ดาร์วิน นูนเญซ: ขอยิงเรื่อย ๆ ในฐานะนิว แคร์โรลล์ ก็ไม่ติดนะ
เรากำลังพูดถึง ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าหมายเลข 27 ของ ลิเวอร์พูล ที่ตอนนี้ยิงไปแล้ว 9 ประตู 2 แอสซิสต์จาก 18 นัดในทุกรายการ หากลงรายละเอียดให้ลึกจะพบว่า นูนเญซ เป็นกองหน้าที่ไม่ได้มีดีแค่ยืนรอจบสกอร์อย่างเดียวเท่านั้น แต่เขามีส่วนร่วมในเกมค่อนข้างเยอะ ยิ่งในช่วงหลังมานี้เขาเริ่มแสดงให้เห็นถึงความอันตรายจากการลากบอลตัดเข้าใน การพลิกบอลที่เฉียบขาด และพร้อมใช้สปีดต้นฉีกหนีตัวประกบอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจมากขึ้นกว่าช่วงแรก ๆ เยอะมาก ยามที่ นูนเญซ ยืนฝั่งซ้ายของแนวรุก เขามักแสดงให้เห็นถึงความอันตรรายได้ชัดเจน อีกทั้งฟอร์มการเล่นจากนัดล่าสุดที่เหมาสองใส่ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็มาจากการยืนตำแหน่งที่ตรงตามสูตรของกองหน้าแบบเป๊ะ ๆ ประตูแรกมาจากการวอลเลย์ลูกเปิดของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซึ่งตัวเขาเองได้สลับตำแหน่งกับ บ็อบบี้ ฟีร์มิโน่ จนดอดมายิงได้สำเร็จ ส่วนลูกที่สองชัดเจนมากถึงการยืนตำแหน่งที่สอดเข้ามาสไลด์ลูกครอสของ ร็อบโบ้ อย่างพอเหมาะพอเจาะ นูนเญซ ตอนนี้ทำประตูได้ทุกรูปแบบ โหม่ง 3, เท้าขวา 4 และเท้าซ้าย 2 เรียกได้ว่าครบเครื่ิองไม่แพ้ ฮาลันด์ ของ แมนฯ ซิตี้ เลยทีเดียว เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดถึง นูนเญซ จากผลงานเหมาสองประตูใส่ เซาธ์แฮมป์ตัน พาทีมชนะ 3-1 เมื่อคืนนี้ว่า "การเคลื่อนที่ของ นูนเญซ มีความสำคัญต่อทีมมาก เขาสลับตำแหน่งระหว่างเกมอย่างพอเหมาะและรู้ดีว่าควรเข้าไปอยู่ในจุดอันตรายตอนไหน สองประตูในเกมนี้ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะเราทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพมากแค่ไหน" ฟอร์มที่เริ่มดีวันดีคืนของ นูนเญซ เป็นสัญญาณที่ดีว่า ลิเวอร์พูล กำลังกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง เอาจริง ๆ แล้วเขานี่ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะทุกครั้งที่ย้ายทีมเขาเป็นนักเตะที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวช่วงแรกอยู่เสมอ อย่างในฤดูกาล 2019-20 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาย้ายมาเล่นบนแผ่นดินยุโรป โดยตอนนั้นอยู่กับ อัลเมเรีย ซึ่งเขาได้ลงสนามเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้นใน 11 นัดแรก แต่รู้ไหมครับว่าผลลัพธ์ในบั้นปลายเป็นอย่างไร? พอปรับตัวได้ นูนเญซ ก็มาไล่กดไปถึง 16 ประตูจาก 29 นัดหลังจากนั้น เคยยิงได้ 7 ประตูจาก 6 นัดในช่วงเดือนธันวาคมไปถึงต้นเดือนมกราคม และเคยเหมาสองใส่ทีมใหญ่อย่าง เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า อีกต่างหาก ช่วงที่ย้ายมาอยู่กับ เบนฟิก้า ตอนฤดูกาล 2020-21 ก็เจอปัญหาในการปรับตัวไม่ต่างกัน 10 นัดแรกในลีกยิงได้แค่ลูกเดียว และเป็นตัวสำรองของ แฮร์ริส เซเฟโรวิช แบบเต็มตัว จบฤดูกาลแรกในดินแดนฝอยทองด้วยการยิงได้เพียง 14 ประตูจาก 44 นัดในทุกรายการ วี่แววของความล้มเหลวมองเห็นมาแต่ไกลเลย ทว่า ในฤดูกาลถัดมา นอกจากจะปรับตัวได้แล้ว เขายังยึดตำแหน่งตัวจริงได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหลังจาก เซเฟโรวิช ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ นูนเญซ ถูกดันมาเล่นเป็นหน้าเป้าเต็มตัวก่อนจะกดไปถึง 34 ประตูจาก 41 นัดในทุกรายการ พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าที่น่าจับตามองมากที่สุดในยุโรปทันที ดังนั้น ปรากฏการณ์ปืนฝืดของ นูนเญซ ในช่วงแรกกับ ลิเวอร์พูล จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตกหรือเป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะดาวยิงรายนี้เป็นคนที่จำเป็นต้องใข้เวลาในการปรับตัวกับทีมใหม่พอสมควร ก่อนจะค่อย ๆ ระเบิดฟอร์มเก่งได้ในที่สุด วันนี้ นูนเญซ อาจยังไม่ถึงขั้นที่จะพูดได้เต็มปากว่าทำผลงานคุ้มค่าตัวก็จริง แต่สิ่งที่เรากำลังเห็นก็คือเขากำลังลงล็อคกับชีวิตในแอนฟิลด์มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีอาการเก้ ๆ กัง ๆ ไม่มีสีหน้าของความไม่มั่นใจอีกแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เห็นคือภาพของคนที่กำลังมีความสุขกับฟอร์มของตัวเอง แม้ใครจะเย้ยหยันว่าเป็น นิว แคร์โรลล์ แต่เชื่อเถอะครับว่าแฟนหงส์ไม่มีปัญหาเลยสักนิด ถ้าหาก นิว แคร์โรลล์ จะยิงได้เรื่อย ๆ แบบนี้ สถิติ 9 ประตู 2 แอสซิสต์จาก 18 นัดในทุกถ้วย ยิงประตูได้ครบเครื่อง แถมในลีกยังมีอัตราการยิงตรงกรอบสูงถึง 50% เป็น นิว แคร์โรลล์ ที่เดอะค็อปไม่กังวลเลยสักนิดเดียว