:::     :::

ข้อแก้ตัวสุดแปลกเมื่อทีมผลงานห่วย

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,301
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการจัด นักฟุตบอล หรือแม้แต่กับเจ้าของสโมสรย่อมไม่ชอบให้ตัวเองพ่ายแพ้ หรือแสดงผลงานที่ย่ำแย่ออกมา

         แน่นอนว่าเมื่อผลงานไม่ดี อะไรหลายๆอย่างก็จะตามมา ยิ่งเมื่อคุณเป็นทีมใหญ่มีส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ย่อมต้องโดนวิจารณ์ และมันนำมาซึ่งความกดดันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

         และเมื่อแพ้หลายต่อหลายครั้งเราจะได้เห็นคำพูดแก้ตัวต่างๆอย่างเช่น โปรแกรมแน่น นักเตะบาดเจ็บ ผู้ตัดสินผิดพลาด หรืออะไรก็ตามแต่

         ทว่าหลายครั้งเราก็ได้เห็นข้อแก้ตัวแปลกๆที่บางครั้งไม่ได้เกี่ยวกับผลงานในสนามกันเลย

         ลองไปดูว่ามีข้อแก้ตัวไหนกันบ้างที่ได้ฟังแล้วอาจจะทำให้รู้สึก "ประหลาด" ว่านี่คือต้นเหตุของผลงานที่ตกต่ำจริงๆหรือ?

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

        

         ย้อนกลับเมื่อฤดูกาล 2017/18 ในฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 4 ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งทาง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ได้ใช้ทีมสำรองยกทีมแต่อย่างใด 

         ผู้เล่นตัวหลักหลายคน เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, อิลตคาย กุนโดกัน, ยาย่า ตูเร่ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ออกสตาร์ทตัวจริงในเกมดังกล่าว ในขณะที่ตอนนั้นทีม "หมาป่า" เป็นเพียงแค่ทีมในแชมเปี้ยนชิพเท่านั้น

         แต่ทว่า "เรือใบ" กลับต้องออกแรงถึงการดวลจุดโทษกว่าจะเอาชนะไปได้ โดยตลอดเกม 120 นาทีไม่สามารถเจาะตาข่ายได้ แม้จะครองบอลถึง 73% และมีโอกาสทำประตูมากถึง 29 หน แต่กลับวิงเข้ากรอบเพียง 6 ครั้งเท่านั้น

         เป็ป กวาร์ดิโอล่า พูดถึงผลงานของทีมในวันนั้นว่า "มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ลูกบอลเป็นอะไรที่รับไม่ได้จริงๆกับการแข่งขันระดับสูงแบบนี้"

         "มันเบาเกินไป มันเคลื่อนที่ไปทั่วเลย มันไม่ใช่บอลที่ดี มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำประตูด้วยลูกบอลแบบนั้นและผมพูดได้เลยว่าเพราะเราชนะ ผมไม่ได้แก้ตัว"

         "นักเตะทุกคนของผมพูดกันว่า 'นั่นมันอะไรกันวะ?' ผมขอโทษนะคาราบาว คัพไม่ใช้บอลที่ดีกับการแข่งขันที่จริงจัง มันคือการตลาด คือเงิน โอเคนะ แต่มันยอมรับไมาได้ - มันไม่มีน้ำหนักเลย"

โชเซ่ มูรินโญ่


         ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014/15 ที่ทีมน้องใหม่อย่าง ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี ซึ่งตอนนั้นอยู่ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ (อีกครั้ง)

         เกมที่ลอฟตัส โร้ด ทางฝั่ง "สิงห์บลูส์" ต้องรอถึงนาทีที่ 88 กว่าจะได้ประตูชัยจาก เชส ฟาเบรกาส ซึ่งทางเทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสผู้มีฝีกปากไม่ธรรมดาอยู่แล้วจิกกัดทางเจ้าหน้าที่ดูแลไฟสนามรวมถึงแฟนบอลที่แทบไม่ส่งเสียงเชียร์กันเลย

         "ผมคิดว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องไฟคงอยู่ในอารมณ์เดียวกับคนในสนามเพราะทุกคนกำลังหลับอยู่" มูรินโญ่ กล่าวหลังจบเกม

         "เขาใช้เวลา 20 นาทีกว่าจะเข้าใจว่ามันมืด แต่ผมใช้เวลา 30 นาทีกว่าจะเข้าใจว่าสนามยังมีคนดูอยู่นะ เมื่อเรายิงได้นั่นแหละถึงรู้ว่าสนามเต็มไปด้วยคน"

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน


ย้อนกลับไปในปี 1996 เกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งเกมนั้นน่าจะเป็นเกมครึ่งแรกที่แย่ที่สุดอันดับต้นๆของสโมสรในการเล่นพรีเมียร์ลีกเลย

"ปีศาจแดง" ที่สวมชุดสีเทาโดนกระหน่ำสามประตูตั้งแต่ครึ่งแรกจาก เคนเน็ธ มูกู, นีล ชิปเพอร์ลี่ย์ และ แม็ทธิว เลอ ทิสซิเยร์ เดือดร้อนถึง "ป๋า" ที่โมโหอย่างหนักและครึ่งหลังทีมมาเปลี่ยนเป็นใช้ชุดน้ำเงิน-ขาวแทนและมาตีไข่แตกได้จาก ไรอัน กิ๊กส์ ช่วงท้าย แพ้ไปด้วยสกอร์ 1-3

เซอร์ อเล็กซ์ พูดหลังจบเกมว่าเพราะเป็นชุดแข่ง "สีเทา" ที่ทำให้ทีมมองไม่เห็นลูกบอล?

"ผู้เล่นไม่ชอบแถบสีเทา พวกเขาพบว่ามันยากที่จะส่งบอลให้กัน เราต้องเปลี่ยนแปลงลายชุด"

อลัน พาร์ดิว


         เมื่อครั้งที่ อลัน พาร์ดิว คุมทีม นิวคาสเซิ่ล มีคิวบุกเยือน เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผลจบลงด้วยคาวมพ่ายแพ้ 0-2 ซึ่งเจ้าตัวโทษน็อตติ้ง ฮิลล์ คาร์นิวัล ว่าคือต้นเหตุที่ทีมให้ทีมแพ้

         "วันนี้ไม่ค่อยยุติธรรมกับเราเท่าไรนัก เราไม่อาจจะขอย้ายเกมไปเล่นวันอาทิตย์ได้เนื่องจาก น็อตติ้ง ฮิลล์ คาร์นิวัล"

         นอกจากนี้ทาง พาร์ดิว ยังเคยบ่นความยาวของหญ้าในเกมอุ่นเครื่องกับ เรนเจอร์ส รวมถึงบ่นเกี่ยวกับตลาดซื้อ-ขายที่เงียบๆเพราะว่าการรายงานข่าวการแข่งขันกีฬาโอลืมปิกที่ทำให้เสียสมาธิไป

โมฮาเหม็ด อัล ฟาเย็ด


         อดีตเจ้าของสโมสรฟูแล่มที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนซี้ของ ไมเคิ่ล แจ็คสัน โดยเจ้าของห้างแฮร์ร็อตถึงขนาดสร้างรูปปั้นของราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับเพื่อเป็นเกียรติไว้ที่หน้าสนามคราเว่น ค็อทเทจรังเหย้าของทีมเลย

         ถือเป็นการแสดงออกถึงเพื่อนรักที่น่ายกย่องทีเดียว จะมีสักกี่คนที่ถึงขนาดจ้างช่างมาทำรูปปั้นให้กับเพื่อนที่เสียชีวิตไป

         แต่ทว่าเมื่อทีมผลงานตกต่ำลง ตกต่ำลงจนกระทั่งตกชั้นไป โมฮาเหม็ด อัล ฟาเย็ด กลับหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นข้อแก้ตัวซะอย่างนั้น

         "รูปปั้นนี้เป็นเครื่องรางและเอาโชคออกไปจากสนามและตอนนี้นั่นคือสิ่งที่เราต้องจ่าย"

แบร์รี่ ฟราย


         เล่นเพื่อเสียงหัวเราพเสมอ เราไม่ได้มองว่า แบร์รี่ ฟราย เป็นคนเชื่อเรื่องของโชคหรือเชื่อในคำสาปของชาวอียิปต์ ซึ่งสืบเชื้อสายของเซนต์ แอนดรูว์

         แต่หลังความพ่ายแพ้ของทีมเมื่อปี 1994 ผู้จัดการทีมผู้ลึกลับตัดสินใจรดหญ้าในสนามด้วยปัสสวะของตัวเอง! เพื่อเป็นเคล็ดทำให้ทีมกลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้ง

         "เราไม่ชนะใครมาสามเดือน... เราสิ้นหวัง ดังนั้นผมฉี่ทั้ง 4 มุมของสนาม ถือมันไว้ในมือในขณะที่ผมเดินเตาะแตะไปทั่วสนาม"

         "มันได้ผลรึเปล่า? เราเริ่มที่จะเก็บชัยชนะและผมคิดว่ามันได้ผล จากนั้นพวกแม่งก็ไล่ผมออก มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น"

วลาดิสลาฟ วาสชุค


         ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน ในกลุ่มเอช สเปน เจอกับ ยูเครน ซึ่งผลจบลงที่ทัพ "กระทิงดุ" ไล่ถล่มขาดลอย 4-0 จากประตูของ ชาบี อลอนโซ่, ดาบิด บีย่า (2 ลูก) และ เฟร์นานโด ตอร์เรส

         หลังจบเกมดังกล่าวทาง วลาดิสลาฟ วาสชุค มีข้อแก้ตัวที่น่าทึ่งจากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ โดยเจ้าตัวโทษสัตว์ป่ารอบๆโรงแรมที่พักที่ส่งเสียงอยู่ตลอดทำให้ต้องตื่นตั้งแต่กลางดึกก่อนเกม

         "เพราะเสียงร้องของกบ ทำให้เราแทบไม่ได้หลับได้นอนกันเลย" วาสชุค กล่าว "เราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าคงต้องเอากิ่งไม้ออกไปล่าสุดกันแล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด