รอบแบ่งกลุ่มจบลงแล้วเรียบร้อยเมื่อคืน ผลการแข่งขันของทุกกลุ่มออกมาเสร็จสิ้น และการจับคู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายถูกวางลำดับการเจอกันไว้แล้ว โดยแชมป์ของกลุ่มที่อยู่ติดกัน จะไขว้ไปเจอกับรองแชมป์ของอีกกลุ่มหนึ่ง และแบ่งคู่ที่ไขว้ แยกกันไปอยู่คนละสาย ขออนุญาตนับสายทางซีกซ้ายว่า สาย A และด้านขวาคือ สาย B

แชมป์กับรองแชมป์ที่อยู่ด้วยในรอบแบ่งกลุ่มจะแยกจากกันโดยเด็ดขาด จะเจอกันได้อีกทีคือต้องรอบชิงเลย และรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเตะกันต่อเลยทันทีในคืนนี้ ตามลำดับการแข่งขันนี้เลย ยาวไปอีก 4 วันรวด คือเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร ดังนี้

รอบ 16 ทีมสุดท้าย
คืนวันเสาร์ 3 ธันวาคม
Match 1 : Netherlands VS USA (22.00)
Match 2 : Argentina VS Australia (02.00)

คืนวันอาทิตย์ 4 ธันวาคม
Match 3 : France VS Poland (22.00)
Match 4 : England VS Senegal (02.00)

คืนวันจันทร์ 5 ธันวาคม
Match 5 : Japan VS Croatia (22.00)
Match 6 : Brazil VS Korea (02.00)

คืนวันอังคาร 6 ธันวาคม
Match 7 : Morocco VS Spain (22.00)
Match 8 : Portugal VS Switzerland (02.00)

เมื่อดูจากทีมที่เข้ารอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย เรามาลองเช็คประชากรเด็กผีกันว่า สโมสร Manchester United เหลือผู้รอดชีวิตเป็นเด็กๆเราอีกกี่คน ไล่เรียงตามนี้เลย

คนที่ 1. Tyrell Malacia : Netherlands

เด็กหนุ่มวิงแบ็คซ้ายที่ถูกเรียกไปติดเอาประสบการณ์เฉยๆ เพราะอาจารย์หลุยส์ไม่เห็นค่าความสำคัญของเขา ทั้งๆที่มาลาเซียจะเติมเกมรุก เติมความสดแทนดาลีย์ บลินด์ ได้เป็นอย่างดี เราถึงเห็นว่าเกมรุกฮอลแลนด์บอดสนิทขนาดนั้น ที่รอดมาได้เพราะแฟรงกี้ เดอ ยอง คอมโบกับว่าที่เด็กผี "โคดี้ กัคโป" ล้วนๆ

คนที่ 2. Lisandro Martinez : Argentina

"เดอะบุชเชอร์" ที่เข้ารอบมากับทีมฟ้าขาวนั้น ถูกมองข้ามไปอีกครั้งในเกมนัดสาม เมื่อ Lionel Scaloni เมินใช้งาน Licha อีกครั้งในเกมชนะโปแลนด์ 2-0

การเจอกับออสเตรเลียที่ไม่ได้มีเกมรุกดีมากนัก และดูจากลักษณะการเลือกจัดตัวของสกาโลนี่ เชื่อว่ามาร์ติเนซของพวกเราจะโดนเมินอีกครั้งเป็นนัดที่สามแน่ๆ

ก็เดี๋ยวนัดไหนเจอคู่แข่งเจาะก็รู้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

คนที่ 3-6. Casemiro Fred Antony Alex.Telles : Brazil

ชุมชนบราซิลเลียนยังคงเหนียวแน่นกันเหมือนเดิม เมื่อมีเด็กผีทั้งหมด 4 คนที่อยู่ในทีมชุดนี้ ยังเหลือรอดและน่าจะได้เดินทางไปกับบราซิลยาวๆ ล่าสุดก็เป็น Fred Antony และ Alex ที่ได้ลงในเกมที่บราซิลชุด B ทั้ง 11คน แพ้แคเมอรูน 1-0 เพราะเจออิทธิฤทธิ์การเซฟอุตลุดของ Devis Epassy โกลแคเมอรูน จนพวกเขาชนะไปได้

