ดังนั้นในฟุตบอลในยุคปัจจุบันเราจึงเห็นนักฟุตบอลมากมายล้วนมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งยามที่ถอดเสื้อออกมาอวดสู่สายตาประชาชน ทว่านั่นก็หมายถึงความเสียสละและการทำงานหนักในยิมเพื่อร่างกายที่ยอดเยี่ยม แต่ผลตอบแทนที่ได้ต้องบอกว่าคุ้มค่าจริงๆ

         วินัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะรักษาสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมาให้คงอยู่ตลอดไป อย่างน้อยก็ในช่วงที่ยังค้าแข้งอยู่ซึ่งต้องบอกว่าไม่ง่ายเลย

         ลองไปดูว่าใครกันบ้างที่ "แปลงร่าง" จากนักฟุตบอลที่เห็นผอมแห้งในตอนแรกมาเป็นแข้งกล้ามโตในปัจจุบัน

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

         เจ้าของรางวัลบัลลง ดอร์ 5 สมัยถือเป็นแข้งที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และถือเป็นต้นแบบของนักฟุตบอลมากมายในโลกใบนี้

         ภาพเมื่อครั้งย้ายมาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมัยเป็นดาวรุ่งพร้อมฉายา "จอมสับ" ในตอนนั้นเจ้าตัวเป็นเพียงเด็กที่ผอมแห้งแทบไม่เหมาะกับสไตล์ฟุตบอลอังกฤษอันหนักหน่วง

         แต่หลังจากนั้น โรนัลโด้ เปลี่ยนตัวเองจากปีกร่างบางมาเป็นแข้งทรงพลังด้วยการออกกำลังการที่เข้มงวด

         "ผมนึกถึงว่าร่างกายของผมสามารถพัฒนาได้ ด้วยความทุ่มเทและทำงานอย่างหนักในโรงยิมมันทำให้ผมพัฒนาขึ้นอย่างมาก - ในที่สุด มันก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคน"

มาร์คัส แรชฟอร์ด

         เปิดตัวครั้งแรกย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ในฐานะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้รับการจับตาว่าอนาคตไกล

         ในตอนนั้นต้องบอกว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังเป็นเด็กร่างผอมอยู่เลย และแน่นอนว่าเจ้าตัวได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในการพัฒนาร่างกาย

         เรียกได้ว่า แรชฟอร์ด ศึกษาและฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนัก เพิ่มความแข็งแกร่งและปรับการซ้อมที่แคร์ริงตัน และนั่นคือผลของร่างกายที่ยอดเยี่ยมในปัจจุบัน

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

         หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบันแม้อายุจะทะลุเลขสามไปไม่น้อย แต่สถิติการทำประตูและสภายร่างกายต้องบอกว่าแข้งรุ่นน้องยังอาย

         ด้วยการเปลี่ยนในเรื่องของการกินรวมถึงการซ้อมที่เข้มงวดตอนนี้ถือว่าเขามีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง

         "เราเปลี่ยนอาหารทีละขั้นตอน โดยเริ่มจากการจัดของหวานแล้วก็ตามด้วยนม" เลวานดอฟสกี้ อธิบาย

         "นมวัวและถั่วเหลืองไม่ดีสำหรับผม, นมอัลมอนด์กับนมข้าวพอได้อยู่ ผมไม่ดื่มแอลกอฮอร์อยู่แล้ว อาจจะมีดื่มไวน์บ้างแต่ก็แค่บางครั้งเท่านั้น"

อดาม่า ตราโอเร่

         นักเตะที่ได้ชื่อว่าแกร่งที่สุดในโลกด้วยกล้ามที่ทรงพลัง และเมื่อมองย้อนกลับไปในวันแรกต้องบอกว่า อดาม่า ตราโอเร่ มาไกลมากๆ

         รูปสมัยก่อนเมื่อครั้งอยู่กับ บาร์เซโลน่า กับภาพตอนอยู่กับ วูล์ฟส์ ถูกนำมาแชร์กันไปทั่วโลกอินเตอร์แสดงให้เห็นพัฒนาการอันยอดเยี่ยมจริง และถึงแม้จะมีกล้ามเนื้อขนาดนั้น เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยเล่นเวทเลย!

         "การซ้อมของผมน่พเหรอ? ผมไม่เล่นเวทเลย" ตราโอเร่ เผย "มันยากที่จะเชื้อ แต่ผมไม่เล่นเวทจริงๆ"

         "มันเป็นกรรมพันธ์ ผมออกกำลังกาย แต่ผมได้กล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว"

เซร์คิโอ รามอส

         อีกหนึ่งนักเตะที่ทุกวันนี้เราสามารถเห็นรูปร่างที่สมควร กล้ามที่สวยงาม ผลพวงมาจากการกินที่เน้นของมีประโยชน์และการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง

         หากใครติดตามอินสตราแกรมของ เซร์คิโอ รามอส จะเห็นว่าเจ้าตัวมักจะโพสต์คลิปออกกำลังกายอยู่เสมอ และเป็นการออกกำลังกายที่ต้องบอกว่าเข้มข้นมากจริงๆ

         "กิจวัตรการฝึกซ้อมของผมที่บ้านจะเน้นไปที่การออกกำลังกายในทุกมิติ ซึ่งจะจบลงที่การคาดิโอนิดหน่อย" รามอสเผย

         "ผมมักจะดื่มกาแฟอยู่เสมอ กินขนมปังที่มีโฮเกรนและกินโปรตีนอย่างอกไก่งวงหรือไข่ลวกและผมไม้สักชิ้น"

ฮัลค์

         จีวานิลโด้ วิเอร่า เด ซูซ่า หรือที่รู้จักกันในชื่้อ ฮัลค์ เป็นที่รู้จักสมัยค้าแข้งกับ ปอร์โต้ ซึ่งในตอนนั้นต้องบอกว่ามีมัดกล้ามที่แข็งแกร่งทีเดียว

         แต่มันมีช่วงเวลาที่เจ้าตัวไปค้าแข้งในจีนกับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ดูเหือนว่าเจ้าตัวจะปล่อยตัวไปสักหน่อยทำให้ร่างกายเริ่มดูมีน้ำมีเนื้อมากขึ้น

         ปัจจุบันที่กลับไปค้าแข้งกับ อัตเลติโก มิเนยโร่ ในบ้านเกิดในวัย 35 ปี เจ้าตัวรีดไขมันออกและสร้างกล้ามเนื้อกลับมาอีกครั้งพร้อมผลงานที่ยอดเยี่ยมโดยปีนี้ทำ 7 ประตูจาก 7 เกม โดยรวดซัดไป 43 ลูกกับ 13 แอสซิสต์จาก 74 เกมต้องบอกว่าเยี่ยมไปเลย