ชัยชนะนัดนี้ของ อาร์เซน่อล มีด้านบวกให้พูดถึงหลายอย่าง เช่นเดียวกับจุดที่ต้องปรับจูน ก่อนเข้าสู่โปรแกรมหนัก 4 นัดต่อไป 

มิเกล อาร์เตต้า จำเป็นต้องปรับทีมหลังเก็บได้คะแนนเดียวจาก 3 นัดก่อนหน้านี้ อีกทั้งมีเกมยูโรปา ลีก รออยู่ในกลางสัปดาห์

2 ตำแหน่งแรกที่เปลี่ยนคือ แบรนด์ เลโน่ กับ ดาวิด ลุยซ์ พ้นโทษแบนกลับมาประจำการในเกมรับ แม็ต ไรอัน ที่ประเดิมสนามในเกมกับ แอสตัน วิลล่า หลุดเป็นสำรอง เช่นเดียวกับ ร็อบ โฮลดิ้ง ได้โอกาสพักข้างสนาม

โธมัส ปาร์เตย์ เดี้ยงจากนัดล่าสุดถูกแทนที่โดย ดานี่ เซบายอส ที่กลับมาจับคู่กับ กรานิต ชาคา อีกครั้ง ขณะที่แนวรุกเลือกใช้ 3 ดาวรุ่ง บูคาโย่ ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ลงตัวจริงนัดแรกคอยสร้างสรรค์เกมให้หน้าเป้า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่กลับมาเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบ 6 นัดหลังสุด

ส่วนทีมเยือนของ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า มีตัวเจ็บพอสมควร ต้องขยับ ลุค เอลิ่ง จากแบ็กขวาไปยืนเซนเตอร์ และดัน ปาสกาล สเตราค์ ขยับขึ้นมาเล่นกลางรับแทน คัลวิน ฟิลลิปส์ ที่เดี้ยง แต่แนวรุกยังมี แพทริก แบมฟอร์ด, แจ็ค แฮร์ริสัน และ ราฟินญ่า เป็นตัวทีเด็ด รวมไปถึงแบ็กซ้ายจอมบุก เอซกาน อลิออสกี้ คู่ปรับเก่าของ นิโกล่าส์ เปเป้ จากนัดแรก

โมเมนตัมก่อนเกม ลีดส์ มาดีกว่าด้วยชัยชนะ 3 จาก 4 นัดหลังสุดและชนะนอกบ้าน 2 นัดติด แต่สถิติเก่าๆ ไม่สามารถเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้เลยตลอด 8 นัดหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการ

ต่างฝ่ายต่างปรับทีม แต่เป็น อาร์เซน่อล จูนกันได้เร็วกว่าเป็นฝ่ายครองบอลทำเกมได้ทันทีและได้ยิงตั้งแต่นาทีแรกที่ โอบาเมย็อง ถ่างออกไปเก็บบอลฝั่งซ้ายก่อนจ่ายให้ โอเดการ์ด ซัดติดบล็อก แต่ก็ยังเกี่ยวบอลได้และไหลให้ สมิธ โรว์ ยิงข้ามคาน

ผู้ตัดสินริบจุดโทษคืนในจังหวะ ซาก้า โดนทำฟาวล์

โอบาเมย็อง ประจำการหน้าเป้า แต่เล่นจริงมักถ่างออกด้านซ้ายไปเก็บ เปิดโอกาสเพื่อนได้สอดเข้ามาในบริเวณหน้าเขตโทษและในเขตโทษ เขาจ่ายให้ เอคตอร์ เบเยริน ได้วิ่งมายิงอีกครั้งแต่ข้ามคานไปไกล

2 จังหวะที่สร้างโอกาสให้เพื่อนยิงนกตกปลา โอบาเมย็อง เลือกทำเองในนาที 13 ที่รับบอลเร็วจาก ชาคา ก่อนโยกซ้าย-ขวาแล้วดึงเข้าขวายิงเร็ว บอลแหวกคู่เซนเตอร์ลีดส์เสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด เป็นประตูที่มาจากความสามารถเฉพาะตัวอย่างแท้จริง 

การต่อบอลของ อาร์เซน่อล ทำได้ดีกว่าชัดเจน บีบให้ ลีดส์ อยู่ในแดนตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้โอกาสเปิดหน้าแลกหมัดตามถนัดมีไม่มากนัก จังหวะโหม่งของ แบมฟอร์ด และ แฮร์ริสัน ไม่เหลือบ่ากว่าแรงสำหรับ เลโน่

ความขยันและความเร็วของ บูคาโย่ ซาก้า ป่วนเกมรับฝั่งขวาของ ลีดส์ อย่างหนัก เขาเรียกจุดโทษให้ทีมได้แล้วในจังหวะกระชากเข้าเขตโทษก่อนโดนเกี่ยวขาล้ม แต่ผู้ตัดสินกลับเลือกดูวีเออาร์และยกเลิกแบบค้านสายตาทั้งที่จังหวะฟาวล์ชัดเจนอย่างยิ่ง 

แต่อีกจังหวะ ผู้ตัดสินต้องเป่าให้แบบไม่มีทางเลือกอื่น อิลลัน เมส์ลิเย่ร์ โกลหนุ่มของ ลีดส์ ไม่เก๋าพอที่จะล็อกบอลเล่นและประมาทความเร็วด่วนนรกของ ซาก้า ที่พรวดถึงบอลก่อน 

หลัง โอบาเมย็อง กดจุดโทษเป็น 2-0 ทำนบเกมรับของ ลีดส์ ก็แตกต่อเนื่องในอีกไม่กี่นาทีถัดมา ดานี่ เซบายอส ได้ทีเผา มาเตอุส คลิช ไหม้เกรียมด้วยการหลอกจ่ายลอดขาไปให้ เอคตอร์ เบเยริน แตะเข้าขวายิงมุมแคบยัดเสาแรกไปอย่างสะใจ

อาร์เซน่อล เล่นได้อย่างครบเครื่องใน 45 นาทีแรกและถึงต้นครึ่งหลังที่เริ่มมาได้นาทีเศษก็นำห่างเป็น 4-0 จาก โอบาเมย็อง โหม่งลูกเปิดสุดเฉียบของ สมิธ โรว์ กลายเป็นแฮตทริก 

4 ครั้งที่ยิงเข้ากรอบกลายเป็น 4 ประตู เป็นการใช้โอกาสที่เด็ดขาดและสมบูรณ์แบบ 

โอบาเมย็อง ทำแฮตทริกแรกในพรีเมียร์ลีก

หากไม่นับช่วง 30 นาทีสุดท้ายที่แผ่วลงไป เปิดโอกาสให้ ลีดส์ ทวงคืนได้ 2 ประตูซึ่งก็ต้องให้เครดิตลูกทีมของ บีเอลซ่า ด้วยที่สู้ยิบตา ไม่ยอมแพ้แม้โดนนำห่าง เกมนี้เป็นอีกเกมที่ อาร์เซน่อล ทำได้ดีมากๆ  

จุดที่ถูกจับตามองหลังประกาศรายชื่อออกมาคือ 3 ตัวรุกดาวรุ่ง "ซาก้า-โอเดการ์ด-สมิธ โรว์" ว่าจะทำได้ดีแค่ไหนกับการเล่นร่วมกับโดยเฉพาะผู้มาใหม่อย่าง โอเดการ์ด ที่ก่อนหน้านี้เป็นสำรอง 2 นัด 

อาร์เตต้า มอบบทบาทสำคัญให้ โอเดการ์ด เป็นตัวปั้นเกมตรงกลาง พร้อมถ่าง สมิธ โรว์ ที่ก็เล่นตำแหน่งนี้ได้ดีตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ไปเล่นด้านซ้าย ขณะที่ ซาก้า ประจำฝั่งขวา 

ในช่วง 15-20 นาทีแรก โอเดการ์ด ใช้เวลาปรับจังหวะการเล่นเล็กน้อย ยังไม่โดดเด่นเท่ากับ ซาก้า และ สมิธ โรว์ ที่เคลื่อนที่ วิ่งหาช่องคอยต่อบอลได้มากกว่า แต่พอจับจังหวะการเล่นได้ แข้งทีมชาตินอร์เวย์ก็มีส่วนในการเล่นมากขึ้น จ่ายบอลเป็นประโยชน์ เพื่อนร่วมทีมเล่นต่อได้ มีความฟิตช่วยทีมวิ่งไล่เพรสซิ่งแดนบน และเอาตัวรอดได้ดีในจังหวะที่่โดนเพรสคืน

ข้อดีของ ซาก้า และ สมิธ โรว์ ที่ช่วยให้ โอเดการ์ด เล่นร่วมกันได้ดีขึ้นคือมีความขยันและเข้าใจเกม การวิ่งสลับตำแหน่งมีความต่อเนื่อง เช่นเดียวกับจังหวะรุมแย่งบอลมีคนนึงเข้า อีกคนรอเก็บตก 

โอเดการ์ด มีเซนส์ฟุตบอลที่ดีมากๆ อยู่แล้ว เขาคือวอนเดอร์คิดอีกคนของวงการที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุน้อย แม้เกมนี้จะเป็นการลงตัวจริงนัดแรกและเล่นในพรีเมียร์ลีกที่ไม่เคยเป็นงานง่ายสำหรับหน้าใหม่ แต่ก็ทำได้น่าประทับใจ 

นั่นทำให้การเล่นร่วมกันของ ซาก้า-โอเดการ์ด-สมิธ โรว์ มีความไหลลื่น ลงตัว และด้วยความที่อายุยังน้อยกันอยู่ "อีโก้" ในแบบนักเตะเก๋าๆ จึงยังไม่มี แต่ละคนเล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริงและช่วยกันตีกำแพงเกมรับของยูงทองจนพังระเนระนาด  

ก๊วนดาวรุ่งทั้งสามมีส่วนในทุกประตูที่ทีทำได้ไม่ว่าจะเป็นการช่วยบิวด์อัปเกมตั้งแต่เริ่มต้น แย่งบอลกลับมาครองและโจมตีทันที หรือปิดการออกบอลของลีดส์จนบีบให้จ่ายพลาดเสียบอล  

โอเดการ์ด สอบผ่านกับการเป็นตัวจริงนัดแรก

การตัดสินใจของ อาร์เตต้า ที่เลือกฝากความหวังในการสร้างเกมรุกเอาไว้ที่กลุ่มนักเตะดาวรุ่ง ได้ผลชัดเจนเป็นรูปธรรม อีกทั้งตอบคำถามที่ว่า โอเดการ์ด กับ สมิธ โรว์ เล่นด้วยกันได้หรือไม่ 

3 ดาวรุ่งที่สามารถเรียกย่อๆ ตามชื่อแต่ละคนว่า 'SOS' สอบผ่านหายห่วงกับการเล่นด้วยกันครั้งแรก ขณะที่พี่ใหญ่ 'AUBA' ก็จังหวะการเล่นและความมั่นใจที่เคยมีกลับมาได้เพียบกับแฮตทริกและเกือบเป็น 4 ลูกเหมือน เธียร์รี่ อองรี เคยยิง ลีดส์ หากลูกตวัดเน้นๆ ในเขตโทษไม่จูบเสาเสียก่อน

อาร์เซน่อล เตรียมเข้าสู่โปรแกรมหนักเจอ เบนฟิก้า 2 นัดที่ต้องเล่นสนามกลางในอิตาลีและกรีซ ทีมต้องเดินทางเหนื่อยกว่าเดิม และหลังจบยูโรปา ลีก แต่ละนัดจะมีเกมยากในลีกรออยู่ทั้งรับมือ แมนฯ ซิตี้ ที่ติดเครื่องร้อนฉ่าชนะมา 15 นัดติด และอีกนัดคือไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ 

มิเกล อาร์เตต้า ต้องลุ้นให้ก๊วนดาวรุ่ง 'SOS' และ 'AUBA' รักษาฟอร์มเก่งจากนัดล่าสุดเอาไว้เพื่อผ่านช่วงนี้ไปให้ได้แบบเจ็บตัวน้อยสุด