ยังไงก็ตาม ในนัดสำคัญอย่างเกมน็อคเอาท์ คงจะเป็นการลงเล่นของ "มิดฟิลด์ตัวรับที่เก่งที่สุดในโลก" (ฟีลประมาณชายตาเหยี่ยวจัดๆ) อย่าง Casemiro ที่จะเป็นตัวจริงในเกมเจอเกาหลีใต้อีกครั้ง

ทีมโสมขาวมีพลังการเล่นเกมรุก การเติมเกม และความจี๊ดจ๊าด คาเซมิโร่คงต้องรับมือกับตัวรุกอย่าง ฮวัง ฮี-ชาน กับซน ฮึง-มิน อย่างสนุกสนานแน่นอน

คนที่ 7-9. Luke Shaw, Harry Maguire, Marcus Rashford : England

สามนักเตะแมนยูไนเต็ด ณ แคมป์ทรีไลอ้อนส์ โชว์ฟอร์มได้สุดเดือดส์ทุกราย ทั้งลุค ชอว์ที่เล่นได้อย่างทรงประสิทธิภาพ / แฮรี่ แมกไกวร์ ที่นิ่งและเยือกเย็นจัดๆยังกะมนุษย์น้ำแข็ง (ชมจริงๆนะ ฟอร์มแมกไกวร์คือเล่นโคตรชัวร์) และสุดยอดดาวยิงที่กดอัลติสำเร็จในนัดล่าสุด "มาร์คัส แรชฟอร์ด"

สามคนนี้มีบทบาทสำคัญกับทีมชาติอังกฤษของแกเร็ธ เซาธ์เกต แน่นอน โดยชอว์กับแมกไกวร์ลงตัวจริงแน่ และแรชฟอร์ด น่าจะได้ใช้เป็นตัวสำรองรายแรกสุดที่เซาธ์เกตจะมองหา ยามที่ต้องการประตูให้ทีมชาติอังกฤษ

ดูขุมกำลังและการเล่น น่าจับไปเจอฝรั่งเศสไวๆทีเดียวเจียว

คนที่ 10. Raphael Varane : France

ราฟาเอล วาราน เป็นนักเตะคนสำคัญที่ต้องดูว่า ดิดิเยร์ เดส์ฌ็องส์ จะนำเขาลงเล่นเป็นตัวจริงได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ หรือวารานจะบาดเจ็บกลับมาสโมสรอีกครั้ง -*-

แต่จริงๆนั่นเป็นเรื่องอนาคต การลงแข่งขันแมตช์ชิงแชมป์กันจริงจังนั้น การต้องเสี่ยงเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอแค่ให้วารานได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง เรียกความฟิตกลับมาให้เต็มที่ก็พอ รวมถึงฟอร์มอันแข็งแกร่งด้วย

เรื่องความกรอบไม่ต้องห่วง ทีมชาติฝรั่งเศสมีตัวเปลี่ยนในแผงกองหลังค่อนข้างเยอะ เราอาจจะได้เห็นวารานเป็นตัวจริง และท้ายเกมเขาอาจจะถูกเปลี่ยนตัวโดยเพื่อนร่วมทีมได้ 

ไม่น่าห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บ เรามาดูกันดีกว่าว่า วารานจะไปได้ไกลเพียงไหนกับทัพเลอเบลอส์ปีนี้

คนที่ 11. คนที่ 12. Bruno Fernandes และ Diogo Dalot : Portugal

คณะฝอยทองของเรา ยังมีนักเตะคนสำคัญที่แบกทีมจัดๆเหลืออยู่ หนึ่งในนั้นคือนักเตะที่ฟอร์มยอดเยี่ยมเข้าขั้น World Class ในทัวร์นาเมนต์นี้ ที่ 2 นัด ทำไป 2ประตู+2แอสซิสต์ "บรูโน่ แฟร์นันด์ส" เดอะยั๊วะที่บอลโลกครั้งนี้แทบไม่ยั๊วะเลย แต่ระบายออกด้วยฝีเท้าชั้นเทพ กับตำแหน่ง AM ที่ได้เป็นตัวทำเกมแดนบนซึ่งเขาถนัด และเหมาะสมจะใช้งานที่สุด

สังเกตว่าถ้าวันไหนโปรตุเกสเล่นในทรงที่ค่อนมาเป็น 4-3-3 มากกว่า 4-2-3-1 วันนั้นบรูโน่จะเล่นไม่ค่อยเปรี้ยง แต่ถ้าเขาได้ทำเกมรุกแบบเต็มๆ บรูโน่ทำได้ดีทุกครั้ง และผลงานเหนือชั้นกว่า "มิดฟิลด์ตัวรุกทั่วทัวร์นาเมนต์" อย่างแท้จริง ไม่มี AM คนไหนทำได้ดีไปกว่าเขาอีกแล้ว

สิ่งนี้ฟ้องถึงประสิทธิภาพในตัวบรูโน่อย่างมาก ขณะที่ดิโอโก้ ดาโลต์ ได้ลงเล่นตัวจริงครั้งแรกในเกมที่แพ้เกาหลีใต้ 1-2 แต่ดาโลต์ลงมาปุ๊บก็โชว์คลาสความเป็นวิงแบ็คขวาวัยรุ่นแนวหน้าของยุโรป ด้วย First Touch ชั้นยอด แตะบอลแค่ไม่กี่ครั้งแล้วปาดเข้ากลางให้ออร์ต้ายิงประตูอย่างรวดเร็วในเกมที่เพิ่งจบไปเมื่อคืน

ฟอร์มดีแบบชัดเจนขนาดนี้ ถึงเวลาให้เขาลงตัวจริงบ้างรึยัง? เฟอร์นันโด ซานโตส

ในยามที่คันเซโล่เล่นไม่ออกมาหลายนัด ใช้ดาโลต์ขวา คันเซโล่ซ้าย น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากในการจัดแบ็คที่ดีที่สุดลงสนาม

ทีมชาติโปรตุเกสยังได้ลุ้นดูสองคนนี้อีกระยะใหญ่ๆ แต่สาย B ค่อนข้างโหด เราก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปได้ถึงไหน

และนี่คือเด็กผีที่ยังเหลือรอดอยู่ในฟุตบอลโลกรอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย รวมทั้งหมด "12 คน" ถ้วน ถ้าผู้เขียนนับไม่ผิด ซึ่งหาก Prediction ถูกต้อง เรามีสิทธิ์ที่จะเหลือเด็กๆของแมนยูไนเต็ดเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ครบทั้ง 12 คนนี้ ก็..เป็น.ได้

รอบ 16 ทีมสุดท้ายจะซัดกันยาวๆ 4 วันรวด วันละสองคู่ จากนั้นจะหยุดพักสองคืนคือพุธ พฤหัส และเตะอีกทีในวันศุกร์ที่ 9 สองคู่รวด (4ทุ่มกับตี2) โดยคู่แรกคือผู้ชนะคู่ของสาย "A ล่าง" เตะกันก่อน นั่นก็คือผู้ชนะจาก ญี่ปุ่น-โครเอเชีย จะเจอกับผู้ชนะ บราซิล-เกาหลี

ใครโรคจิตๆหน่อยก็คงอยากจะเห็นรอบ 8 ทีมเป็นญี่ปุ่น-เกาหลี อารมณ์ประมาณเอเชียนคัพชัดๆ(ฮา) แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะเต็งหนึ่งอย่างบราซิลคงต้องย้อนใส่เราว่า "ถามกูรึยังเนี่ย?"


คู่ที่สองของคืนวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม (ศุกร์หน้า) คือผู้ชนะของสาย Aบน เนเธอร์แลนด์-อเมริกา กับ อาร์เจนติน่า-ออสเตรเลีย

คืนวันเสาร์หน้า คู่ 4 ทุ่ม จะเป็นผู้ชนะของสาย "B ล่าง" เตะกันก่อน ได้แก่ โมร็อกโค-สเปน และ โปรตุเกส-สวิสเซอร์แลนด์ และคู่ตี 2 คืนวันเสาร์คือ ผู้ชนะของสาย "B บน" อังกฤษ-เซเนกัล เจอกับผู้ชนะคู่ ฝรั่งเศส-โปแลนด์

แล้วก็จะพักกันอีกสองวัน อาทิตย์ จันทร์ จากนั้นจะเริ่มรอบรองกลางดึกคืนวันอังคารที่ 13 (เช้ามืด 14 ธันวาคม) และ กลางดึกคืน 14 เช้ามืดพฤหัส 15 อีกหนึ่งคู่

เราจะได้คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์ กันในเช้ามืดวันพฤหัสที่ 14 ธันวาคมนี้นั่นเอง

พักสองวัน จากนั้นวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม เวลา 4ทุ่ม ชิงที่ 3
และรอบชิงชนะเลิศ จะเตะกันเวลา "4 ทุ่ม" เช่นกันในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคมนี้ จะเป็นอันเสร็จสิ้นศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่น่าจะสนุกและดุเดือดตลอดเส้นทาง

สิ่งที่เราอยากเห็น คือการพลิกล็อคแบบเผ็ดแสบเผ็ดร้อนอีกครั้งในรอบ 16 ทีม

ฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 นี้ รอบแบ่งกลุ่มถือว่าดุเดือดที่สุดในฟุตบอลโลกรอบหลายสิบปีเลย ดีไม่ดีน่าจะเดือดสุดตั้งแต่หลายๆคนเคยผ่านการดูฟุตบอลโลกมาหลายสมัยก็ได้

ส่วนรอบน็อคเอาท์ที่กำลังจะเริ่มเตะคืนนี้ เป็นรอบ 16 ทีมที่ไม่มีคู่บิ๊กแมตช์เลยแม้แต่คู่เดียว ถ้าวิเคราะห์ว่าใครจะชนะ ดูตามชื่อชั้นคงเดาไม่ยากเท่าไหร่ว่าใครจะเข้ารอบ เพราะเกือบทุกคู่ค่อนข้างเห็นชัดว่า ทีมไหนเหนือกว่า

แต่ทัวร์นาเมนต์นี้น่าจะเป็นคำตอบแล้วว่า ทีมชื่อเสียงยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ร่วงได้ ไม่ใช่มะม่วงก็ร่วงได้เหมือนกันหมด

มีอยู่สองคู่ที่ต้องบอกว่า "เสียวไส้" ในการวิเคราะห์มากๆ บอกตรงๆว่าเป็นคู่ที่ไม่กล้าฟันธง นั่นก็คือ คู่ "ญี่ปุ่น VS โครเอเชีย" และ คู่ "โปรตุเกส VS สวิตเซอร์แลนด์"

ในยามที่เยอรมันกับสเปน ร่วงกันมาแล้วเพราะเปิดเกมบุกใส่ญี่ปุ่นโดยที่พลาดในภาคเกมรับ สามารถเจอทัพซามูไรบลูที่เปิดร่างสุดยอดกันล้วนๆ ทั้งร่างซุปเปอรไซย่า ปลดปล่อยสวัสดิกะ ฮาคิราชันย์ เปิดร่างอัลติ เปิดโหมดเซียน เปิดห้วงเวลาจักรพรรดิ ฯลฯ คือมากันแบบพระเอกการ์ตูนโชเน็นล้วนๆในเวลาสำคัญๆ

ต้องบอกว่าฟอร์มของญี่ปุ่นน่ากลัวมาก และอาจจะสร้างประวัติศาสตร์เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเลยก็ได้ เพียงแค่เรายังไม่สามารถฟันธงได้ เนื่องจากโครเอเชียเองมีลูกเก๋าเกมที่น่ากลัว ถ้าประตูมา ญี่ปุ่นอาจจะเจอเกมตึงจากสามมิดฟิลด์ที่เป็นสายควบคุมเกมจ๋าๆ แพ็คกลางจนทำให้พวกเขาเล่นยากก็ได้

นี่คือคู่แรกที่เดายาก ญี่ปุ่น VS โครเอเชีย จับตาดูให้ดีๆ

ส่วนคู่ที่สอง หลายคนอาจจะคิดว่าน่าจะแบเบอร์ แต่ "โปรตุเกส VS สวิตเซอร์แลนด์" ค่อนข้างน่ากลัวมากๆว่า สวิตเซอร์แลนด์มีหมัดน็อคอะไรบางอย่างที่สามารถเล่นงานคู่แข่งได้เหมือนกัน

แนวรุกของโปรตุเกสหลากหลาย และเล่นเกมรุกได้โหด ดุดัน เล่นได้น้ำได้เนื้อที่สุดทีมหนึ่งก็จริงอยู่ (ในทรรศนะส่วนตัวของผู้เขียน) แต่กลักัน แนวรับโปรตุเกสก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น

แล้วดูเซอร์เบียที่เล่นหลังสาม มีกองหลังกองกลางที่แข็งแกร่ง ยังโดนสวิสสอยร่วงมา 2-3 แล้วในเกมเมื่อคืนได้ โปรตุเกสก็น่าจะมีสิทธิ์โดนสอยร่วงเหมือนกัน

ขณะที่แนวรุกสวิสก็ไม่ได้ด้อยกว่าทีมฝอยทองเยอะนัก ทีมแดนนาฬิกามีตัวที่ฝากผีฝากไข้ได้อยู่หลายคน เช่น Breel Embolo กับ Xherdan Shaqiri

พร้อมด้วยตัวแสบอย่าง Xhaka ที่ยิงลูกไฟใส่ได้ตลอดเวลา แถมพกด้วยการเติมเกมของ Remo Freuler อีกที่เป็นคนขึ้นมายิงประตูที่สามในเกมชนะเซอร์เบีย ในรูปแบบ Team Goal ที่สวยสดงดงามมากๆ

โปรตุเกสเจอของแข็งอยู่พอสมควร

นั่นคือสองคู่ที่มีโอกาสพลิกได้ แต่ถ้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมเต็งสามารถใช้ความเหนือกว่าเก็บชัยชนะกันได้หมด รูปแบบของรอบ "8 ทีมสุดท้าย" จะเป็นเช่นนี้

สาย A

QF1 : Netherlands VS Argentina

QF2 : Japan VS Brazil

สาย B

QF3 : England VS France

QF4 : Spain VS Portugal

จากที่บอกว่า รอบ 16 ทีมสุดท้ายไม่มีบิ๊กแมตช์ นั่นเป็นผลดีที่ทำให้ทีมใหญ่ไม่เจอกันเอง และจะเข้ามา "ซี๊ดดดดส์อูยยย" กันในรอบ "Quarter-Final" กันแบบเบิ้มๆคือลือ ใหญ่ทุกคู่ บิ๊กแมตช์ทุกกระเบียดนิ้วสำหรับรอบ 8 ทีม

รอบ 8 มีโอกาสเป็น ฮอลแลนด์ VS อาร์เจน / ญี่ปุ่น VS บราซิล / อังกฤษ VS ฝรั่งเศส / สเปน VS โปรตุเกส

แต่สุดท้ายแล้ว เชื่อว่า ยังไงคู่ชิงก็น่าจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่ prediction เอาไว้ว่า ทีมที่มีโอกาสเข้าไปเป็นคู่ชิงมากที่สุด คือทีมที่แข็งแกร่งสุดของแต่ละสาย นั่นก็คือ บราซิล VS ฝรั่งเศส ในรอบชิงรีแมตช์ฟร๊องซ์'98

ทั้งนี้ทั้งนั้น ฟอร์มการเล่นของสเปนที่เพิ่งแพ้ญี่ปุ่นมา ไม่ได้แปลว่าคุณภาพเขาจะดรอปแต่อย่างใด เชื่อว่าถ้าสเปนใส่เต็มสูบ โอกาสที่โปรตุเกส หรือ ฝรั่งเศส ที่อยู่ซีกสาย B จะโดนดึงเข้าทางปืนสเปนก็ยังมีสูง สเปนเป็นทีมที่น่ากลัวมากๆ

โอกาสที่รอบชิงจะเป็น บราซิล VS สเปน ก็มีเช่นกัน

และทั้งหมดที่เขียนนี่คือการคาด "เดา" วิเคราะห์ตามหน้ากระดาษเฉยๆเท่านั้น ว่า ใครมีลุ้นเข้ารอบลึกๆบ้างจากการคาดการณ์เบื้องต้น

แต่เรื่องจริงไม่มีทางแม่นหรือถูกต้องตามนี้หรอกครับ เพราะถ้าฟุตบอลมันเดาง่ายขนาดนั้น ป่านนี้คนรวยกันหมดแล้ว(ฮา)

บอลมันลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ พลิกล็อคได้ตลอดเวลา เพราะแบบนี้แหละ ฟุตบอลมันถึงสนุกและมีเสน่ห์ไงล่ะ

รอบน็อคเอาท์จะเตะแล้วคืนนี้ พร้อมลุยกันรึยังวัยรุ่น!

-ศาลาผี-