:::     :::

จุดเริ่มต้นความสำเร็จกับ "จอร์จินโญ่"

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2564 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,872
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถือเป็นขวบปีที่ยิ่งใหญ่

สำหรับจอร์จินโญ่ห้องเครื่องจากสโมสรเชลซี นอกจากพาพลพรรคสิงโตน้ำเงินครามคว้าแชมป์ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองเป็นผลสำเร็จแล้ว เขายังพาทีมชาติอิตาลี ผงาดซิวแชมป์ยูโร 2020 อย่างยิ่งใหญ่ โดยถือว่าเป็นการคว้าแชมป์แรกในชีวิตในนามทีมชาติด้วย


ความสำเร็จดังกล่าว ทำให้จอร์จินโญ่ ออกมายอมรับว่า เขาฝันอยากจะได้รางวัลบอลทองคำอย่างบัลลงดอร์เช่นเดียวกัน เพราะเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีนี้ ในแง่ของถ้วยรางวัล แม้ต้องยอมรับว่า ฝีเท้าของเขายังคงตกเป็นรองดาวดังคนอื่น  อย่างลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่หลายช่วงตัวก็ตาม 


ช่วงนี้ เราลองไล่ไปย้อนดูชีวิตการเริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลของเขากันหน่อยดีกว่า โดยบอกเลยว่า เส้นทางที่เดินผ่านมามันช่างทรหด และยากลำบากเอามากๆ โดยยากจนถึงขั้นขนาดว่า เขาเกือบถอดใจ และอยากเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว ส่วนอะไรที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาต่อสู้ จนประสบความสำเร็จนั้น เราไปหาคำตอบกันเลย  

"ผมโดนโกงเงิน และเกือบเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว


จอร์จินโญ่ ที่เกิด และเติบโตที่ย่านอิมบิตูย้า, ประเทศบราซิล เริ่มเล่าถึงชีวิตวัยเด็กของตัวเอง โดยเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก ทว่าการโดนเอารัดเอาเปรียบบางอย่าง ทำให้เขาเกือบหันหลังให้กับลูกหนังอันเป็นที่รักไป และนี่คือเรื่องราวชีวิตของเขาในจุดเริ่มต้น


"ผมมีโอกาสลงเล่นฟุตบอลระดับภูมิภาคของประเทศบราซิล เอเย่นต์คนหนึ่งได้ติดตามฟอร์มการเล่นของผม โดยหลังจากนั้น เขาก็พาผม กับเด็กคนอื่นไปโรงเรียนฟุตบอลของเขา ซึ่งมีระยะทางห่างออกจากบ้านของผมไปกว่า 200 กิโลเมตร ซึ่งผมใช้เวลาที่นั่น 2 ปีด้วยกัน


จอร์จินโญ่ บอกถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญต่อไปว่า "หากเอเย่นต์มองแล้วว่า เด็กคนไหนมีความสามารถมากพอ เขาจะพาตัวไปประเทศอิตาลี นั่นคือสิ่งที่เขาทำกับผม ตอนที่อายุได้ 15 ปี เอเย่นต์พาผมไปทดสอบฝีเท้ากับระบบเยาวชนของสโมสรเวโรน่า จากนั้น ทีมก็สนใจในตัวผม"


"ย้อนกลับไปเวลานั้น ในการย้ายมาอิตาลี ถือเป็นเรื่องง่าย เพราะผมเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน ทุกอย่างต่างเป็นเรื่องใหม่ ผมเริ่มเข้าสู่ชีวิตประจำวัน ซ้อมบอล, ไปเรียน และกลับบ้าน มันวนเวียนอยู่แบบนั้น ผมทำแบบนั้นราว 18 เดือน พร้อมกับมีเงินใช้ประมาณ 20 ยูโรต่อสัปดาห์"

ดาวเตะวัย 29 ปีกล่าวต่อว่าผมแทบไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยล่ะ เพราะต้องยอมรับว่า เงินรายได้มันมีไม่มากพอ ตลอด 1 ปี ผมไม่ได้ลงสนามเลย เพราะติดเรื่องใบอนุญาตเข้าเมืองจากบราซิล ผมจึงทำได้เพียงซ้อมแบบจริงจัง สลับกับไปเรียนหนังสือ ถือเป็นช่วงเวลาที่หนักหนามาก"


"ย้อนไปเวลานั้น เวโรน่า ไม่ได้อยู่ในระดับกัลโช่ เซเรีย อา พวกเขาจึงไม่มีทีมชุดเยาวชน ดังนั้น ผมจำเป็นต้องโยกไปเล่นกับทีมเยาวชนระดับท้องถิ่นที่มีชื่อว่าเบอร์เร็ตติ พวกเขาลงเล่นอยู่ในลีกระดับล่างอย่างเซเรียซี1/ซี2 ซึ่งผมลงเล่นอยู่ที่นั่น ประมาณ 2 ปีด้วยกัน


