ล่าสุดคือ ฌอง-ริซแนร์ แบลล์การ์ด กองกลางพลังไดนาโมสังกัด สตราส์บูร์ก ที่เริ่มมีข่าวว่าสโมสรนอกฝรั่งเศสให้ความสนใจและติดตามผลงานอย่างใกล้ชิด ทั้ง คริสตัล พาเลซ และ กาลาตาซาราย
แน่นอนว่ารายงานที่ออกมาคงไม่เกิดขึ้นหากฟอร์มการเล่นของกองกลางวัย 23 ปีไม่โดดเด่นชัดเจนเพียงนั้น โดยเฉพาะซีซั่นนี้ที่พลาดช่วยงาน สตราส์บูร์ก ไปเพียง 2 เกม (ลงเล่น 37 นัดจากทุกรายการทำได้ 2 ประตู 3 แอสซิสต์)
พัฒนาการที่โดดเด่นในฤดูกาล 2021/22 คือไฮไลต์สำคัญของ แบลล์การ์ด เรื่องดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่ถูกมองว่าคิดไปเองหรือมาจากการมโน เพราะมันมีการยืนยันผ่าน ฌูเลียง สเตฟ็อง นายใหญ่สตราส์บูร์ก
"เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่พัฒนาขึ้นมาอย่างแม้จริงในฤดูกาลนี้" โค้ชหนุ่มวัย 41 ปีกล่าว
"ผมคิดว่าเขาได้รับความมั่นใจในตัวเอง เขาเป็นนักเตะมีความสามารถรอบตัว เขาเล่นได้ทั้งกองกลางตัวรับ ตำแหน่งหมายเลข 8 ทางขวาหรือทางซ้าย เขามีเทคนิคที่ดี, ขับเคลื่อนได้ดี และสามารถพาบอลผ่านนักเตะหลายคนได้"
สิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีคือการใช้งานผ่านการลงสนามฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะแผนการเล่นยืนพื้น 3-5-2 ของทีม (มีบ้างที่ปรับไปเล่นระบบแนวรับ 4 คนตอนกองหลังตัวกลางไม่พร้อมลงสนาม) ที่บ่อยครั้งนักเตะวิงแบ็กหายไป (ทั้งอาการบาดเจ็บและติดโทษแบน) แต่ทาง สเตฟ็อง ไม่มีปัญหาเพราะ แบลล์การ์ด พร้อมเสียบแทน
หรือตอนที่แดนกลางของทีมร่อยหรอทางเลือกมีไม่มากแข้งวัย 23 ปีพร้อมทำหน้าที่ในจุดที่ขาดหายไป โดยเฉพาะตอน อาเดรียง โตมาส์ซง แกนหลักเจอโรคเดี้ยงเล่นงาน
หากคำพูดของกุนซือยังมีน้ำหนักไม่มากพอ ลองมาฟังความเห็นจาก เชอร์ซีโน่ เนียมซี่ กองหลังเพื่อนร่วมทีมกล่าวถึงมิดฟิลด์รายนี้กันดูสักหน่อย
"เขาเป็นนักเตะที่แข็งแกร่ง ทั้งการป้องกันและพาบอลไปข้างหน้า" แนวรับวัย 25 ปีกล่าวถึง แบลล์การ์ด ซึ่งมี เอ็นโกโล ก็องเต้ เป็นขวัญใจ
"เขาไม่เกรงกลัวในการพาบอลขึ้นไปข้างหน้า เขามีเทคนิคที่ดี ดุดัน เขามีคุณภาพเยอะอย่างมากจริงๆ
"เขาเป็นนักเตะคนสำคัญจริงๆ เพราเขาครอบคลุมพื้นที่ในสนามเยอะมาก เขาช่วยให้พวกเราแย่งบอลกลับมาและยังรวมไปถึงการดีดตัวไปข้างหน้าเพื่อให้ทีมเล่นในพื้นที่สูงขึ้นของสนาม มันเป็นเรื่องสำคัญที่มีเขาในทีม"
จากเด็กหนุ่มที่พลาดหวังโดน เลอ ม็องส์ ปล่อยตัวตอนอายุ 15 ปี แต่ยังมีสโมสรอย่าง ล็องส์ หยิบยื่นโอกาสและมอบสัญญาอาชีพให้
หลังจากนั้น ด้วยวัยย่าง 18 ปี แบลล์การ์ด มีโอกาสลงเล่นในเวที ลีก เดอซ์ ซึ่งเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะแสดงผลงาน ก่อนจะตอบแทนทีมด้วยการทำประตูในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นที่ดวลกับ ดิฌง (แม้ว่าท้ายที่สุดจะแพ้หลังจากผ่าน 2 นัด)
ฟอร์มการเล่นในซีซั่น 2018/19 เข้าตา สตราส์บูร์ก ที่ยอมควักเงินจ่าย 2 ล้านยูโรดึงมาร่วมงานเมื่อหน้าร้อนปี 2019 ก่อนจะกลายมาเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจากผลงานและพัฒนาการที่เกิดขึ้น
"เขาเป็นคนที่แย่งบอลกลับมาได้ดีอย่างมาก แต่เขายังคงต้องพัฒนาในพื้นที่สุดท้าย เขาต้องมีความเด็ดขาดมากกว่านี้" สเตฟ็อง กล่าวเพิ่มเติมถึง แบลล์การ์ด
"แต่เขามีคุณภาพอย่างมากจริงๆ เขายังเป็นคนที่น่ารักในแง่ของพฤติกรรมส่วนตัว เขาเป็นคนเงียบๆ แต่เต็มไปด้วยแรงผลักดันที่มีอยู่เสมอ รวมไปถึงการมีส่วนร่วมและการทำงานอย่างหนัก"
มันอาจจะเป็นบุคลิกที่สวนทางยามลงสนาม เพราะ แบลล์การ์ด กลายเป็นคนละคนกับตอนที่อยู่ห้องแต่งตัว ซึ่งตัวตนยามสวมชุดแข่งลงโม่แข้งบนผืนหญ้าได้เข้าตาหลายทีมของยุโรปในเวลานี้
เส้นทางในอนาคตยังยากที่จะรู้คำตอบ ด้วยสัญญาที่มีกับ สตราส์บูร์ก ไปจนถึงปี 2024 ทำให้สโมสรจากทางตะวันออกเฉียงเหนือฝรั่งเศสยังคงวางใจได้อยู่ว่ามีแนวโน้มที่นักเตะจะเล่นให้กับทีมอย่างน้อยอีก 1 ซีซั่น
หลังจากนั้นอยู่ที่ตัว แบลล์การ์ด แล้วว่าจะดำเนินการกับเส้นทางอาชีพของตนเองอย่างไร พร้อมที่จะก้าวไปยังระดับสูงกว่านี้หรือไม่ ซึ่งมันคือการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในเร็วๆ นี้
