มีผู้เล่นทั้งชุดใหญ่และดาวรุ่งเดินเข้า-เดินออกรวมกันไม่ต่ำกว่าสิบราย และยิ่งเมื่อรวมกับช่วงซัมเมอร์ก็ยิ่งทำให้หน้าตาของทีมเปลี่ยนไปอย่างมาก

ไล่เรียงในกลุ่มที่ย้ายออกในเดือนมกราคมกันก่อน

อาร์แซน เวนเกอร์ ปล่อยนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมออกไปหลายคนไล่ตั้งแต่ ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ที่ย้ายไปร่วมทีม บาเลนเซีย ในสเปน และรียูเนี่ยนกับเพื่อนเก่า กาเบรียล เปาลิสต้า เซนเตอร์บราซิเลียนที่ย้ายไปตั้งแต่ช่วงซัมเมมอร์

กองกลางชาวฝรั่งเศสเค้นฟอร์มเก่งไม่เจอนับตั้งแต่หายเจ็บกลับมา เวนเกอร์ พยายามให้โอกาสครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่ดีขึ้น สุดท้ายการแยกทางคือตัวเลือกที่ดีสุดสำหรับทุกฝ่าย

ธีโอ วัลค็อตต์ ตามกันไปติดๆ เมื่อ 12 ปีในสีเสื้ออาร์เซน่อล ไม่ได้ทำให้เขาพัฒนาขึ้นมาเป็นตัวหลักได้อย่างที่หลายคนคาดหวัง และถูกแฟนบอลตราหน้าว่าเป็น "ดาวรุ่งตลอดกาล"

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ย้ายร่วมทัพเชลซี ในวันสุดท้าย

อเล็กซิส ซานเชซ เลือกหาความท้าทายและค่าเหนื่อยก้อนโตกับผีแดง

ธีโอ วัลค็อตต์ ต้องเริ่มต้นใหม่กับเอฟเวอร์ตัน

วัลค็อตต์ ต้องไปเริ่มต้นใหม่กับ เอฟเวอร์ตัน ของ แซม อัลลาไดช์ ที่ยังมองเห็นศักยภาพซึ่งในวัย 28 ปีตอนนี้ก็ยังถือว่ามีเวลาอีกพอสมควรในเส้นทางอาชีพ

เป้าหมายของอดีตดาวรุ่งเซาธ์แฮมป์ตันคือ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รออยู่ในช่วงซัมเมอร์ เขาต้องการโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอเพื่อโชว์ผลงานให้เข้าตา แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทัพสิงโตคำรามซึ่งถ้ายังอยู่อาร์เซน่อลต่อไปก็คงไม่มีทาง 

โกเกอแล็ง กับ วัลค็อตต์ เป็น 2 ผู้เล่นที่อยู่กับอาร์เซน่อลมานานสุดของทีม แต่เมื่อเดินทางมาถึงทางตัน ทั้งคู่ก็ต้องไป และอาร์เซน่อลได้เงินจาก 2 ดีลนี้รวมกัน 32 ล้านปอนด์

รายใหญ่สุดที่จากไปในเดือนนี้ย่อมเป็นใครไม่ได้นอกจาก อเล็กซิส ซานเชซ ที่ปฏิเสธต่อสัญญาฉบับใหม่และเลือกไปหาความท้าทายกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เวนเกอร์ พยายามรั้งแข้งชาวชิลีให้อยู่กับทีมต่อไป แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่สามารถทุ่มค่าเหนื่อยก้อนโตได้อย่างที่นักเตะต้องการ ขณะที่ตัวซานเชซเองก็หมดใจกับทีมไปตั้งนานแล้ว

สิ่งที่อาร์เซน่อลทำได้คือ "ตัดใจ" และทำอย่างไรเพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมามากที่สุดกับการปล่อยนักเตะที่เป็นสตาร์ของทีม และมีสถิติยิงประตูมากสุดตลอด 3 ฤดูกาลครึ่งที่ผ่านมา

บทลงเอยสุดท้ายคือการได้ เฮนริค มคิทาร์ยาน ตัวรุกอาร์เมเนียที่กลายเป็นส่วนเกินของผีแดง ย้ายสวนทางมาร่วมทีม 

ในช่วงวันสองวันสุดท้าย เวนเกอร์ ปล่อยอีกหนึ่งตัวรุกอย่าง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสไปให้คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนอย่างเชลซีด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์

การขายนักเตะให้คู่แข่งที่ลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยตรงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่ดีลนี้เป็นส่วนหนึ่งของ 3 ดีลซึ่งสำคัญสุดคือ การดึง ปิแอร์-เอเมอร์ริค โอบาเมย็อง มาร่วมทีม 

โอบาเมย็อง ได้ย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ก็เพราะ "เสือเหลือง" สามารถหาตัวแทนอย่าง มิชี่ บาตชูอายี่ กองหน้าทีมชาติเบลเยียมได้ทัน และก็เป็นเชลซีที่ปล่อยให้เพราะได้ ชิรูด์ เข้ามาเสียบพอดี3 ดีลนี้จึงลงตัว และแม้เป็นการยื่นหอกให้ศัตรูในลีกโดยตรง แต่อาร์เซน่อลก็ต้องยอมเพื่อให้ได้กองหน้าที่มีคุณภาพมากกว่า และยอมทุ่มทุนจนเป็นสถิติสโมสร 56 ล้านปอนด์

กลายเป็นว่าในเดือนมกราคมเดือนเดียว อาร์เซน่อลปล่อย อเล็กซิส ซานเชซ, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เป็นดาวซัลโว 3 อันดับแรกจากฤดูกาลก่อนไปทั้งหมด

ก่อนตลาดปิดลง เวนเกอร์ ยังเปิดทางให้ มาติเยอ เดอบูชี่ แบ็กขวาชาวฝรั่งเศสได้ย้ายกลับไปเล่นในลีก เอิง อีกรอบกับ แซงต์-เอเตียน แบบไม่มีค่าตัวหลังยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายในการยกเลิกสัญญาที่เหลืออยู่อีก 5 เดือน

นอกเหนือจากผู้เล่นระดับซีเนียร์แล้ว ยังมีดาวรุ่งอีกหลายคนที่ต้องไปเริ่มต้นเส้นทางใหม่ทั้งแบบย้ายออกไปถาวรและยืมตัว

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ดาวยิงค่าตัวแพงสุดคนใหม่ของสโมสร

มาร์คัส แม็คกูเอน กองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษ ย้ายถาวรไปบาร์เซโลน่า ขณะที่ คริสเตียน บีลิค แข้งชาวโปลถูกส่งไปเสริมประสบการณ์กับ วอลซอลล์

เจฟ เรเน่ อเดเลด ตัวรุกฝรั่งเศสกลับบ้านเกิดไปเล่นให้อองเชร์ด้วยสัญญายืมตัว เช่นเดียวกับ ชูบา อัคปอม กองหน้าชาวอังกฤษที่ลงเอยกับ แซงต์-ทรุยด็อง ในเบลเยียม

อาร์เซน่อลได้เงินจากนักเตะที่ปล่อยออกไปเดือนนี้ราว 50 ล้านปอนด์ ส่วนดีลของ อเล็กซิส ที่ต้องปล่อยก่อนเพราะสัญญาเหลือถึงจบฤดูกาล คือการได้ มคิทาร์ยาน มาทดแทน

เมื่อรวมกับกลุ่มที่ย้ายตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ทั้ง วอยเชียค เชสนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, ยาย่า ซาโนโก้, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, คาร์ล เจนกินสัน (ยืม), ลูคัส เปเรส (ยืม), ทาคูมาะ อาซาโนะ (ยืม), โจเอล แคมป์เบลล์ (ยืม) และดาวรุ่งอีกหลายคน โฉมหน้าอาร์เซน่อลเปลี่ยนไปเยอะมากจนเรียกได้ว่าเป็นการ "ผลัดใบ" อีกยุคก็ว่าได้

ส่วนกลุ่มที่ย้ายเข้ามาในเดือนนี้ถือว่าก็ยิ่งทำให้ภาพของการเข้าสู่ "ยุคใหม่" ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส กองหลังดาวรุ่งกรีซเป็นรายแรกที่ย้ายเข้ามาพร้อมสถานะ "โนเนม" พอสมควร เป็นการซื้อเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง รายนี้ยังไม่มีอะไรให้พูดถึงมาก

อดีตคู่หูเสือเหลืองเตรียมผนึกกำลังกันอีกครั้งในชุดปืนใหญ่

ไฮไลต์สุดคือการผนึกกำลังกันอีกครั้งของ ปิแอร์-เอเมอร์ริค โอบาเมย็อง กับ เฮนริค  มคิทาร์ยาน 2 อดีตผู้เล่นของดอร์ทมุนด์ที่เคยทำผลงานเปรี้ยงปร้างอย่างมากในเวทีบุนเดสลีกา

มคิทาร์ยาน ย้ายสลับฝั่ง อเล็กซิส อย่างที่ได้ไล่เรียงไป แม้ตอนแรกดูเหมือนเป็นการย้ายมาแบบไม่เต็มใจมากนัก แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป และอย่างน้อย เวนเกอร์ ก็ยังให้ความไว้วางใจ ต่างจากความสัมพันธ์กับเจ้านายเก่าอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่

ส่วนในรายของ โอบาเมย็อง ก็เรียงเสียงฮือฮาจากแฟนบอลปืนใหญ่ได้อย่างมากทีเดียวเพราะนี่คือดาวยิงที่ดีที่สุดอีกคนของยุโรปในเวลานี้ 

ช่วงที่ผ่านมา ดาวยิงทีมชาติกาบองมีปัญหาเรื่องระเบียบวินัยบ่อยครั้งทำให้ดอร์ทมุนด์ต้องยอมปล่อยตัวออกจากทีมเพราะเก็บไว้ก็อาจรั้งแต่จะเสียหายมากกว่าเดิม 

แต่กว่าจะตกลงค่าตัวกับอาร์เซน่อลได้ก็ใช้เวลาหลายวันทีเดียว แถมยังต้องพ่วงกับดีลอื่นราวกับห่วงโซ่อาหารยังไงยังงั้น 

โอบาเมย็อง กับ มคิทาร์ยาน จึงกลายเป็นตัวเลือกในแนวรุกใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพ เมซุต โอซิล กับ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ และอุดรูรั่วที่ อเล็กซิส ซานเชซ ทิ้งเอาไว้

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญที่แม้ไม่ใช่การได้นักเตะใหม่แต่ก็เป็นข่าวดีสุดๆ สำหรับแฟนบอลคือการที่ โอซิล ตัดสินใจต่อสัญญากับทีมออกไปพร้อมรับค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ซึ่งเป็นสถิติใหม่สโมสร

การเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรมของทุกชีวิต จะด้วยความเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเลี่ยงได้ และอาร์เซน่อลก็เดินทางมาถึงจุดที่ต้องเดินหน้าต่อไปพร้อมกับความหวังใหม่ที่เข้ามา 

ซึ่งทุกคนก็ได้แต่หวังว่า สิ่งใหม่จะเป็นสิ่งที่ดีในชีวิต