:::     :::

ต้นกำเนิดบัสบี้เบ๊บส์ ตอนที่ 1

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ถือเป็นวาระครบรอบ 60 ปี "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ที่คร่านักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึง 8 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่สโมสร แฟนบอล และนักข่าว รวมทั้งหมด 23 คน

เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 1958 เมื่อเครื่องบินสายการบิน บริติช ยูโรเปี้ยน แอร์เวย์ส เที่ยวบิน 609 ซึ่งเป็นเครื่องที่นักเตะปีศาจแดงชุดที่ได้รับการขนามนามว่า "บัสบีเบ๊บส์" โดยสาร พุ่งชนกับรันเวย์ของสนามบินมิวนิค-รีม ในเมืองมิวนิค ของเยอรมันตะวันตก 

ทุกคนรับรู้มันเป็นวันแห่งความทรงจำอันเจ็บปวดที่สุดของสโมสร แต่น้อยคนนักที่จะได้รับรู้ถึงกำเนิดของ "บัสบี้ เบ๊บส์"

เดส กรีน อดีตนักเตะในวัยปาเข้าไป 82 ไม่เคยหลงลืมเลยว่าครั้งหนึ่งได้เจอกัปตันทีมคู่แข่งวัย 17 สังหารจุดโทษอย่างเยือกเย็นต่อหน้าคนดูหลักสามพัน

"มาร์ค โจนส์ สืบเท้าเข้ามา จับบอลกระเด้งพื้นอยู่ 2-3 ครั้ง วางลงโดยไม่ได้เดินถอยหลัง แล้วก็ซัดเต็มข้อเข้าตุงตาข่าย"

"มันเหมือนเกมผู้ใหญ่ตบเด็กอย่างไรอย่างนั้น พวกเขาเร็วกว่า แกร่งกว่า เหนือชั้นกว่าพวกเรามากมาย"

สมาชิกส่วนหนึ่งจากยอดทีมบัสบี้ เบ๊บส์ สร้างชื่อกระฉ่อนที่สนามเล็กๆ ในเมืองแค มาวร์ ประเทศเวลส์ ตั้งแต่ 7 ปีก่อนเกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกเมื่อ 6 ก.พ. 1958

ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวทางตอนใต้ของเวลส์ได้แปรสภาพเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต "โค-อ็อป" (คล้ายๆ สหกรณ์บ้านเรา) หากย้อนเวลาไปเมื่อ 15 พ.ค. 1951 ที่นั่นคือสนามบอลชื้นๆ เปี้ยนดินโคลน

เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ ผู้ล่วงลับ ไม่ใคร่แยแสสักเท่าไรในสมญานาม "บัสบี้ เบ๊บส์" ด้วยความหวั่งเกรงลูกทีมวัยละอ่อนอาจหลงลืมตน ว่าแล้วจึงมอบหมายงานให้ จิมมี่ เมอร์ฟี่ โค้ชมือขวาข้างกายทำอะไรสักอย่าง

เมอร์ฟี่ เติบโตที่เพนเทอร์ หมู่บ้านใกล้ๆ หุบเขาทรีออร์ชี่ที่เมืองแค มาวร์ บิดาของเขาอพยพมาจากไอร์แลนด์มาทำงานเหมืองแร่ แต่เขาไม่ได้คิดเจริญรอยตาม

สมุดพกโรงเรียนรายงานไว้ว่า เมอร์ฟี่ เป็นนักเรียนดีเด่นกล้าแสดงออก เขายังเล่นเปียโนได้ดีเลิศ ทว่าจุดเด่นที่สุดคือฟุตบอลในบทบาทวิงฮาล์ฟ เทิร์นโปรกับเวสต์บรอมวิช และได้ลงเล่นในนัดชิงเอฟเอ คัพ 1935

จากนั้นเข้ายุคสงครามโลก เมอร์ฟี่ไปใช้ชีวิตในฐานะทหารเกณฑ์อยู่ทะเลทรายแอฟริกาเหนือ และอิตาลีตอนใต้ เท่ากับเลิกอาชีพค้าแข้งไปโดยปริยาย

โชคชะตานำพาเขาค้นพบจุดเปลี่ยนสำคัญ ไม่ใช่แค่กับชีวิตของเขา หากเหมารวมไปถึงอนาคตวงการฟุตบอลอังกฤษด้วย!


ผู้เล่นทั้งสองทีมที่ลงเล่นในเมืองแค มาวร์ ของเวลส์ ช่ง 7 ปีก่อนเกิดโศกนาฏกรรม (หมายเลข 1-14 คือผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด)

บัสบี้ ได้เจอกับ เมอร์ฟี่ ขณะพูดให้กำลังใจชายชาติทหารก่อนเกมนัดพิเศษที่บารี่ ทั้งคู่ประทับใจกันถึงขั้นแต่งตั้งแต่งตั้งเป็นโค้ชผู้ช่วยพร้อมนิยามไว้ว่า "การเซ็นสัญญาครั้งแรก และสำคัญสุดเท่าที่ทำมา"

ช่วง 10 ปีแรก เมอร์ฟี่ไม่ได้ร่วมงานกับทีมชุดแรก หน้าที่ของเขาคือดูแลพัฒนาเยาวขน ว่าแล้วจึงพาอ้ายแอ้ดในคอนโทรลขึ้นหุบเขาไปแข่งบอลนัดพิเศษกับทีมรวมดารา เพนเทอร์ บอยส์ คลับ

คนดูจำนวนหลายพันเดินทางมาหวังเห็นทีมเพนเทอร์ชุดแกร่งสอนบอลเด็กๆ จากแมนเชสเตอร์ แต่ที่ไหนได้? ผลลัพธ์กลับออกมาอีกอย่าง

ยูไนเต็ด ณ ตอนนั้นยังไม่เคยได้แชมป์ลีกหลังยุคสงครามโลก ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ และ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ยังเรียนหนังสืออยู่ ทว่าแววสำเร็จของ บัสบี้ เบ๊บส์ เริ่มฉายให้เห็นที่นั่น


(จากซ้ายไปขวา) จิมมี่ เมอร์ฟี่, บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน, เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ และ แจ็ค ครอมป์ตัน

จิมมี่ เมอร์ฟี่ จูเนียร์ เป็นอีกพยานช่วยยืนยันเหตุการณ์นั้นผ่านกระดาษสำเนาแมตช์โปรแกรม และภาพถ่ายหมู่วันแข่งขันที่ตั้งโชว์อยู่ในบ้านที่สต็อคพอร์ท

ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทุกวันนี้มีแค่ เจสซี่ ลินการ์ด และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เป็นแข้งท้องถิ่นตัวหลัก หากกลับกันทีม 11 คนที่ไปแข่งในเวลส์ปี 1951 นั้น มีแค่ "ที ริชี่" ศูนย์หน้าตัวกลางคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ขึ้นชุดใหญ่

สิริรวมทั้งสิ้น ทีมเยาวชนชุดนั้นลงสนามรับใช้ยูไนเต็ดรวมกันกว่า 1,700 เกม, 7 คนในนั้นได้เหรียญแชมป์ลีกสูงสุด 1955-56 และอีก 1 คนอยู่ในทีมแชมป์ยุโรป 17 ปีต่อมา

น่าเสียดายและชวนสลดใจที่ 6 คนในนั้นอันได้แก่ มาร์ค โจนส์, แจ็คกี้ บลานช์ฟลาวเวอร์, เรย์ วู้ด, เจฟฟ์ เบนท์, เดนนิส ไวโอลเล็ต และ บิลล์ โฟล์คส์ ต้องยุติเส้นทางอาชีพที่มิวนิค

3 คนเสียชีวิต อีก 3 ไม่สามารถกลับมาลงสนามได้อีกต่อไป


(โปรดติดตามต่อในตอนที่ 2) 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})