หงส์แดงใช้เวลาในช่วงเบรคบอลโลกไม่ให้สูญเปล่าด้วยการลงเล่นในฟุตบอลอุ่นเครื่องรายการ ดูไบ ซูเปอร์ คัพ ที่เป็นรายการพิเศษที่จัดขึ้นมาโดยนำ 4 ทีมดังอย่าง ลิเวอร์พูล, ลียง, มิลาน และ อาร์เซน่อล มาเตะอุ่นเครื่องลองทีม แต่มีการเก็บคะแนนและมีถ้วยแชมป์ให้สำหรับผู้ชนะด้วย
เดิมทีฟุตบอลรายการที่ชื่อ ดูไบ ซูเปอร์ คัพ นั้นเคยจัดมาแล้ว 3 ครั้งในช่วงปี 1986-1989 ซึ่งต้องท้าวความก่อนว่า ในอดีตจะมีประเพณีสำคัญของวงการลูกหนังอังกฤษกับสกอตแลนด์ก็คือ นำทีมแชมป์ของแต่ละประเทศมาเตะกันเพื่อหาว่าทีมไหนที่เก่งกว่ากัน เรียกได้ว่าเตะกันจนเป็นประเพณีและผลการแข่งขันค่อนข้างจริงจัง
แต่จากเหตุการณ์ที่เฮย์เซลเมื่อปี 1985 ซึ่งมีผลทำให้ทีมจากอังกฤษถูกแบนห้ามร่วมสังฆกรรมในเวทียุโรป และส่งผลถึงการเตะกับทีมจากลีกอื่นในบ้านตัวเองอีกด้วย นั่นจึงทำให้ฟุตบอลประเพณีของแชมป์ลีกอังกฤษกับแชมป์ลีกสกอตแลนด์ต้องโยกมาเตะกันไกลถึงดูไบ จนกลายเป็นชื่อ ดูไบ แชมเปี้ยนส์ คัพ หรือ ดูไบ ซูเปอร์ คัพ ที่เตะกันทั้งสิ้น 3 ฤดูกาล ซึ่ง ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ไปหนึ่งครั้งตอนฤดูกาล 1996-1987
ทว่า กับ ดูไบ ซูเปอร์ คัพ ในครั้งนี้ แม้จะเป็นชื่อเดียวกันก็จริงแต่รูปแบบและความสำคัญแตกต่างจากในช่วงยุค 80 อย่างสิ้นเชิง เพราะในครั้งนี้ถูกบรรจุว่าเป็นเกมอุ่นเครื่อง อีกทั้งยังมีทีมเข้าร่วม 4 ทีม และไม่ได้จำกัดแค่ทีมจากสกอตต์กับอังกฤษอีกต่อไป นั่นจึงทำให้มีทีมลงโม่แข้งเป็นทีมจากอังกฤษ 2 ทีม จากฝรั่งเศส และจากอิตาลีอีกอย่างละทีมแบบที่เห็น
ลิเวอร์พูล ประกาศรายชื่อนักเตะที่ไปร่วมทัพใน ดูไบ ซูเปอร์ คัพ ออกมาเรียบร้อยแล้ว จำนวน 33 คน มีดังนี้
อาเดรียน, เคลเลเฮอร์, เดวีส, โมรเซ็ค, ปิตาลูก้า, ซาลาห์, มิลเนอร์, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจนส์, เอลเลียตต์, ซิมิกาส, แรมพ์ซีย์, โรเบิร์ตสัน, คาร์วัลโย่, บาจเซติช, ฟิลลิปส์, กอร์ดอน, เกอิต้า, มาติป, โกเมซ, โชต้า, อาร์ตูร์, ดิอาซ, ติอาโก้, เฟอร์มิโน่, แชมเบอร์ส, ควานซาห์, คลาร์กส์, เฟราเอ็นดอร์ฟ, สจ็วร์ต, โด๊ค, เคน และ คอร์เนสส์
สำหรับรายการนี้จะแข่งทั้งหมด 8 วัน โปรแกรมการแข่งขันจะไล่เรียงตามนี้ครับ
8 ธันวาคม: อาร์เซนอล 3-0 ลียง (แข่งไปแล้ว)
11 ธันวาคม: ลิเวอร์พูล พบ ลียง – 21.00 น.
13 ธันวาคม : อาร์เซนอล พบ เอซี มิลาน – 21.00 น.
16 ธันวาคม : ลิเวอร์พูล พบ เอซี มิลาน – 23.30 น.
ส่วนรูปแบบการแข่งขันจะเป็นระบบลีก ซึ่งแต่ละทีมจะเล่น 2 นัด มีกฏกติกาคือทีมชนะได้ 3 คะแนน, เสมอได้ทีมละ 2 คะแนน และจะมีการดวลจุดโทษตัดสินทันทีหากเสมอกัน ทีมที่ชนะจุดโทษจะได้เพิ่มอีก 1 คะแนน ทีมไหนมีคะแนนสะสมมากที่สุดก็ได้แชมป์รายการนี้ไป
นักเตะ ลิเวอร์พูล อย่าง หลุยส์ ดิอาซ, ดิโอโก้ โชต้า, นาบี เกอิต้า และ อาร์ตูร์ เมโล่ แม้ว่าจะมีชื่อไปด้วย แต่คงแยกซ้อมเพื่อทำการฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บของพวกเขา และมีข่าวว่า ดาร์วิน นูนเญซ ที่เพิ่งตกรอบจากฟุตบอลโลกก็จะตามมาสมทบด้วยเช่นกัน
เดอะ ค็อป สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง LFCTV และ LFCTV GO ซึ่งจบจากรายการนี้ก็เตรียมตัวกลับมาอังกฤษเพื่อรอเล่นเกมคาราบาว คัพ ที่จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 22 ธันวาคม
รายการ ดูไบ ซูเปอร์ คัพ จะเตะกันที่สนาม อัล-มัคตูม สเตเดี้ยม แค่สนามเดียวสนามแห่งนี้มีความจุประมาณ 15,000 ที่นั่ง และยังเป็นสนามเหย้าของสโมสร อัล-นาเซอร์ เอสซี จากยูเออี โปร ลีก อีกด้วย
ความพิเศษของสนามแห่งนี้ก็คือ ลิเวอร์พูล ในยุคของ บ็อบ เพสลีย์ เคยเดินทางมาเปิดสนามนี้ในปี 1978 โดยตอนนั้นเป็นเกมอุ่นเครื่องกับ อัล-นาเซอร์ ซึ่ง ลิเวอร์พูล ชนะไป 5-0 โดยโคลิน เออร์วิน และเรย์ เคนเนดี้ ทำคนละสองประตู และอีกประตูเป็นของ อลัน แฮนเซ่น
ดูไบ ซูเปอร์ คัพ อาจเป็นแค่รายการอุ่นเครื่องที่ดูธรรมดา แต่ในแง่ของการรักษาความฟิตและการเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกในฤดูกาลที่เหลือนั้น ถือว่าสำคัญพอสมควรเลยทีเดียว
แชมป์ไม่สำคัญเท่ากับรูปแบบการเล่นและความพร้อม นี่จึงเป็นเหตุผลที่เดอะค็อปเมืองไทย ควรจับตาดูเกมทั้งสองนัดให้ดี และไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
