เรากำลังพูดถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ครับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นนักฟุตบอลชาบราซิลที่มีชีวิตในตอนเด็กยากจนไม่ต่างจากเด็กคนอื่น ๆ เคยมีเรื่องเล่าจาก อาเดรียน่า ไลต์ คุณครูประจำชั้นของเขาว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่พูดไม่เยอะแต่มีรอยยิ้มให้กับคนรอบข้างเสมอมา แม้ว่าฐานะที่บ้านจะยากจนแต่เขาก็ไม่อายที่จะพูดถึงมัน หนำซ้ำยังภูมิใจที่ได้เรียนรู้ความลำบากนี้ พร้อมกับตั้งเป้าว่าในสักวันหนึ่งจะพาครอบครัวให้อยู่สุขสบายจากอาชีพนักฟุตบอลให้ได้อีกด้วย ฟีร์มิโน่ เอาจริงกับอาชีพนักฟุตบอลตั้งแต่เล็ก ๆ เมื่ออายุได้ 13 ขวบ เขาได้ไปอยู่กับทีมเยาวชนเล็ก ๆ อย่าง คลับ เดอ เรกาตาส ซึ่งที่นี่เขาใส่เสื้อเบอร์ 5 มีสถานะเป็นแค่ตัวสำรองในทีม แถมยังเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับอีกต่างหาก เขาผจญภัยไปทั่วภาคเหนือของบราซิลและคว้าแชมป์การแข่งขันระหว่างรัฐได้อย่างมากมาย ก่อนที่จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพจะมาถึงตอนไปเล่นในทัวร์นาเม้นต์ที่เมืองเซา เปาโล ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่สำคัญระดับประเทศ โดยหลังจากแข่งรายการนี้เสร็จ สโมสรดังอย่าง เซา เปาโล ก็ส่งเทียบเชิญให้เขาไปทดสอบฝีเท้าเพื่อเข้าร่วมทีมในทันที แต่เส้นทางของเขาไม่ง่ายอย่างที่คิด ฟีร์มิโน่ ไม่ผ่านการทดสอบดังกล่าว แต่หนึ่งในแมวมองของสโมสรนี้เห็นแววเก่งของเขาจึงพาไปคัดตัวกับสโมสรอื่น ๆ อีกมากมาย ก่อนสุดท้ายจะได้เซ็นสัญญากับ ฟิกูเรนเซ่ ซึ่งเล่นในลีกรองของบราซิลตอนปี 2008 ก่อนที่จะทำผลงานได้ดีหลังจากย้ายลงไปเล่นทางใต้กับ ฟิกูเรนเซ่ ซึ่งเขาถูกจับมาเล่นตัวรุกแทนที่จะเป็นกองกลางตัวรับเหมือนที่ผ่าน ๆ มา ฟีร์มิโน่ เป็นตัวหลักในการพา ฟิกูเรนเซ่ เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดของประเทศตอนปี 2010 ก่อนจะได้ย้ายมาผจญภัยในยุโรปเป็นครั้งแรกกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในราคาถึง 4 ล้านยูโร เลยทีเดียว ชีวิตใหม่ในบุนเดสลีกาค่อนข้างสวยงาม แม้ว่าจะยิงไม่เยอะมาก แต่เขาคือคนสำคัญในเกมรุกที่ช่วยให้ทีมเดินหน้าอย่างไหลลื่น ก่อนจะได้ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตอนปี 2015 ด้วยค่าตัวสูงถึง 29 ล้านปอนด์ เมื่อย้ายมาที่อังกฤษ เขาพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นนักเตะระดับโลกได้ในเวลาไม่นาน ฤดูกาลแรกของเขากับทีม ฟีร์มิโน่ ยิงได้มากถึง 11 ประตูจากทุกรายการ และเป็นสีสันใหม่ในแดนหน้าที่แฟน ๆ ตื่นเต้นทุกครั้งยามเขาได้บอล สัมผัสแรกเนียนตา จ่ายบอลดี วิสัยทัศน์เยี่ยม รวมถึงยังเล่นบอลไม่เห็นแก่ตัว เป็นคีย์แมนแดนหน้าที่ช่วยให้เกมรุกไหลลื่นแบบสุด ๆ ฟีร์มิโน่ ทำให้ทุกคนหลงรักกับสไตล์การเล่นที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพของเขา อย่างเช่นในครั้งนึง ซิลวินโญ่ ผู้ช่วยของ ตีเต้ กุนซือทีมชาติบราซิล ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปส่องฟอร์มของ ฟิร์มิโน่ ตอนปี 2016 โดยวันนั้นเป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล ออกไปเยือน เบิร์นลี่ย์ ซึ่งในคราวแรก ซิลวินโญ่ ยอมรับว่าไม่ค่อยอยากเดินทางไกลขนาดนั้นสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของนาย เขาจึงบากบั่นเดินทางมาถึง เทิร์ฟ มัวร์ "มันเป็นการเดินทางที่ยาวไกลแต่ก็คุ้มค่ามาก เพราะเขาทำได้เหลือเชื่อจริง ๆ" ซิลวินโญ่ เล่าบ้าง "เมื่อบอลอยู่อีกฝั่งของสนาม แต่คุณจะเห็นการเคลื่อนที่อันยอดเยี่ยมของเขาได้ชัดเจน แนวทางที่เขาวิ่งฉีกหนีกองหลัง รวมไปถึงการเชื่อมเกมอันยอดเยี่ยมนั้น นั่นจึงทำให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงมีเขาเป็นกองหน้าตัวหลักแม้จะทำประตูได้ไม่เยอะมาก เพราะหน้าที่ของเขาคือการทำให้คนอื่นเล่นง่ายขึ้นยังไงล่ะ" "ผมกลับมาจากที่นั่นด้วยความประทับใจ ตอนที่ผมเขียนรายงานส่งให้ ติเต้ เขาแซวผมว่า -ผมคิดว่าคุณชื่นชอบหมอนี่แล้วใช่มั้ยล่ะ ผมสัมผัสมันได้- ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากนั้นเลยสักนิดเดียว" อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ ฟิร์มิโน่ อาจไม่ได้เป็นกองหน้าที่ถล่มประตูมากมายก่ายกอง แต่เขาคือกองหน้าตัวกลางที่ทำให้ทีมได้ประตูมากมายต่างหาก วิธีการเคลื่อนที่ของเขาทั้งยามมีบอลและไม่มีบอล ล้วนเต็มไปด้วยประโยชน์ต่อทีมในทุก ๆ ครั้ง เขาไม่เคยลังเลใจที่จะส่งบอลให้คนอื่นหากเห็นว่าเพื่อนอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า ความใจกว้าง ความเข้าใจเกม และความขยันทุ่มเท ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนหลงรักเขา แม้ว่าจะไม่ใช่เบอร์ 9 จอมถล่มประตูก็ตาม พลิกสถิติออกมาดู จะพบว่าตลอด 7 ปีในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล นั้น ดาวยิงชาวบราซิลรายนี้มีจำนวนประตูที่ยิงได้สูสีกับจำนวนแอสซิสต์เลยทีเดียว ฟีร์มิโน่ ลงสนามไปแล้ว 334 นัด ยิงได้ 101 ประตู 77 แอสซิสต์จากทุกรายการ พาทีมคว้าแชมป์ครบถ้วนทุกสิ่งอย่าง ตั้งแต่พรีเมียร์ลีก, ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, สโมสรโลก และบ่าสุดกับคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ทั้งหมดนี้คือคำตอบของทุกคำถามที่ว่าทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงรักที่จะใช้งานกองหน้าคนนี้มากที่สุด แม้จะยิงไม่เคยถึง 30 ประตูต่อฤดูกาลเลย "เขาคือนักเตะที่สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้หลายต่อหลายครั้ง บางเกมยิงประตูไม่ได้แต่เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของทีมเสมอมา ผมคงรู้สึกอายนะถ้าต้องมาสาธยายคุณภาพที่มีเพียบล้นในตัวของ ฟีร์มิโน" ยอดกุนซือชาวเยอรมันอธิบาย แม้ว่ามีบางช่วงบางเวลาที่ ฟิร์มิโน่ จะถูกโจมตีในเรื่องการยิงประตู แต่เรื่องนี้ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับ คล็อปป์ เลยสักนิด เขายังคงเชื่อมั่นในตัวลูกทีมคนนี้เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน แม้ในวันที่เสียงจากแฟนบอลเริ่มบ่นว่าอยากให้ ฟิร์มิโน่ นั่งเป็นสำรองก็ตามที "นั่นมันไร้สาระมาก สำหรับนักเตะประเภทนี้ สถิติตัวเลขเหล่านั้นมันไม่ได้มีความสำคัญสำหรับเขาเลย ฟีร์มิโน คือนักเตะระดับโลกตัวจริง" "มีครั้งนึง ตอนที่ผมเดินเข้าไปเพื่อจะกอดเขาหลังจบเกม เขาหยุดพูดกับผมว่า -ขอโทษนะครับบอส ผมน่าจะยิงได้มากกว่านี้- ผมยิ้มให้เขา เพราะผมรู้ดีว่าเขามีประโยชน์มากกว่าแค่เรื่องยิงประตู" สำหรับกองหน้า การยิงประตูคือสิ่งสำคัญก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว เพราะประโยชน์ที่เขามีบนสนามนั้น หลายครั้งหลายหนมันคือการนำชัยชนะมาสู่ทีม โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องลั่นสกอร์เองเลยด้วยซ้ำ บ็อบบี้ ฟีร์มิโน่ คือนักเตะที่เรียบง่าย มีรอยยิ้มให้คนรอบข้าง และเป็นสตาร์ดังที่เล่นเพื่อทีมมากกว่าตัวเองอยู่เสมอ และทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือเหตุผลสำคัญที่ว่า "ทำไมแฟนหงส์แดงและ คล็อปป์ ถึงหลงรักผู้ชายคนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่จอมถล่มประตูแบบคนอื่น ๆ ก็ตาม
