สเวน มิสลินทาต ได้รับฉายาว่า 'Diamond Eye' ตลอด 11 ปีที่เขาทำงานกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเขาช่วยสร้างยุคทองของทีมเสือเหลืองด้วยการนำดินมาปั้นจนเป็นดาวก่อนขายทอดตลาดทำรายได้จำนวนมากสู่สโมสร โดยมี 5 นักเตะที่เป็นพื้นฐานความสำเร็จมากสุดของ มิสลินทาต ดังนี้

1.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 

ตำแหน่ง : กองหน้า

สโมสร : เลช พอซนัน

'ตอนนั้นเราไม่สามารถซื้อสินค้าจากเชลฟ์บนสุดได้' มิสลินทาต กล่าวถึงสถานการณ์ของทีมเสือเหลืองที่ประสบปัญหาทางการเงินช่วงที่เขาเริ่มต้นทำงานในปี 2006 ซึ่งเขาเลื่อนสถานะจากนักวิเคราะห์เป็นสเกาต์ เพียงหนึ่งปีก่อนสโมสรจะได้รับการช่วยเหลือจนรอดพ้นจากการล้มละลายในการประชุมนักลงทุนที่จัดขึ้นอย่างเร่งด่วนที่สนามบินเมืองดุสเซลดอร์ฟ

จากสถานะทางการเงินของสโมสร ดอร์ทมุนด์ จึงปรับเปลี่ยนแนวทางในการสรรหาบุคลากรไปที่นักเตะอายุน้อยที่ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก ก่อนจะพัฒนาผู้เล่นเหล่านั้นขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลก และมีนักเตะเพียงไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ที่ทำได้เช่นนั้นในระดับเดียวกับ เลวานดอฟสกี้ 

มิสลินทาต ในฐานะหัวหน้าทีมสเกาต์ในปี 2010 เมื่อเขา, มิชาเอล ซอร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา และกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เห็นตรงกันในการดึง เลวานดอฟสกี้ มาจากโปแลนด์และมันกลายเป็นหนึ่งในข้อตกลงดีสุดในประวัติศาสตร์ของเกมลูกหนัง หลังทีมเสือเหลืองใช้ทุนเพียง 4.5 ล้านยูโรดึงนักเตะมาจาก เลช พอซนัน

อย่างไรก็ตามมันน่าเสียดายที่ ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้รับข้อตอบแทนจำนวนมหาศาลทั้งที่ เลวานดอฟสกี้ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายสุดของโลก หลังทำ 103 ประตูจากการลงเล่น 187 เกมกับทีมเสือเหลือง พร้อมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา 2 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัย และยังนำต้นสังกัดผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งที่สองของสโมสร ก่อนจะโยกซบ บาเยิร์น มิวนิค แบบไม่มีค่าตัวหลังสิ้นสุดสัญญา 4 ปีกับ ดอร์ทมุนด์

เลวานดอฟสกี้ ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอีกระดับกับ บาเยิร์น มิวนิค เขาคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา 6 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 3 สมัย, เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 4 สมัย, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รายการละครั้ง รวมถึงการคว้ารางวัลดาวซัลโวลีกเมืองเบียร์ 5 ครั้ง เขายังกวาดรางวัลจากทุกสถาบันในปี 2020 ยกเว้น บัลลง ดอร์ ที่ยกเลิกงานมอบรางวัลในปีที่ผ่านมาเท่านั้น 

2.ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง

ตำแหน่ง : กองหน้า 

สโมสร : แซงต์ เอเตียน 

หลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ก่อน มิสลินทาต จะผลักดัน โอบาเมย็อง ขึ้นมาเต็มเติมช่องว่างขนาดมหึมาที่ถูกทิ้งไว้โดย 'เลวี่'

มิสลินทาต อธิบายว่า โมบาเมย็อง มีศักยภาพฝีเท้าที่ดีพอจะทำเช่นนั้น เนื่องจากกองหน้าชาวกาบองมีทั้งความเร็วและฝีเท้าในการจบสกอร์ที่เด็ดขาดที่เขามองเห็นความพิเศษตั้งแต่แรกในการเดินทางมาดูฝีเท้านักเตะครั้งแรกที่ แซงต์ เอเตียน 

