รายเผยว่าเจ้าของ "สิงห์บลูส์" ต่อสายตรงหานายใหญ่ชาวเยอรมันและมีการคุยกันราว 10 นาที ซึ่งทสง ทูเคิ่ล อ้อนวอนกับทาง โบห์ลี่ ว่าอย่าไล่เขาออกทางโทรศัพท์แต่ว่าไม่เป็นผล
ทูเคิ่ล เตรียมเรียกคุยลูกทีมเพื่อหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าตัวโดนปลดจากตำแหน่งไปซะก่อน
ถือเป็นการปลดจากตำแหน่งที่โหดร้ายอย่างมาก แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และนี่คือเหล่าผู้จัดการทีมที่โดนแบบไม่ทันตั้งตัวกันเลย
หลุยส์ ฟาน กัล - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2016
"คุณสามารถมองเห็นได้ว่าเขาอารมณ์เสีย จริงๆแล้วผมไปดึงเขามาคุยในงานปาร์ตี้ที่เราจัดหลังจากนั้น เขาอยู่ที่มุมกับภรรยาและเขาก็เงียบมาก" เวย์น รูนี่ย์ สังเกตุเห็นมัน สื่อก็เช่นกัน
ภายหลังการนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์เอฟเอ คัพในปี 2016 ถือเป็นโทรฟี่ใบแรกที่ทีมได้มาครองนับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป 3 ปีก่อนหน้า แต่ไม่ถึง 48 ชั่วโมงหลังทีมได้แชมป์หลังชนะ คริสตัล พาเลซ ที่เวมบลีย์ เขาก็ไปจากสโมสร
"ผมมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าจะสามารถเห็นสัญญาของตัวเองและอยู่กับทีมในฤดูกาลที่สาม" ฟาน กัล เผยเมื่อปี 2020 "มันเป็นเรื่องที่ประหลาดใจที่สุดในชีวิตเมื่อ (เอ็ด) วู้ดเวิร์ด ไล่ผมออก"
"ผมเคยเผชิญหน้าจากการต่อต้านภายในสโมสรแฃละสหพันธ์อื่นมาก่อน แต่นั้นก็ไม่มีอะไรที่เทียบได้กับสิ่งที่ผมต้องเจอที่ แมนฯ ยูไนเต็ด"
จุ๊ปป์ ไฮย์เกส และ บีเซนเต้ เดล บอสเก้ - เรอัล มาดริด ปี 1998 และ 2003
สองผู้จัดการทีมชื่อดังที่ออกจาก "ราชันชุดขาว" พร้อมกับความโมโหโดยโดนปลดจากตำแหน่งไม่กี่วันหลังจากที่พาทีมประสบความสำเร็จครั้งใหญ่
จุ๊ปป์ ไฮย์เกส โดนปลดจากตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 1998, 7 วันหลังจากที่พาทีมชนะ ยูเวนตุส ที่อัมสเตอร์ดัม 1-0 หยุดช่วงเวลายาวนานถึง 32 ปีที่ทีมไม่ได้แชมป์ถ้วยใหญ่ของยุโรป
"ถ้าเราไม่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพนี่คงเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่แย่ที่สุดในรอบหลายปี" ลอเรนโซ่ ซานซ์ ประธานสโมสรในตอนนี้กล่าว โดยในปี้นั้นทีมจบอันดับ 4 ในลา ลีกา
5 ปีผ่านไป บีเซนเต้ เดล บอสเก้ พาทีมได้แชมป์ลา ลีกา สำเร็จเป็นสมัยที่ 2 ใน 4 บวกกับแชมป์ยุโรปอีก 2 สมัยด้วย แต่ว่าเจ้าตัวกลับโดนไล่ออกหลังผ่านไปเพียง 48 ชั่วโมงต่อมา
"พวกเขาต้องการไล่ เดล บอสเต้ ซึ่งพวกเราต้องการให้เขาอยู่ต่อ ดังนั้นเราไม่ต้องการฉลองแชมป์ลา ลีกา" อีบัน เอลเกร่า อดีตกองหลังของทีมให้สัมภาษณ์ในปี 2020
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เรอัล มาดริด ไม่ได้แชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นเวลานานถึง 12 ปีกว่าจะได้รับมาชูถ้วยใหญ่ของยุโรปอีกครั้ง
รอย อีแวนส์ - ลิเวอร์พูล 1998
ลิเวอร์พูล พยายามที่จะกลับประสบความสำเร็จลีกสูงสุดแดนผู้ดีให้ได้หลังจากที่ห่างหายจากการเป็นแชมป์เกือบ 1 ทศวรรษเต็มๆ และสิ่งที่ทีมจำเป็นจะต้องปรับปรุงคือการปรับปรุงให้สโมสรมีความทันสมัยแบบเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล
นั่นเป็นเหตุผลที่ทีมดึง เชราร์ อัลลิเยร์ เพื่อนของ อาร์แซน เวนเกอร์ มานั่งในตำแหน่งฝ่ายเทคนิคของสโมสร แต่พวกเขาไม่ต้องการที่จะไล่ผู้ซื่อสัตย์อย่าง รอย อีแวนส์ ออกขากทีม
"บู๊ท รูม" คือคำที่เราได้ยินมาอย่างยาวนานในทีม "หงส์แดง" นับตั้งแต่สมัยของ บิลล์ แชงค์ลี่ย, อีแวนส์ เป็นผู้จัดการทีมที่ถูกมองว่าเปราะบาง แต่เล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นแทนที่จะให้ อุลลิเย่ร์ เข้ามาทำงานแทนไปเลย สโมสรเลยให้ทั้งคู่ทำงานร่วมกัน
แต่ว่าทั้งคู่ทำงานร่วมกันได้แค่ 4 เดือน หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ สเปอร์ส ในเกมลีก คัพ ในเดือนพฤศจิกายนต่อหน้าแฟนบอลเพียง 20,772 ที่แอนฟิลด์ อีแวนส์ ก็โดนลงดาบ
"มันไม่สำคัญว่าจะเป็นคนเดียวที่โดนตำหนิ นั่นคือประโยชน์สูงสุดของสโมสร ผมร่วมงานกับ เชราร์ และหวังว่ามันจะไปด้วยดี มันไม่เป็นแบบนั้น ผลลัพธ์ไม่เป็นในแบบที่เราต้องการ" อีแวนส์ กล่าวในการแถลงข่าวอำลาทีม
"มันไม่เกี่ยวกับความสำพันธ์ระหว่างผมกับ เชราร์ มันไม่เกี่ยวอะไรกับบุคลิก มันแค่ไม่ได้ผล คุณแค่รู้สึกว่ามันไม่ใช่สูตรที่เหมาะสมกับผู้เล่น พวกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้านาย"
"มันเป็นเรื่องง่ายที่จะอยู่ (ในบทบาทอื่น) แต่เพื่อให้ เชราร์ และทีมงานของเขามีโอกาส คุณต้องเดินออกไป ผมรู้ว่าผมสามารถอยู่ที่นี่ได้ แต่ผมตัดสินใจที่จะหยุด ผมไม่ต้องการที่จะให้มันแย่ไปกว่านี้"
อีแวนส์ แยกทางกับสโมสรด้วยน้ำตาในวันนั้น ความสัมพันธ์ 33 ปีของเขากับสโมสรในบทบาทที่แตกต่างได้สิ้นสุดลง
คาร์โล อันเชล็อตติ - เชลซี 2011
ในยุคของ โรมัน อบราโมวิช สโมสร เชลซี ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในใช้ผู้จัดการเปลืองมากที่สุด และการปลด คาร์โล อันเชล็อตติ ออกจากตำแหน่งก็เป็นอะไรที่ทำให้แฟนบอลต้องขมวดคิ้ว
นายใหญ่ชาวอิตาลีพา "สิงห์บลูส์" เล่นได้อย่างประทับใจแฟนบอล และปีแรกที่เข้ามาคุมทีมในปี 2009 ก็พาทีมซิวดับเบิ้ลแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ
แต่ในปีที่สองทีมจบมือเปล่าและเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีก นั่นไม่ดีพอสำหรับ "เสี่ยหมี" ที่ต้องการความสำเร็จเท่านั้น
"ผลงานในฤดูกาลนี้ล้มเหลวจากความคาดหมายและสโมสรรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงสำหรับการเตรียมพร้อมในฤดูกาลหน้า" แถลงการณ์สั้นของสโมสรหลังการปลด อันเชล็อตติ