กระทั่งผมได้เจอกับผู้รักษาประตูอย่างราฟาเอล เขาเป็นชาวบราซิเลี่ยน เหมือนกัน เราลงเล่นเกมกระชับมิตรกัน เขาถามผมว่าผมทำอะไรอยู่ และมาอยู่ได้กี่ปีแล้ว ? ผมตอบกลับไปว่า ผมอาศัยอยู่ที่นี่ โดยมีเงินติดตัว 20 ยูโรต่อสัปดาห์เท่านั้นเอง"


"ราฟาเอล ตอบบ้างว่า -เดี๋ยวนะ ฉันคิดว่ามีเรื่องไม่ถูกต้องเกิดขึ้นกับนายแล้วล่ะ- เขาทำการหาข้อมูล ก่อนพบว่าเอเย่นต์ของผมรับเงินมา ซึ่งผมไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องเงินจำนวนดังกล่าว เมื่อผมได้ยินดังนั้น ผมอยากจะยอมแพ้เลย ผมรู้สึกเสียใจมาก รวมถึงซึมเศร้า ก่อนจะโทรหาคุณแม่ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา ผมบอกแม่ว่าอยากกลับบ้าน ไม่อยากเล่นฟุตบอลอีกต่อไปแล้ว"


"แม่ตอบกลับมาว่า -ลูกอย่าคิดแบบนี้เด็ดขาด ลูกเดินมาใกล้ความสำเร็จ ลูกอยู่ที่นั่นมา 2 ปีแล้ว แม่ไม่ต้องการให้ลูกกลับบ้าน ลูกต้องยืนหยัดต่อไป และรับมือกับความยากลำบากให้ได้- ผมต้องยอมรับว่า คำพูดดังกล่าวจากปากแม่ ทำให้ผมตัดสินใจอยู่สู้ต่อไป"

นี่คือจุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังของจอร์จินโญ่ จากเด็กบราซิเลี่ยน ที่ย้ายมาเล่นในประเทศที่แปลกใหม่ ผ่านการเล่นกับทีมเยาวชนระดับท้องถิ่น ต่อด้วยการถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมระดับ เซเรียซี2 ก่อนจะพิสูจน์ตัวเองจนก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ของเวโรน่า 


ตามด้วยย้ายไปทีมที่ใหญ่กว่าอย่างนาโปลี และเป็นนักเตะค่าตัวครึ่งร้อยล้านปอนด์ของเชลซี แน่นอนว่า เวลาต่อมาเขาได้รับสัญชาติอิตาเลี่ยน และติดทีมชาติอิตาลี ชุดใหญ่ด้วย ซึ่งทั้งหมด ผู้อยู่เบื้องหลังแห่งกำลังใจนั่นคือมาเรีย เตเรซ่า ไฟรตาสคุณแม่ของเขานั่นเอง 


จอร์จินโญ่ บอกว่า คุณพ่อกับคุณแม่ของเขา แยกทางกัน ตั้งแต่ที่เขาอายุได้เพียงแค่ 6 ขวบแล้ว คุณแม่จึงกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับหน้าที่หลัก คือการเลี้ยงดูลูกชายด้วยตัวคนเดียว โดยทำทุกวิถีทาง เพื่อส่งลูกชายให้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ด้วยการทำงานอย่างหนัก ในการเก็บหอมรอมริบ เพื่อซื้อรองเท้า และลูกฟุตบอลให้กับเขา


จอร์จินโญ่ ทิ้งท้ายว่า "คุณแม่ของผมเคยเล่นฟุตบอลด้วย ดังนั้น ผมจึงได้เรียนรู้อะไรมากมายจากแม่ ทุกวันนี้ แม่ก็ยังคงเข้าใจเกมเป็นอย่างดี แม่ชอบพาผมไปชายหาด พร้อมกับลูกฟุตบอลหนึ่งลูก แน่นอนว่า ผมใช้เวลาตลอดช่วงบ่าย ทำการฝึกฝนเทคนิคบนหาดทราย"


ตอนที่ผมไปเล่นที่อิตาลี ผมไม่ได้เงินมากนัก เพราะจำนวนเงินราว 20 ยูโร ผมไม่สามารถทำอะไรได้มาก ผมเจียดเงิน 5 ยูโร เพื่อเติมโทรศัพท์ รวมถึงซื้อของใช้จำเป็นอีกราว 15 ยูโร นอกเหนือจากนั้น เงินที่เหลือผมจะเอาไว้ใช้ติดต่อทางไกลกับครอบครัว มันเป็นแบบนั้นปีกว่าเห็นจะได้"


"ความพยายามของคุณมีคุณค่า และความฝันที่ได้มา ไม่ได้เป็นของคุณคนเดียว" จอร์จินโญ่ กล่าวถึงคุณแม่ของเขา 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด