รวม 5 ไฮไลต์เด่นของ ซาดิโอ มาเน่ กับหงส์แดง
เกมไหนที่อึดอัด กดดัน เจาะคู่แข่งไม่ได้ หลายครั้งหลายหนก็มักจะเป็น ซาดิโอ มาเน่ นี่แหละที่โผล่มาซัลโวประตูสำคัญให้ทีมได้อยู่บ่อย ๆ แถมยังเป็นนักเตะที่มีความทุ่มเทให้ทีมเกินร้อยเสมอมา และในคอลัมน์นี้ผมจะขอพาไประลึกถึง 5 วีรกรรมเด่น ๆ ของ มาเน่ กันว่ามีอะไรบ้าง 1) ดรีม เดบิวต์ นัดชนะปืนโต ซาดิโอ มาเน่ เอาชนะใจแฟน ลิเวอร์พูล ได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีก โดยเขาเดบิวต์ได้ยอดเยี่ยมสุด ๆ บนเกมที่บุกไปชนะ อาร์เซน่อล 4-3 มาเน่ ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาร่วมทัพหงส์แดงในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 34 ล้านปอนด์ ซึ่งในตอนนั้นเขาเป็นนักเตะแอฟริกันที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนจะถูก โม ซาล่าห์ และคนอื่น ๆ มาทำลายสถิตินี้ได้ในภายหลัง มาเน่ ถือว่าเป็นของแพงคนแรก ๆ ในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ เลยก็ว่าได้ ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้นายใหญ่ชาวเยอรมันผิดหวัง เพราะแค่นัดแรกที่ลงสนาม มาเน่ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด นอกจากจะปั่นป่วนแนวรับของ อาร์เซน่อล ได้ตลอดทั้งเกมแล้ว เขายังรับบทฮีโร่ยิงประตูที่ 4 ให้กับทีมได้อีกด้วย ประตูของ มาเน่ เกิดขึ้นในนาทีที่ 63 จากจังหวะที่เขารับบอลตรงริมเส้นด้านขวา ก่อนจะทำการพลิกบอลพร้อมกระชากหนีตัวประกบ จากนั้นก็ล็อคเข้าซ้ายแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบตาข่ายหนีมือ ปีเตอร์ เช็ค เข้าไปอย่างงดงามเลยทีเดียว 2) เป็นพระเอกในถ้วยยุโรป มาเน่ เป็นคนที่เล่นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีกได้ดีมากคนนึง สถิติในถ้วยนี้ของเขากับ ลิเวอร์พูล คือลงสนามไป 57 นัด ยิงได้ 24 ประตูกับ 9 แอสซิสต์ แถมยังเคยทำประตูในรอบชิงชนะเลิศได้อีกด้วย มาเน่ เป็นทีเด็ดที่พึ่งพาได้เสมอยามลงเล่นในถ้วยยุโรป เขาเคยทำแฮตทริคใส่ ปอร์โต้, เคยเหมายิง บาเยิร์น 2 ลูก อีกทั้งยังเคยซัลโว โรม่า ทั้งเกมเหย้าและเยือนในรอบรองชนะเลิศ จนพาทีมเข้าชิงกับ เรอัล มาดริด ปี 2018 มาแล้ว นอกจากนี้ ในถ้วยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่ชนะ เชลซี จากการดวลลูกโทษตอนปี 2019 เขายังรบบทฮีโร่ยิงคนเดียว 2 เม็ด จนพาทีมคว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย ถือว่า มาเน่ เป็นคนที่เล่นในถ้วยยุโรปได้ดีมากคนนึงเลยทีเดียว 3) ได้รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมา มีนักเตะจากแอฟริกันเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นที่ได้รางวัลรองเท้าทองคำ ซึ่ง ซาดิโอ มาเน่ เองก็เป็นหนึ่งนั้นด้วยครับ มาเน่ ลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายรวมแล้วทั้งสิ้น 269 นัด ยิงได้ทั้งหมด 120 ประตูกับอีก 48 แอสซิสต์ โดยฤดูกาลที่พีคที่สุดของเขาเกิดขึ้นในปี 2018-19 ซึ่ง มาเน่ สามารถซัลโวได้มากถึง 26 ประตูจาก 50 นัดรวมทุกถ้วยทุกรายการ อีกทั้งปีดังกล่าวยังพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกด้วย ในพรีเมียร์ลีก เขาเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมเบียดแย่งแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนถึงนัดสุดท้าย และตัวเขาเองก็ยิงในลีกได้มากถึง 22 ประตูจาก 36 นัด คว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกร่วมกับ โม ซาล่าห์ และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งนั่นคือครั้งแรกที่มีดาวซัลโวร่วม เป็นนักเตะจากแอฟริกันถึง 3 คนในครั้งเดียวอีกต่างหาก คล็อปป์ พูดถึงรางวัลนี้ของ มาเน่ ว่าคู่ควรแล้ว เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกทีมคนนี้ทำงานหนักมาตลอดทั้งในและนอกสนาม ขณะที่ มาเน่ เองก็ยอมรับว่าความสำเร็จส่วนตัวในครั้งนั้นถือเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ครั้งนึงของเขาเลยทีเดียว เพราะถือว่าเป็นแข้งจากเซเนกัลคนแรกที่ได้รางวัลนี้ อีกทั้งยังเป็นปีที่เขาเล่นได้ดีที่สุดครั้งนึงในอาชีพการค้าแข้งเลยทีเดียว 4) ประตูสุดสวยในเกมเฉือนเหลี่ยม นอยเออร์ หนึ่งในเกมยุโรปที่ทำให้ชื่อของ ซาดิโอ มาเน่ โด่งดังสุด ๆ และอยู่ในความทรงจำของแฟน ลิเวอร์พูล คงหนีไม่พ้นฟอร์มสุดยอดในค่ำคืนที่มิวนิค ซึ่งเขาพาทีมบุกไปชนะ บาเยิร์น ถึงถิ่น 3-1 พาทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้อย่างสุดมันส์ เกมนั้นคือเกมในรอบ 16 ทีมนัดที่สอง โดย มาเน่ จัดการเหมาคนเดียว 2 เม็ดครับ ไฮไลต์อยู่ที่ประตูแรกซึ่งเขาดูดบอลลงอย่างนิ่มนวล ก่อนจะหมุนบอลหนี มานูเอล นอยเออร์ ด้วยความเหนือชั้น แล้วหันมาใส่ด้วยอีซ้ายเน้น ๆ ก่อนที่บอลจะพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ซึ่งลูกนี้ติดหนึ่งในประตูสุดสวยของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 อีกด้วย นอกจากนี้ มาเน่ ยังเป็นคนพุ่งโหม่งประตูย้ำชัย 3-1 ในช่วงท้ายเกม พาหงส์แดงผงาดเข้ารอบ ก่อนจะไปเถลิงแชมป์ได้ในบั้นปลาย 5) ตำนานของทีมตลอดไป ซาดิโอ มาเน่ คือหนึ่งใน 3 ประสานแดนหน้าของ คล็อปป์ โดยที่ มาเน่ ย้ายมาร่วมทัพเป็นคนที่สอง หากนับแค่สามประสาน ฟิร์มิโน่, มาเน่ และ ซาล่าห์ ทั้งสามคนได้เล่นร่วมกันนาน 5 ฤดูกาล ช่วยกันสร้างตำนานและพาทีมคว้าแชมป์ได้จนครบถ้วน ทั้งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, ลีกคัพ, เอฟเอ คัพ, สโมสรโลก และถ้วยพรีเมียร์ลีกที่แฟนบอลรอคอยมานานร่วม 30 ปี สถิติของ มาเน่ ในการเล่นร่วมกับสามประสานนั้นถือว่ายอดเยี่ยมมาก โดย มาเน่ ลงสนามพร้อมกับ ซาล่าห์ 223 นัด เก็บชัยชนะได้มากถึง 150 นัด และเขาลงสนามร่วมกับ ฟิร์มิโน่ ไปทั้งหมด 197 นัด พาทีมคว้าชัยได้ถึง 126 นัดเลยทีเดียว นอกจากนี้ หากนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18 เป็นต้นมา ทั้งสามคนทำประตูให้หงส์แดงรวมกันถึง 338 ประตู โดยที่แบ่งเป็น ซาล่าห์ 156 ลูก, มาเน่ 107 ลูก และ ฟิร์มิโน่ 75 ลูก ส่วนจำนวนการแอสซิสต์ก็อยู่ในระดับท็อปเช่นกัน ทั้งสามคนมีตัวเลขแอสซิสต์รวมกันสูงถึง 139 แอสซิสต์ โดยที่เป็นการแอสซิสต์ให้กันและกันในแดนหน้ามากถึง 92 ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซนต์สูงถึง 66% เลยทีเดียว แบ่งออกเป็น ทั้งหมดนี้คือความยอดเยี่ยมของ ซาดิโอ มาเน่ ที่อยู่ในความทรงจำสำหรับเดอะค็อปทุกคน เขาเป็นนักเตะที่ไม่เคยถือตัว เป็นคนเรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อ มุ่งมั่นเล่นแต่ฟุตบอล กระหายในชัยชนะ เป็นคนที่เข้ามาช่วยยกระดับทีมได้เยอะ และเล่นได้คุ้มเกินคุ้มกับทุกปอนด์ที่สโมสรจ่ายไป การจากลา ลิเวอร์พูล ในครั้งนี้ไม่มีแฟนบอลคนไหนโกรธเขาเลย ทุกคนรู้ดีว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เขาทำเพื่อทีมมาเต็มที่มาก ๆ แล้ว มันคือวิถีของมืออาชีพ คือการจากลาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม มาเน่ เป็นตำนานบทสำคัญของสโมสร ลิเวอร์พูล และเขาจะนั่งอยู่ในใจแฟนหงส์แบบนั้น ตลอดไป