายออกไปในซัมเมอร์ ปี 2014 โดยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก และลีก คัพ อีก 3 สมัย

วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้

(เกงค์ มา เลสเตอร์ 18.5 ล้านปอนด์ ปี 2017)

    มิดฟิลด์รายนี้พุ่งตรงสู่แผงกองกลางของ เลสเตอร์ ทันทีหลังจากมาถึง โดยลงเล่นไป 23 นัดรวมทุกรายการ ก่อนจบซีซั่นนั้น

    ตอนนี้เขาลงสนามไปแล้ว 151 นัดให้กับทีมจากมิดแลนด์ และก็มีข่าวพัวพันในการย้ายไปเล่นกับสโมสรยักษ์ใหญ่ด้วยค่าตัวมหาศาล

บรูโน่ แฟร์นันด์ส

(สปอร์ติ้ง ลิสบอน มา แมนฯ ยูไนเต็ด 55 ล้านปอนด์ ปี 2020)

    นี่คือหนึ่งในแข้งโปรตุเกสไม่กี่คนที่สร้างอิมแพ็คท์ครั้งใหญ่ในพรีเมียร์ลีกได้ทันที

    ในระยะเวลาเพียง 12 เดือน เขากลายเป็นคนสำคัญที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยผลงานยิง 27 ประตู และทำอีก 17 แอสซิสต์ จาก 48 เกมในตำแหน่งมิดฟิลด์


ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

(อินเตอร์ มา ลิเวอร์พูล 8 ล้านปอนด์ ปี 2013)

    เพลย์เมกเกอร์บราซิเลี่ยนทำทุกอย่างที่คุณต้องการจากฐานะแข้งเบอร์ 10

    เขายิงไป 54 ประตู และทำอีก 45 แอสซิสต์ จาก 201 นัดให้ ลิเวอร์พูล ก่อนจะย้ายไป บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 145 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคม ปี 2018

    แต่เขาก็ดูจะล้มเหลวในถิ่นคัมป์ นู ซึ่งมันก็น่าสงสัยเหลือเกินว่าหากเขายังอยู่ที่แอนฟิลด์ต่อไป คูตินโญ่ จะเป็นอย่างไร

ปาปิสส์ ซิสเซ่

(ไฟร์บวร์ก มา นิวคาสเซิ่ล 9.5 ล้านปอนด์ ปี 2012)

    กองหน้าชาวเซเนกัลกลายเป็นที่รักของเหล่า ทูน อาร์มี่ ทันที ด้วยค่าเฉลี่ยยิงประตูที่เรียกว่าเกือบจะลูกต่อเกม โดยทำได้ 13 ตุง และ 2 แอสซิสต์ จาก 14 นัด ก่อนจบฤดูกาลนั้น

    ทว่าจากนั้นฟอร์มของเขาก็ดิ่งวูบไปเลย และจบเส้นทางค้าแข้งกับ เดอะ แม็กพายส์ ด้วยผลงาน 44 ประตู จาก 131 เกม ก่อนย้ายไป ซานตง ลูเหนิง ในซูเปอร์ลีก จีน เมื่อปี 2016


หลุยส์ ซัวเรซ

(อาแจ็กซ์ มา ลิเวอร์พูล 22.8 ล้านปอนด์ ปี 2011)

    หัวหอกทีมชาติอุรุกวัยเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ลิเวอร์พูล ในยุคของพรีเมียร์ลีก

    เขายิงไป 82 ประตู จาก 133 เกม แต่เส้นทางของเขาต่างจาก คูตินโญ่ ก็พีคสุดขีด หลังย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อยิงถึง 195 ลูก จาก 283 เกมให้ บาร์เซโลน่า

ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง

(ดอร์ทมุนด์ มา อาร์เซน่อล 60 ล้านปอนด์ ปี 2018)

    อาจมีบางคนที่แย้งว่าหัวหอกทีมชาติกาบองไม่ควรติดทีมชุดนี้ เนื่องจากฟอร์มของเขาหายไปเลยนับตั้งแต่ต่อสัญญามูลค่า 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ในเดือนกันยายน ปี 2020

    แต่ย้อนกลับไปในตอนก่อนต่อสัญญา เขาคือหนึ่งในดาวยิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ อาร์เซน่อล ในยุคพรีเมียร์ลีก

    ดาวยิงวัย 31 ปี ทำไป 76 ประตู และอีก 16 แอสซิสต์ จาก 127 เกมรวมทุกรายการ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด