:::     :::

เก่งหลังเกม : วันช้างศึกแค่เสมออินโดนีเซีย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จบเกมแบบเหงา ๆ สำหรับศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย ของทีมชาติไทย หลังทำได้แค่เสมอกับ อินโดนีเซีย 2-2

เป็นเกมที่เดือดสนุกตลอดทั้ง 90 นาที แข้งช้างศึกเองก็ถวายกายสู้กันอย่างเต็มปรี่ หากแต่มีเพียงผลการแข่งขันเท่านั้น ที่ทำให้แฟนบอลฉีกยิ้มไม่ออก

ตามธรรมเนียม “เก่งหลังเกม” เช่นเคย ที่เราจะมาพูดถึงประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ตามมุมมองที่เราเห็น

 

ขาดอุ้มเหมือนขาดใจ

ปัญหาหลักที่เห็นเกมนี้คือ เกมรับฝั่งซ้ายทีมชาติไทย กลายเป็นจุดอ่อนใหญ่ให้อินโดนีเซียโจมตี แม้ทัพช้างศึกจะสร้างความได้เปรียบด้วยการออกนำก่อนถึง 2 หน ทว่าเกมรับเองกลับไม่สามารถต้านทานคู่ต่อสู้อยู่

หากเราจะเอ่ยว่า “เสียง่ายเกินไป” คงไม่ผิดนัก

เอร์เนสโต ภูมิภา เดบิวต์ทีมชาติชุดใหญ่อย่างทางการครั้งแรก แต่การยืนตำแหน่งรับมือกับความเร็วของตัวรุก อินโดนีเซีย กลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร บอล 1-1 เจอคู่ต่อสู้กระชากผ่านดื้อ ๆ ปล่อยให้นักเตะอินโดนีเซีย เล่นกับบอลได้ง่าย ๆ บ่อยหนในพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ

แต่เอาเข้าจริง เอร์เนสโต ไม่สมควรถูกคีย์บอร์ดกระหน่ำใส่ฝ่ายเดียว เอกนิษฐ์ ปัญญา เป็นอีกรายทางกาบซ้ายที่วันนี้ฟอร์มการเล่น “ต่ำกว่ามาตรฐาน” ทั้งเกมรุกที่ไม่สามารถเอาชนะแนวรับอินโดได้ รวมถึงเกมรับที่หลายครั้งลงมาซัพพอร์ต เอร์เนสโต ไม่ทัน


 


การแก้เกมของนิชิโนะ

สิ่งที่เซอร์ไพรส์ผู้เขียนพอสมควรคือ เอร์เนสโต ที่ถูกเจาะตลอดทางกาบซ้าย ได้อยู่ในสนามจนถึงนาทีที่ 80 ของเกม

หลายคนดูเกมแล้วน่าจะเห็นแล้วว่า ฝั่งซ้ายของไทยอาการสาหัส จากการถูกอินโดนีเซียกระหน่ำเข้าใส่ ซึ่งลูกทีมของ ชิน แท-ยอง ส่งสัญญาณเตือนในครึ่งแรกหลายครั้งแล้ว ที่ม้านั่งสำรองเองก็มี ศศลักษณ์ ไหประโคน รอลงสนาม

กลับกลายเป็นว่า นิชิโนะ ยังคงให้โอกาสแบ็กลูกครึ่งไทย-สแปนิช ต่อในครึ่งหลัง และก็ตามที่เห็น อินโดนีเซีย ยังคงเจาะพื้นที่เดิมซ้ำ ๆ ทางฝั่งซ้ายของไทยเช่นเดิม จนมาได้ประตูที่ต้องการ

เมื่อเปลี่ยน ศสลักษณ์ มาในช่วง 10 นาทีสุดท้ายทุกอย่างมันสายไปแล้ว

ในมุมของเฮดโค้ชอาจมองว่า เอร์เนสโต สภาพจิตใจยังสู้ และน่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ แต่ก็นั่นแหละ ของแบบนี้ไม่ต่างจากดาบสองคม หากวันนี้บอลชนะ ประเด็นการแก้เกมทางฝั่งซ้ายอาจโดนเมินไป ไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย

แต่เมื่อบอลไม่ชนะ การถูกตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณเรื่องเกมรับ จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน 



 

AK9 เหงาเกินไป

นิชิโนะ สตาร์ตด้วยการใช้งาน อดิศักดิ์ ไกรษร ลงเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า แน่นอนการมี 1 ประตู รวมถึงการอยู่ในสนามกว่า 87 นาที อาจไม่ได้น่าเกลียด

ประเด็นสำคัญคือ “เจ้ากอล์ฟ” โดดเดี่ยวเกินไป

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ว่าเหว้อาจเป็นเกมริมเส้นซ้ายขวาอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา และ ปฐมพงษ์ เจริญรัตนาภิรมย์ ที่ไม่สามารถสร้างความต่างในเกมรุกได้เลย ทั้ง 3 แทบไม่ได้เล่นบอลร่วมกัน บอลส่วนใหญ่ที่กอล์ฟได้ มาจากจังหวะโยนยาวเกือบทั้งสิ้น

ขณะที่ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ก็ถอยตัวเองลงไปล้วงบอลต่ำ เพื่อเซ็ตเกม กับคู่มิดฟิลด์ แต่เมื่อปีก 2 ฝั่งสร้างความต่างไม่ได้ อดิศักดิ์ เองก็ทำได้แค่ยืนคล้ำกับไลน์คู่ต่อสู้รอบอล

แต่ นิชิโนะ เองกลับไม่รีบแก้เกม เอาเข้าจริงทั้ง สุภโชค ศุภณัฏฐ์ ควรได้ลงตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง หรืออย่างขี้เหร่คือ 1 ชั่วโมงแรกที่ถูกตีเสมอ 2-2 เพราะชอยส์ทีมชาติไทยคือ 3 คะแนนสถานเดียว แต่กว่าจะได้ลงสนามปาไปนาที 68 เหลือเวลาในสนามให้พี่น้องคู่นี้ 20 นาทีเศษ

ขณะที่อินโดเองก็เริ่มเล่นตามเกมแล้วคือ ตั้งโซนรับ มีโอกาสก็นอนแม่งทุกจังหวะ ตัดให้เกมของไทยขาดความต่อเนื่อง กินเวลาไปเรื่อย ๆ

ผู้เขียนเชื่อว่าหาก สุภโชค ศุภณัฏฐ์ ได้อยู่ในสนามนานกว่านี้ ทั้งคู่อาจสร้างจุดเปลี่ยนให้ทีมไทยได้



 

3 คะแนนที่สมควรได้

ก่อนเกมจะดีจะร้ายยังไง ไทย ต้องคว้า 3 คะแนนให้ได้ในนัดนี้ เพื่อต่อลมหายใจไปต่อในรอบ 12 ทีมสุดท้าย และคู่ต่อสู้คือ อินโดนีเซีย บ๊วยกลุ่มที่ไม่มีคะแนน

อินโดนีเซีย นักเตะไม่มีลีกให้ลงเล่นเป็นปี ๆ จากโควิด โค้ชทำได้เพียงพาทีมทัวร์หาแมตช์อุ่นเครื่องต่างแดน ผู้เล่นส่วนใหญ่ล้วนอายุต่ำกว่า 23 ปี ทั้งสิ้น บางคนแค่ 19 มากกว่าครึ่งมีประสบการณ์ทีมชาติชุดใหญ่แค่ 1-2 เกม เพราะ ชิน แท-ยอง หวังใช้เวทนี้เตรียมทีม U-20 และ ซีเกมส์

คือต่อให้ไทยไม่มี 3 แข้งตัวเก๋าที่ถอนตัวไป อย่างขี้เหร่ก็ไม่สมควรจบลงที่ผลเสมอ

ผลเสียจากเกมนี้ที่ทำได้เพียง 1 แต้มส่งให้ไทยมีเพิ่มเป็น 9 คะแนน เท่ากับ มาเลเซีย ขณะที่ยูเออี แม้จะมี 9 แต้มเท่ากันแต่พวกเขาลงเล่นน้อยกว่าไทย 1 นัด พร้อมตุนประตูได้เสียไว้มากกว่าไทยถึง 5 ประตู

แม้ตามทฤษฎี ประตูเข้ารอบของไทยยังแง้มอยู่นิด ๆ เพราะต้องชนะทั้ง ยูเออี และ มาเลเซีย เพื่อลุ้นจบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด แต่ในทางปฏิบัติ เอาแค่ชนะ 2 เกมที่เหลือก็ยากมหันต์แล้ว ทว่าประตูได้เสียที่เป็นรองกลุ่มอื่นบานเบอะ ยิ่งทำงานโอกาสเข้ารอบต่อไปปิดตาย

1 แต้มในวันนี้ คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นของจุดจบ” ปิดโอกาสไปต่อรอบ 12 ทีมสุดท้ายของทีมชาติไทย


คำค้นหา : ทีมชาติไทย
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด