"จากวันที่ 16 พฤษภาคม ผมคือผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเต็มตัวแล้ว มีหลายๆสิ่งที่ต้องเตรียมให้เรียบร้อยในซีซั่นใหม่เช่นการเตรียมทีมงานและนักเตะสำหรับฤดูกาลหน้า ผมต้องการให้มันเสร็จเรียบร้อยด้วยความพร้อมอย่างดีที่สุด"
"เรื่องความคิดเห็นต่างๆจากอดีตนักเตะของสโมสรมันก็มีผลนะ แต่จะไม่กระทบไปถึงห้องแต่งตัวอย่างแน่นอน บางทีคำวิพากษ์วิจารณ์อาจจะหนักหน่วงเพราะพรีเมียร์ลีกมันเป็นลีกที่ใหญ่กว่ามากๆ แต่โชคดีที่ผมมีประสบการณ์มากมายที่จะรับมือเรื่องเหล่านี้ได้"
"ผมได้รับข้อความ 'ยินดีต้อนรับสู่สโมสร' จากนักเตะแมนยูไนเต็ดบางส่วนมาทางWhatsappแล้วเรียบร้อย ตัวผมเองมีทางเลือกที่จะไปทำงานที่สโมสรอื่นที่ไม่ใช่แมนยูไนเต็ด ซึ่งมีรากฐานที่ดีกว่า แต่ผมก็เลือกแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด"
"มีหลายๆสิ่งที่ต้องแก้ไขที่นั่น และมันเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก สโมสรและผมเคมีของความคิดเห็นตรงกันในเรื่องที่ว่าผมจะจัดการยังไงในเรื่องนี้"
"ส่วนโรนัลโด้นั้นผู้เล่นระดับยักษ์ใหญ่จริงๆ เพราะทุกๆสิ่งที่เขาแสดงให้เราเห็นมานานนั้นมาจากความมุ่งมั่นทะเยอทะยานของเขาล้วนๆ ผมอยากเก็บเขาไว้ให้อยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแน่นอนอยู่แล้ว เขาสำคัญกับสโมสรแห่งนี้มากๆและสามารถสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นได้"
เรื่องมุมมองของผู้จัดการใหม่ต่อ "พรี่โด้" ก็น่าจะชัดเจนยิ่งกว่าอะไร และข่าวของ "เอริค เทน ฮาก" ก็มีอัพเดทกันเรื่อยๆไม่ขาดอยู่แล้ว สไตล์การขายข่าวตามปกติสำหรับสโมสรที่ข่าวขายได้ และตกเป็นเป้าอยู่แล้วอย่างแมนยูไนเต็ด ประเด็นต่างๆมันหยิบมาเล่นได้ทุกหัวเรื่องแหละครับ
แต่สำหรับข่าวต่างๆของETHที่ออกมาทั้หลาย แฟนผีจงเชื่อเถอะว่า แค่การที่สโมสร 'เลือกถูกคน' ก็ถือว่าหันหน้าก้าวเท้าไปยังทิศทางที่ถูกต้องแล้ว
เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเอง และมันจะไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่าperformanceและผลการแข่งขันของปีนี้อีกแล้ว
หลายๆปัจจัยมันชี้ถึงความเหมาะสมของเอริคในการมาคุมที่นี่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเฮี้ยบในการจัดการกับทีม และเด็กที่ออกนอกลู่นอกทาง เอริคพร้อมเฉือนและตัดหางจากทีมอย่างละมุนละม่อม(เหรอ)อย่างไม่ลังเล
แต่ขณะเดียวกัน นักเตะที่ใจสู้และมีระเบียบวินัยที่ดี ก็จะรักเขามากเช่นกัน สังเกตจากชุดนักเตะอาแจ็กซ์ที่แสดงออกจากท่าทางและปฏิสัมพันธ์กับเขาก็ได้ นั่นแหละคำตอบ
หลายคนคงจะรู้ข่าวจากหลายๆแหล่งที่อัพเดทกันแล้วว่าเขาเลือกที่จะไม่ไปปาร์ตี้ฉลองแชมป์กับทีมงาน แต่เลือกที่เริ่มสตาร์ทงานกับแมนยูไนเต็ดอย่างรวดเร็วมากๆ สิ่งนี้คงทำให้เห็นความตั้งใจ กับความทุ่มเทในการอุทิศตัวเองเพื่อทำงานเป็นหลัก
และสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกให้กับแฟนผีได้ทราบกันก็คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เอริค เทน ฮาก ทำมาในชีวิตการเป็นผู้จัดการทีม เขาจะค่อนข้างเน้นต่อสิ่งๆหนึ่งมากๆ และมันคือ "ทุกสิ่ง" ในการทำงานของเทน ฮาก ที่เขายึดมั่นเรื่องนี้มาตลอด
"ทีม" คือpriorityสูงสุดในการทำงานของเทน ฮาก และเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้สตาฟฟ์และนักเตะในทีม ยึดถือสิ่งนี้เป็นหลัก
จะไม่มีการทำเพื่อสปอตไลท์หรือแสงของตัวเอง ทุกสิ่งทำเพื่อส่วนรวม ลองดูคลิปข้างล่างนี้จะเห็นชัดเจนว่า เขาต้องการให้นักเตะทุกคนทำเพื่อทีมเป็นสรณะ และยึดถือความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ต้องเล่นเกมในสนามให้เป็นร่างเดียวกันให้ได้ นักเตะคนไหนที่กระด้างกระเดื่องหรือทำตัวมีปัญหา เทน ฮากก็ตัดออกจากทีมได้เช่นกัน
ต่อให้อายุยังน้อย และมีpotentialจะไปได้ไกล แต่ถ้าทัศนคติไม่ดีก็ถูกเทน ฮาก "จัด" แน่ๆ
อย่างเช่นเคสของ "Noa Lang" ในคลิปนี้ ที่สุดท้ายแล้วเมื่อไม่ทำตามปรัชญาของทีม เขาถูกปล่อยตัวออกไปยืมกับ Club Brugge ก่อนที่สุดท้ายจะถูกขายขาดออกไป ทั้งๆที่ซีซั่นก่อนออก สถิติการเล่นของ โนอา ก็ไม่ได้ย่ำแย่ ลง 25 เกมกับอาแจ็กซ์ ยิงไป 10 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์
แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้เทน ฮาก เก็บนักเตะเอาไว้ในทีมได้
แม้ว่าอาจจะไม่ได้ทะเลาะอะไรกันรุนแรงเหมือนอย่างที่สื่อต่างๆตีเอาไว้ให้มันดูดราม่า ในความเป็นจริงก็คือ ถ้านักเตะคนไหนที่ไม่ใช่ เทน ฮากก็เคลียร์ออกจากทีม(จริงๆ)เหมือนกัน
เมื่อยึดมั่นในทีม เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะตามมาเอง บอกเลยว่าคนนี้เชียร์ให้อยู่ทำงานไประยะยาว ระเบียบวินัย การเก็บรายละเอียด ชุดความคิดในการทำทีม รวมถึง Squad Management คนนี้ของจริงแน่นอน
ให้ "เวลา" กับเทน ฮากเยอะๆ ปีแรกๆถ้ามันจะไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังเลยทันทีทันใด เริ่มต้นมาอาจจะสะดุดรัวๆเลย ก็อดทนรอกับมันนิด จะยกตัวอย่างง่ายๆว่า เขาคือผู้จัดการทีมที่เพิ่งมาจากเอเรดิวิซี่ แน่นอนว่าประสบการณ์ในการรับมือ และperceptionต่อฟุตบอลอังกฤษ รวมถึงสไตล์การเล่น จุดอ่อนจุดแข็งของทีมต่างๆ ทุกอย่างต้องใช้ประสบการณ์ทั้งสิ้น
เทน ฮาก จะต้องใช้เวลาในการทดลองอะไรหลายๆอย่าง และเก็บชั่วโมงบินในการดูเกม และวิเคราะห์คู่แข่งแต่ละทีมอีกเยอะ โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่จะต้องเจอกันทุกซีซั่นอยู่แล้ว
นึกภาพง่ายๆว่า ถ้าอยากจะจัดการกับทีมที่สร้างทีมมาหลายๆปีอย่างลิเวอร์พูล ซิตี้ ไบรท์ตัน สเปอร์ส พวกนี้ ถ้าเป็นแฟนบอลอย่างเราที่ตามเชียร์ทีมมาตลอด เราจะรู้ทันทีว่า
เวลาเจอลิเวอร์พูล เราจะโดนอะไร
เวลาเจอไบรท์ตัน เขาจะเล่นแบบไหน
เวลาเจอกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ จะเล่นแทคติกรับมือยังไง
ทุกอย่างเทนฮากต้องใช้เวลาอยู่กับหน้างานตรงนี้อย่างน้อยๆก็หนึ่งซีซั่นอย่างต่ำ เพราะงั้นไอ้เรื่องที่มาถึงแล้วจะเอาแชมป์พรีเมียร์ลีกเลยคงยาก
ต้องใช้ "เวลา" ค่อนข้างมาก และก็สอดคล้องกับสิ่งที่เขียนก่อนหน้านี้นั่นแหละครับว่า เราต้องให้โอกาสเทน ฮาก ในการพัฒนาฝีมือและโปรไฟล์ของตัวเองไปพร้อมๆกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วย
ทีมเราต้องโตไปพร้อมๆกัน ทั้งผู้เล่น ระบบการเล่น รวมถึงผู้จัดการทีมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชชั้นแนวหน้าอย่างแท้จริงจากการคุมทีมท็อปๆเช่นนี้
"ทีม" คือเป้าหมายสูงสุด และ "เวลา" คือสิ่งที่พวกเราต้องการ
It's TEN Hag's TIME for this TEAM, and he needs TIME for this TEAM too.
-ศาลาผี-
