เวนเกอร์ ดึง ปิแรส มาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย ในปี 2000 เพื่อแทนที่ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ที่ย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า
อดีตปีกตัวเก่งทีมชาติฝรั่งเศสพา "ปืนใหญ่ กวาดแชมป์เป็นว่าเล่นไล่ตั้งแต่ดับเบิ้ลแชมป์ปี 2002, เอฟเอ คัพ ปี 2003, แชมป์พรีเมียร์ลีกไร้พ่ายปี 2004, เอฟเอ คัพ อีกครั้งในปี 2005 และเกือบได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีสุดท้ายก่อนย้ายออกจากทีม
ในฤดูกาล 2001/02 ที่พาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ ปิแรส ระเบิดฟอร์มอันสุดยอดออกมาจนคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล นอกจากนี้ก็ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกอีก 3 ฤดูกาล
ปิแรส อำลา อาร์เซน่อล ไปแล้ว 16 ปี แต่ความทรงจำหลากหลายในช่วงชีวิตค้าแข้งที่ดีที่สุดยังคงน่าสนใจในหลากหลายแง่มุม เช่นเดียวกับข้อมูลบางอย่างที่หลายคนอาจไม่รู้
วันนี้เราจะมานั่งพูดคุยกับ โรแบร์ ปิแรส กันอีกครั้ง
จุดเริ่มต้นกับ อาร์เซน่อล
"ตอนปี 2000 ผมได้รับข้อเสนอจาก เรอัล, ยูเวนตุส และ อาร์เซน่อล มันเป็นตัวเลือกที่ยากมากๆ ทุกคนต่างบอกว่าผมบ้าไปแล้วที่ไม่เลือก เรอัล มาดริด"
"แต่ผมก็เกือบย้ายแล้วนะ ผมถึงขั้นใส่เสื้อ เรอัล ถ่ายรูประหว่างศึกยูโรที่ เบลเยียม เลยทีเดียว! ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นถ่ายให้กับหนังสือพิมพ์ อาส"
"แต่ อาร์แซน โทรมาหาผมและแผนทุกอย่างของผมก็เปลี่ยนไปเลย เขาส่งเครื่องบินเจ็ตมารับผมหลังจบนัดชิงชนะเลิศ (ยูโร) ผมผ่านการตรวจร่างกายและเซ็นสัญญากับทีม"
"กับการมี เธียร์รี่ อองรี และ ปาทริค วิเอร่า ทำให้มั่นใจมากขึ้นกับการย้ายสู่ อาร์เซน่อล สโมสรมีเสถียรภาพโดยเฉพาะหลังจากฤดูกาลที่ยากลำบากของผมกับ มาร์กเซย และคิดว่าสิ่งต่างๆ สามารถพังได้ทุกเมื่อที่ เรอัล มาดริด"
อาร์แซน เวนเกอร์
"อาร์แซน เวนเกอร์ ยกระดับการเล่นผมขึ้นอีกมิติและทำให้ผมพัฒนาขึ้น"
"ช่วงหกเดือนแรกผมเริ่มต้นอย่างยากลำบากจริงๆ แทบไม่มีอะไรก้าวไปข้างหน้าเลย มันค่อนข้างหนักเอาเรื่อง ดูสับสน เลวร้าย แต่เขารู้สึกว่าผมจะปรับตัวได้"
"ด้วยการหนุนหลังของเขา คุณมีอิสระกับการเล่นในสนาม ผมไม่ได้บอกว่าผมทำอะไรได้ตามใจหรอกนะเพราะนักเตะแต่ละคนก็มีหน้าที่รับผิดชอบต่างกัน แต่ผมมีอิสระในการเล่นและก็อยากสนุกไปกับมัน"
จุดโทษดราม่า
โรแบร์ ปิแรส และ เธียร์รี่ อองรี เคยเป็นประเด็นวิพาษณ์วิจารณ์ในเกมพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอนเล่นลูกสูตรยิงจุดโทษที่เขี่ยเปลี่ยนจุดให้อีกคนมายิง ทว่าดัน "กั๊ก" จังหวะกันเอง
"ตีตี้ คือแฟนตัวยงของ (โยฮัน) ครัฟฟ์ ที่เคยลองยิงจุดโทษแบบนั้นและก็ทำได้สำเร็จ"
"เราคุยกันเอาไว้แล้วในวันก่อนแข่งและผมก็เอาด้วย แต่ตอนซ้อมกับแข่งจริงก็เป็นความรู้สึกที่ต่างกัน"
"ตอนที่เขามาสะกิดบอกผมว่าเดี๋ยวลองดูนะ ผมไม่อยากเอาด้วยเลย ผมไม่พร้อม สุดท้ายก็เลยกลายเป็นว่าผมผิดจังหวะกับเขา และวันต่อมาแฟนบอลอังกฤษก็ถล่มไม่ยั้ง"
"วันนึง โรนัลดินโญ่ บอกกับผมว่าฟุตบอลคือสิ่งมหัศจจรย์ไม่ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ได้ แต่ตอนนั้นออกมาแป๊ก"
ความเจ็บปวดที่สุด
โรแบร์ ปิแรส ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล นัดสุดท้ายในเกมสำคัญที่สุดรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาร์เซโลน่า ทว่าลงเอยด้วยความเจ็บปวดที่สุด
"ปืนใหญ่" พ่ายต่อ บาร์เซโลน่า 1-2 ทำให้ได้เพียงรองแชมป์ และตัวของ ปิแรส ก็ได้เล่นเพียง 18 นาทีก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกเพราะ เยนส์ เลห์มัน ได้ใบแดงทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องถอดผู้เล่นเอาต์ฟิลด์เพื่อส่ง มานูเอล อัลมูเนีย ลงไปเฝ้าเสา
"ผมไม่อยากเชื่อเลยตอน อาร์แซน เปลี่ยนผมออกในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ผมคิดว่าเขาน่าจะเปลี่ยน (อเล็กซานเดอร์) คเล็บ) หรือเพื่อนของผมอย่าง ฟาเบรกาส ออก มันไม่ใช่ว่าผมเย่อหยิ่งนะ แต่ผมคิดว่าผมสามารถช่วยเกมรับได้"
"ผมมีความเข้าใจในเรื่องแท็กติกที่ดีมากๆ กับ ตีตี้ ดังนั้นผมจึงใจเย็นและมั่นใจว่าจะได้เล่นต่อ แต่จากนั้น ตีตี้ ก็เดินมาบอกผม 'นายคือคนที่ต้องออกนะเพื่อน' ผมก็แบบ 'อะไรนะ?' แล้วผมก็มองไปเห็นหมายเลข 7 ที่ป้ายเปลี่ยนตัว มันเลวร้ายมากๆ"
"ผมเดินผ่านโค้ช เราต่างไม่มองหน้ากัน ผมตรงไปนั่งลงด้วยความโกรธมากๆ จากนั้นอีกสองวันต่อมาผมก็บอกเขาไปว่าผมจะย้าย มันเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมอำลา เขาเองไม่คาดคิดมาก่อน มันถึงจุดที่คงต้องแยกย้ายหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศนั้น"