มันน่าแปลกใจเล็กน้อยสำหรับ ดอร์ทมุนด์ ที่ดึง โอบาเมย็อง มาจาก แซงต์ เอเตียน ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ซึ่งกองหน้าวัย 24 ปี ทำ 13 ประตูในการค้าแข้งกับทีมเสือเหลืองฤดูกาลแรกในฐานะตัวรุกฝั่งขวา โดยลงเล่นร่วมกับ เฮนริค มคิทาร์ยาน, มาร์โค รอยส์ และ เลวานดอฟสกี้ ก่อนจะถูกปรับบทบาทหลัง 'เลวี่' อำลาไปแคว้นบาวาเรีย 

โอบาเมย็อง ปรับมาเล่นตำแหน่งหน้าเป้าแทน เลวานดอฟสกี้ ซึ่งกองหน้ากาบองทำผลงานดีขึ้นตามลำดับตามการประเมินของ มิสลินทาต จนกระทั่ง 'โอบา' กระทุ้ง 31 ประตูจากการเล่นบุนเดสลีกาในซีซั่น 2016-2017 กลายเป็นแข้งต่างชาติที่ทำประตูมากสุดในฤดูกาลเดียวในประวัติศาสตร์ลีกเมืองเบียร์ ก่อนสถิติดังกล่าวจะถูก เลวานดอฟสกี้ ทำลายในซีซั่นที่ผ่านมา 

เมื่อ โอบาเมย็อง ย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ ในช่วงเดือนมกราคมปี 2017 มันมาจาก มิสลินทาต ที่ดึงเขาไปอยู่กับ อาร์เซน่อล หลังจากเขาย้ายไปทำงานในอังกฤษไม่นานนัก เขากล่าวกับ 'ดิ แอธเลติก' ในเวลาต่อมาว่า 'มันเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจมาก แต่ก็ยากมากในเวลาเดียวกัน 2 เดือนหลังออกจาก ดอร์ทมุนด์ ผมต้องเจรจากับสโมสรเก่า แต่คุณต้องแยกอารมณ์และมิตรภาพออกจากงาน'

3.ชินจิ คางาวะ

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์

สโมสร : เซเรโซ่ โอซาก้า

มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ มิสลินทาต ให้ความสำคัญกับความสามารถเหมือน คางาวะ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ในประเทศตัวเอง หลัง มิสลินทาต เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นประมาณ 10 ครั้งเพื่อเฝ้าดู คางาวะ โดยเฉพาะ เขารู้ว่าเขาค้นพบคนพิเศษในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงหลังจากได้ยลฝีเท้าเด็กหนุ่มชาวเมืองปลาดิบ จากที่เราได้ยินการให้สัมภาษณ์ ไซต์ ออนไลน์ ของเขาว่า '(คาวางะ) ไม่สามารถแตะต้องได้ในสนามและสามารถเปลี่ยนการไหลของเกมได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย'

คางาวะ เป็นเพียงผูเล่นระดับดิวิชั่น 2 ของญี่ปุ่นตอนที่ มิสลินทาต ดึงเขาไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2010 แม้มีน้อยคนนักที่คิดว่าเด็กหนุ่มจากเมืองปลาดิบจะสร้างผลกระทบต่อทีมเสือเหลืองโดยทันที แต่ คางาวะ พิสูจน์ให้เห็นด้วยการนำ ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา สองสมัยติดต่อกันในช่วง 2 ปีที่ค้าแข้งในถิ่น 'ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ค'

จากนั้น คางาวะ ใช้เวลา 2 ปีที่ แมนฯยูไนเต็ด ก่อนจะหวนคืน ดอร์ทมุนด์ ในปี 2015 เขาใช้เวลา 5 ปีกับทีมเสือเหลืองและย้ายไปเล่นกับ เบซิคตัส ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2018-2019 จนกระทั่งโยกซบ เรอัล ซาราโกซ่า หลังจบซีซั่นนั้น ปัจจุบันเขาย้ายมาเล่นกับสโมสรกรีซ พีเอโอเค ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

มิสลินทาต ยังเชื่อว่าการย้ายมาของ คางาวะ เป็นไฮไลท์สำคัญในอาชีพของเขา 'เมื่อคุณพบผู้เล่นอายุน้อยในดิวิชั่น 2 และเขาย้ายมาร่วมทีมด้วยเงินเพียงเล็กน้อยและสามารถสร้างความแตกต่างได้ นั่นคือช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนต้องการในอาชีพของเขา'

4.อุสมาน เดมเบเล่ 

ตำแหน่ง : กองหน้า

สโมสร : แรนส์ 

เดมเบเล่ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ มิสลินทาต ติดตามมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง ซึ่งแนวรุกชาวฝรั่งเศสเปิดเผยว่า 'ดอร์ทมุนด์ ติดตามผมมาตั้งแต่ต้นและติดต่อกันมาตลอด' มันเป็นการลงทุนและการมองการณ์ไกลที่มักจะมองเห็นผู้เล่นที่มีแววจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลก ซึ่งทำให้ ดอร์ทมุนด์ ก้าวล้ำหน้าสโมสรอื่นและด้วยสายตาของ มิสลินทาต ที่ดูพัฒนาการจากการฝึกซ้อมของ เดมเบเล่ มาตั้งแต่ต้น นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถก้าวไปข้างหน้ากับแนวรุกชาวฝรั่งเศสได้ดีก่อนสโมสรอื่นจะไหวตัวทัน

ดอร์ทมุนด์ ดึง เดมเบเล่ จาก แรนส์ มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 แม้เขาจะใช้เวลากับทีมเสือเหลืองเพียงปีเดียว แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับการได้รับเสนอชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2016-2017 ขณะเดียวกันเขายังคว้ารางวัลรุคกี้ยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนั้นของบุนเดสลีกาด้วย ด้วยฝีเท้าของเขาสร้างความหวั่นไหวให้แนวป้องกันของคู่แข่งทันที หลังการทำ 10 ประตูกับ 22 แอสซิสต์จากการลงเล่น 50 นัด จนกระทั่ง บาร์เซโลน่า ทุ่มทุนสร้างเพื่อดึงไป 'คัมป์ นู' ช่วงหน้าร้อนปี 2017

ทีมอาซูลกราน่ามองว่า เดมเบเล่ จะเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของ เนย์มาร์ ซุปตาร์ชาวบราซิเลียนไปโยกซบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 222 ล้านยูโรในช่วงซัมเมอร์ปีเดียวกัน แต่ผ่านมาเกือบ 4 ปี ปีกชาวฝรั่งเศสยังไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงข้อสันนิษฐานนั้น

5.มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์

ตำแหน่ง : กองหลัง

สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค

ฮุมเมิ่ลส์ อายุเพียง 19 ปีตอนที่กำลังทำข้อตกลงย้ายมาค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ เนื่องจากเจ้าตัวผิดหวังที่ไม่ได้รับโอกาสลงสนามกับ บาเยิร์น มิวนิค อย่างที่คาดหวัง หลังลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เพียงเกมเดียว นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากทีมเยาวชน ดังนั้น มิสลินทาต ที่มองเห็นถึงความสามารถของนักเตะจึงใช้โอกาสดังกล่าวเพื่อดึง ฮุมเมิ่ลส์ มาร่วมทัพเสือเหลืองหลังทำงานฐานะสเกาต์ของ ดอร์ทมุนด์ ไม่ถึง 6 เดือน

มันทำให้ ฮุมเมิ่ลส์ กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความสำเร็จที่เก่าแก่สุดของ มิสลินทาต และลงเล่นบุนเดสลีกามากกว่า 350 เกม เขาย้ายกลับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 จนกระทั่งกลับมาร่วมทีมเสือเหลืองอีกครั้งในอีก 3 ปีถัดมา 

ฮุมเมิ่ลส์ จากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัยร่วมกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ ชินจิ คางาวะ เขายังคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล หนึ่งสมัย และ แชมป์ เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ อีก 3 ครั้ง ในการค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ ช่วงแรก ก่อนฟาดแชมป์บุนเดสลีกา 3 ครั้ง, เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัย และ เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ อีก 3 ครั้งกับทัพเสือใต้