ไม่ใช่ว่าทัพดาวทอง “หมูสุด” ในบรรดา 4 ทีมที่ต้องเพลย์ออฟกัน แต่ในมุมลูกหนังไม่ว่าจะสนามเล็ก หรือสนามใหญ่ พอได้พบกันคราใดอะดรีนาลีนในฐานแฟนบอลมันสูบฉีดทุกที
แต่ก็นั่นแหละ … สุดท้ายเมื่อจับมาชน อิรัก ก็ไม่เกี่ยง!!!
หลายคนอาจยังสงสัยว่าเหตุใดทีมชาติไทย ต้องมาเพลย์ออฟในรอบนี้ด้วย
กล่าวแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ เอเอฟซีพิจารณาจาก 2 หลักเกณฑ์ดังนี้
1 พิจารณาจากผลงาน ฟุตชิงแชมป์เอเชียครั้งล่าสุด ( ปี 2018 ที่ไชนีส ไทเป) โดยอิงจากโควตาฟุตซอลโลก ได้แก่ อิหร่าน (แชมป์) ญี่ปุ่น (รองแชมป์) อุซเบกิสถาน (อันดับ 3) อิรัก (อันดับ 4) และ เลบานอน
ขณะที่ทีมชาติไทยรอบแรกพ่าย เลบานอน 2-5 และมาถูก อิหร่าน ยำเละ 9-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
2 พิจารณาจากผลงานชิงแชมป์เอเชีย 3 ครั้งหลังสุด ( ปี 2014,16,18) และนำมาคิดค่าเฉลี่ยผลงานก่อนได้ 5 อันดับคือ อิหร่าน ญี่ปุ่น อุซเบกิสถาน ไทย เวียดนาม
ซึ่งทาง อิหร่าน ญี่ปุ่น อุซเบกิสถาน ผลงานถือว่าอยู่ในเกณฑ์พิจารณาของเอเอซี ทำให้เหลือ 4 ชาติคือ ไทย เลบานอน เวียดนาม และ อิรัก ต้องมาเพลย์ออฟหา 2 จาก 4 ไปรวมกับ 3 ทีมวางที่ถูกคัดเป็นโควตาอัตโนมัติไว้แล้ว รวมเป็น 5 ทีม เพื่อไปสู้ศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ประเทศลิทัวเนีย ต่อไป
โดยล่าสุด ปูลปิส เฮดโค้ชสแปนิช ประกาศรายชื่อผู้เล่นชุดเตรียมสู้กับ อิรัก ออกมาแล้ว ปรากฏว่าไร้ดาววัย 31 อย่าง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ซึ่งก็ไม่ได้เหนือความคาดหมาย
ที่ต้องบอกเช่นนี้เพราะ “เจ้าอาร์ม” ติดภารกิจรับใช้ นาโงยา โอเชียนส์ ที่ญี่ปุ่น กอปรกับเจ้าตัวเพิ่งเดินทางไปถึงและผ่านการกักตัว ซึ่งหากกลับมาเมืองไทยก็ต้องโดนกักตัวอีก ทำให้เวลาในการฝึกซ้อมกับทีมก็แทบจะไม่มีแล้ว
การขาดดาวยิงมากประสบการณ์อย่าง ศุภวุฒิ ไปส่งผลต่อแนวรุกแน่นอน ทว่าในทีมชุดนี้ก็ยังผู้เล่นอย่าง เจษฎา ชูเดช, มูฮัมหมัด อุสมานมูซา หรือ พีรพัฒน์ แก้ววิลัย พร้อมแทนที่ ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ ก็มีทั้งหน้าเก่า-ใหม่ผสมกัน
อยู่ที่การเตรียมตัวทีม สภาพจิตใจนักเตะ และ ปูลปิส จะวางแท็คติกแบบไหนให้เนี้ยบสุด กับ 2 เกมที่ต้องเล่นกับ อิรัก ในช่วงปลายเดือนหน้า
เป็นเกมที่เราต้องทำการบ้านอย่างละเอียดมาก
หากใครจำกันได้ในปี 2017 ศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เรามอง อิรัก เป็น “ม้านอกสายตา” มาตลอด จนเขาถล่มเรา 7-3 ฝ่าด่านไปชนะ ญี่ปุ่น จนผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ อิหร่าน แม้จะแพ้ยักษ์โต๊ะเล็กแห่งเอเชีย แต่เด็กชุดนั้นได้ใจแฟนบอลไปอย่างล้นหลาม
อย่างไรก็ตามปลายปี 2019 อิรัก กลับตกรอบควอลิฟาย ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียโซนตะวันตก หลังจบอันดับรองบ๊วยอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งตามหลักแล้วเขาจะไม่ได้ผ่านเข้ามาชิงตั๋วฟุตซอลโลก 2021 ด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวถูก “ยกเลิก” ก่อนจะผ่านการพิจารณาจากผลงานที่ทำไว้ดี ใน 2 รายการ ที่ผู้เขียนเกรื่นไว้ข้างต้น
หากนิยามถึง อิรัก แบบพอสังเขปสำหรับผู้เขียนคือ เป็นที่ทีมเล่นพร้อมจะออกหัวหรือก้อยได้ตลอด บทจะหล่นก็หล่นน่าใจหาย บทจะผีเข้าก็เล่นดี ฟอร์มแกร่งจนงง
อย่างไรก็ตาม ลึก ๆ ผู้เขียนยังเชื่อว่ามาตรฐานไทย และแท็คติก ไม่ได้เป็นรองเลย หากลงไปสู้ตามแท็คติก ไม่ประมาทหรือกลัวคู่แข่ง เชื่อว่าสุดท้ายตั๋วฟุตซอลโลกสมัยที่ 6 จะอยู่ในมือเรา
เป็นบททดสอบสำคัญอีกครั้งสำหรับโต๊ะเล็กไทย เพราะหากทำไม่ได้ ก็ต้องก้มหน้ายอมรับ
ว่าเราไม่ดีพอสำหรับฟุตซอลโลกครั้งนี้
