:::     :::

เมื่อเพื่อนร่วมทีมซัดกันเอง

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,052
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลเป็นเกมที่ต้องเล่นกันเป็นทีม ดังนั้นความสามัคคีกันของนักเตะในทีมคือกุญแจที่จะนำพาสโมสรไปสู่ความสำเร็จได้

         แต่เมื่อแต่ละคนมาจากต่างที่ต่างถิ่น แน่นอนว่าความขัดแย้งย่อมเกิดขึ้นได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในสโมสรฟุตบอลที่นักผู้คนจากหลายเชื้อชาติ หลายครั้งหลายหนเราได้เห็นนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในทีมเดียวกันแต่กลับมีปัญหาบางหมางกันเองอย่างการปะทะกันในสนามซ้อมหรือแม้แต่ในสนามจริงก็ตาม

         เจมี่ วาร์ดี้ อ้างว่า เวย์น รูนี่ย์ "พูดไร้สาระ" เกี่ยวกับการขอให้ รีเบกาห์ ภรรยาของเขาสงบลงบ้างในระหว่างแข่งขันยูโร 2016 ซึ่ง คอลีน ผู้เป็นภรรยาของหัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่งอยู่ติดกัน

         เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาลกัน ทั้งที่มันไม่น่าจะมีอะไรรุนแรงเลย ด้วยซ้ำไป

         ไปดูความบาดหมางของเพื่อนร่วมทีมที่โด่งดังจนกลายเป็นข่าวทั่วโลกมาแล้ว

ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ กับ เคร็ก เบลลามี่


         ย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 ในเกมใหญ่ที่ ลิเวอร์พูล จะเจอกับ บาร์เซโลน่า แฟนบอลน่าจะจำกันได้ในจังหวะฉลองประตูของ เคร็ก เบลลามี่ กับท่าโชว์วงสวิงอันโด่งดัง

         ก่อนหน้าเกมนั้น เบลลาลี่ เรียก ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ว่า "จิงก์" หรือพวกผมทองและบอกให้เขารองเพลง แน่นอนว่าแข้งทีมชาตินอร์เวย์ปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง

         แต่ว่า เบลลามี่ ที่อยู่ในอาการเมากลับเล่นหนักด้วยการเอาไม้กอล์ฟไปหวดใส่ รีเซ่ ซึ่งเจ้าตัวออกมายอมรับในภายหลังว่ามันเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายจริง

         รีเซ่ เผยว่าสิ่งที่ เบลลามี่ ทำนั้นอาจจะทำให้ตัวเองถึงขั้นแขวนสตั๊ดได้เลย และสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เบลลามี่ กลับเอาเหตุการณ์ดังกล่าวไปเป็นท่าฉลองประตูซะอย่างนั้น

         "ผมคิดว่าแม่งเป็นอะไรที่โคตรไม่ให้ความเคารพกันเลย" รีเซ่ กล่าวถึงการฉลองประตูของ เบลลามี่

มิค แม็คคาร์ธี่ย์ กับ รอย คีน


         อีกหนึ่งเหตุการณ์อันโด่งดังของโลกลูกหนังก็คือการที่ มิค แม็คคาร์ธี่ย์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมชาติไอร์แลนด์ ส่ง รอย คีน กลับบ้านในทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลก 2002

         อย่างที่รู้กันว่ากัปตันทีมจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นคนที่เอาจริงเอาจังอย่างมากยามอยู่ในสนาม ถึงขนาดที่ว่าก่อนเดินทางไปทัวร์นาเม้นต์ที่ ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เจ้าตัวบอกกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลยว่าจะเอาแชมป์โลกให้ได้

         แต่เมื่อเดินทางถึงแคมป์เก็บตัวที่ไซปันกลับเจอกับความเหยาะแหยะของเพื่อนร่วมทีม ซึ่งด้วยความเป็น รอย คีน ก็พร้อมที่จะใส่ทุกคนไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว 

         สุดท้ายจบลงด้วยการมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับ แม็คคาร์ธี่ย์ จนถึงขั้นโดนส่งตัวกลับบ้าน แน่นอนว่าหลังจากนั้น คีน ก็ด่าใส่ชนิดที่ยับจนหมอไม่รับเย็บกันเลย

ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช


         อดีตเพื่อนร่วมทีม อาแจ็กซ์ ในช่วงต้นยุค 2000 หนึ่งคือ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท แข้งลูกหม้อของสโมสรและ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ผู้ซึ่งพกความมั่นใจมาอย่างเต็มเปี่ยม

        แน่นอนว่าด้วยฝีเท้าของทั้งคู่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา และทั่งคู่ต่างก็คิดว่าตัวเองคือนักเตะที่ดีที่สุดในทีมเหมือนกัน

         "เขามาที่สโมสรและเชื่อว่าตัวเองคือผู้เล่นที่ดีที่สุดในทีม อาแจ็กซ์ มันคือสองอีโก้ที่อยู่ในที่เดียวกับ" ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กล่าว

         และความเลวร้ายเกิดขึ้นเมื่อทีมชาติฮอลแลนด์ลงอุ่นเครื่องกับ สวีเดน ซึ่งทาง อิบราฮิโมวิช อัดใส่ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางแข้งดัตช์มองว่าเป็นการจงใจ แต่ อิบราฮิโมวิช ก็ตอบโต้กลับเรื่องยี้

         "ฉันไม่ชอบนาย ฉัยไม่ชอบนายในฐานะกัปตันทีม ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้นายเจ็บซึ่งนายก็รู้ดี ถ้านายยังกล่าวหาฉันอีก ฉันจะหักขานายทั้งสองข้างและครั้งนี้นี่แหละมันจะเป็นการจงใจ"

ลี โบว์เยอร์ กับ คีรอน ดายเออร์


         หนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดในโลกลูกหนังกับนักเตะฟุตบอลที่ซัดกันเอง และมันเกิดในเกมการแข่งขันจริงซะด้วย

         ย้อนกลับไปในปี 2005 เกมระหว้่าง นิวคาสเซิ่ล กับ แอสตัน วิลล่า ทาง ลี โบว์เยอร์ กับ คีรอน ดายเออร์ ที่เป็นเพื่อนร่วมทีมกันแต่กลับสาวหมัดใส่กันเองในสนามชนิดที่กลายเป็นว่านักเตะคู่แข่งต้องเข้ามาช่วยกันห้ามเลย

         ตามรายงานข่าวเผยว่า โบว์เยอร์ บ่นว่า ดายเออร์ ไม่ยอมส่งบอลให้ แต่ ดายเออร์ กลับอบว่าที่ไม่จ่ายบอลให้เพราะไม่ได้ให้ค่ากับเขา นั่นทำให้เจ้าตัวฟิวส์ขาด

         สุดท้ายผู้ตัดสินต้องชูใบแดงไล่ทั้งคู่ออกจากสนามไปสงบสติอารมณ์นอกสนามซะ

เอล ฮัดจิ ดิยุฟ กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์


         หลังจากโด่งดังมาจกฟุตบอลโลก 2002 เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ก็ถูก ลิเวอร์พูล ดึงตัวมาร่วมทีมพร้อมความหวังว่าจะได้เห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมเหมือนในเวิลด์ คัพ

         แต่ทว่าทุกอย่างกลับตรงกันข้าม แถมนอกจากผลงานจะไม่ดีแล้วเจ้าตัวยังมีนิสัยระรานคนอื่นไปทั่ว และที่สำคัญ "ปาก" ไม่ดีโจมตีคนอื่นเสมอ แม้แต่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่อยู่เฉยๆยังเคยโดนด่าเป็นว่าให้เป็นตัวการทำให้ทีมชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2013/14

         กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ทาง ดิยุฟ ด่าว่า "ความแตกต่างระหว่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ กับผมก็คือผมเป็นผู้เล่นระดับโลกส่วนเขามันก็แค่ขยะ"

         แน่นอนว่า คาร์ราเกอร์ ต้องตอบโต้อยู่แล้วและเอาคืนอย่างเจ็บแสบว่า "ความแตกต่างมี่สำคัญอีกอย่างก็คือเขาทำประตูให้กับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีกได้น้อยกว่าฉัน! (ไม่นับทำเข้าประตูตัวเอง!!)"

         สำหรับ ดิยุฟ ยิงได้แค่ 3 ลูกในพรีเมียร์ลีกจากการลงเล่น 55 เกมให้ "หงส์แดง" 

ไมเคิ่ล โอเว่น กับ อลัน เชียเรอร์


         อาจจะไม่ได้ฟาดปากกันโดยตรง แต่ก็มีความเกี่ยวโยงกันอยู่ตรงที่ทั้งคู่เคยทำงานร่วมกับที่ นิวคาสเซิ่ล ทั้งในฐานะเพื่อนร่วมทีมและเจ้านายกับลูกน้อง รวมถึงในทีมชาติอังกฤษ

         ไมเคิ่ล โอเว่น ที่ล้มเหลวกับการแย่งตำแหน่งในทีม เรอัล มาดริด กลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่ยอมทุ่มเงินระดับ 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ให้เพื่อให้นักเตะร่วมทีม

         แต่ช่วงเวลากับ "สาลิกาดง" กลับย่ำแย่ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะปัญหาบาดเจ็บที่ทำให้เจ้าตัวแทบไม่ได้ลงเล่นเลยในช่วง 2 ปีแรกกับสโมสร กระทั่งปี 2008/09 ที่ทีมต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น อลัน เชียเรอร์ ถูกดึงมากอบกู้วิกฤติในช่วง 2 เดือนสุดท้ายไม่อาจช่วยทีมได้ ในขณะที่ โอเว่น ยิงได้ 8 ลูกจาก 28 เกมในลีก และเมื่อทีมตกชั้นเจ้าตัวก็ย้ายหนีไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

         โอเว่น เคยเผยในอัตชีวประวัติของตัวเองว่าแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล เข้าใจผิดอย่างมากที่คิดว่าตัวเองเป็นสโมสรใหญ่ สร้างความไม่พอใจอย่างมากอย่างมาก

         เชียเรอร์ โพสต์คลิปของโอเว่นที่บอกว่า "แทบรอไม่ไหวที่จะเลิกเล่นในช่วง 6-7 ปีสุดท้าย พร้อมกับคอมเม้นต์ว่า "ใช่, ไมเคิ่ล เราก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันในขณะที่นายรับเงิน 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์"

อุสมัน ดาโบ กับ โจอี้ บาร์ตัน


         ขึ้นชื่อวา โจอี้ บาร์ตัน ไม่เคยมีช่วงเวลาให้ว่างเว้นจากหน้าสื่อนาน แต่เหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดคงหนีไม่พอการอัดเพื่อนร่วมทีมอย่าง อุสมัน ดาโบ สมัยอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

        ในระหว่างการซ้อมของทีมเมื่อปี 2007 มีเหตุการณ์ทะเลาะกันเกิดขึ้นซึ่งคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุเผยว่า บาร์ตัน ต่อยใส่ ดาโบ ซ้ำแล้วซ้ำอีกในขณะที่กองอยู่บนพื้นแล้ว นั่นทำให้ ดาโบ ได้รับบาดเจ็บที่ตาอย่างรุนแรง

         เรื่องนี้ใหญ่โตขึ้นขนาดเป็นคดีความและทาง บาร์ตัน ก็ยอมรับข้อหาทำร้ายร่างกายพร้อมกับรับโทษจำคุก 4 เดือนและโดนแบนอีก 2 ปี

         ดาโบ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ชาย เป็นแบดบอย แต่เขาก็แค่คนขี้ขลาด"


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด