:::     :::

ฟาติ : ผมทดสอบฝีเท้ากับมาดริด แต่ บาร์ซ่า คือตัวเลือกที่ดีที่สุด

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อันซู ฟาติ ใช่เวลาว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟร้องซ์ฟุตบอลของ ฝรั่งเศส ถึงก้าวแรกๆในชีวิตค้าแข้งของเขา ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะตัวหลักของ บาร์เซโลน่า และติดทีมชาติสเปน สร้างชื่อเสียงในฐานะวันเดอร์คิดของวงการ ในวัย 20 ปี ฟาติ ถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญของ บาร์เซโลน่า อย่างเต็มตัวเทียบเคียงกับดาวรุ่งรุ่นน้องอย่าง ปาโบล กาบี และ เปดรี วันนี้เรามาพูดคุยกับเขากัน

ถาม : ช่วงแรกของชีวิตที่ กีนี-บิสเซา ?

ฟาติ : ผมเริ่มเล่นฟุตบอลที่ข้างถนนกับลูกพี่นี่ลูกน้องตอนอายุ 3 ขวบที่ กีนี-บิสเซา พวกเด็กๆมีอิสระตั้งแต่พวกเขาเริ่มจะเดินได้เลยทีเดียว ผมยังจำได้ว่าแม่ต้องคอยมาเรียกว่าอาหารเย็นเสร็จแล้ว , เราเตะบอลกันเท้าเปล่า ส่วนคนที่มีมากหน่อยก็แค่สวมรองเท้าแตะพลาสติก เราเอาถุงเท้ามาม้วนรวมๆกันเพื่อทำเป็นลูกฟุตบอล บางครั้งเราก็ได้ลูกบอลยางกลับคืนมา แต่เมื่อไหร่ที่เราเตะมันไปโดนของมีคมทุกอย่างก็จบลงแค่นั้น 


ถาม : ความสนใจจาก เรอัล มาดริด ?

ฟาติ : ผมเข้าร่วมในการแข่งขันฟุตซอลเกือบทั่วประเทศสเปน เราคว้าแชมป์รายการนึงในมาดริด ซึ่งมีทั้ง เรอัล มาดริด,เคตาเฟ่,แอตเลติโก เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับ บาร์เซโลน่า ผมเคยไปทดสอบฝีเท้ากับ เรอัล มาดริด แต่ตอนนั้นสโมสรยังไม่มีที่พักให้กับนักเตะเยาวชน

หลังจากปรึกษากับแม่ เราก็ตัดสินใจกันว่า บาร์เซโลน่า คือตัวเลือกที่ดีที่สุด, กับ ลา มาเซีย ทั้งในแง่ของฟุตบอลและสำหรับการศึกษาของผม 


ถาม : การเติบโตในรั้ว ลา มาเซีย ?

ฟาติ : ผมจำได้ว่าผมเห็น ลา มาเซีย ด้านข้าง ก่อนที่จะเราจะเดินทางถึงเมืองบาร์เซโลน่า ยิ่งเราเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกประหม่ามากขึ้นเท่านั้น ตอนแรกผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมอยากมาที่นี่จริงๆ แต่หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ ผมไม่อยากจากที่นี่ไปไหนแล้ว ! ผมมาอยู่ที่ ลา มาเซีย ในปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงที่สโมสรได้เปิด นิว ลา มาเซีย ใหม่ๆ ในช่วงเวลาที่สโมสรกำลังอยู่ในจุดสูงสุด  

สิ่งอำนวยความสะดวกในนั้นทันสมัยมาก มีห้องให้เล่นเทเบิ้ลเทนิส, ห้องเต้นรำ... ,มีสิ่งต่างๆที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งสำหรับการมาอยู่ที่ ลา มาเซีย และทำงานกับเทรนเนอร์ที่ยอดเยี่ยม 

ผมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอล ซึ่งเป็นการเล่นที่ต้องอาศัยการเลี้ยงบอลเยอะมาก  และในช่วงนั้นผมชอบที่เล่นท่า ‘sombreros’ (กระดกบอลข้ามหัว) , ท่า ‘flip-flap’ (เกี่ยวบอลสองจังหวะด้วยเท้าข้างเดียว) 

แต่ มาร์ก เซร์ร่า เทรนเนอร์คนแรกของผมที่ ลา มาเซีย ทำให้ผมเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าสโมสรที่ผมเพิ่งมาอยู่ด้วยนี้ ตลอดเกมการเเข่งขันคุณจะต้องให้ความเคารพคู่ต่อสู้  

นอกจากนี้เขายังสนับสนุนให้ผมพยายามยิงประตูให้ได้เยอะๆ แล้วก็อย่าไปเสียเวลาทหลอกทางแบบนั้น 


ถาม : การประเดิมสนามให้กับ บาร์เซโลน่า ?

ฟาติ : สัปดาห์นั้นผมไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่ ผมค่อนข้างเครียดเลยทีเดียว ผมฝันถึงช่วงเวลานั้นมาตลอดหลายปี และทุกอย่างมันกำลังจะเกิดขึ้นจริงอย่างเร็วเกินคาด ผมจินตนาการมากมายหลายครั้งถึงการลงเล่นใน คัมป์ นู และยิงประตูที่นั่น

ในอุโมงค์ ก่อนที่จะลงไปวอร์มอัพ (เกมพบกับ เรอัล เบติส) ยอร์ดี้ อัลบา จับไหล่ของผมและดันผมเดินลงไปในสนามพร้อมๆกับเขา การที่นักเตะอย่างเขา ให้กำลังใจคุณในช่วงเวลาเช่นนี้มันเป็นอะไรที่สวยงามมาก 

ตอนนั้นผมกำลังประม่าแต่เขา (อัลบา) ช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย , หลังจากนั้นผมก็ได้มาอยู่ในห้องแต่งตัวที่มีแต่สุดยอดนักเตะของโลก 

ในตอนที่ มิสเตร์ (คำเรียกเทรนเนอร์ของนักเตะสเปน) บอกให้ผมออกไปวอร์ม หัวใจผมเริ่มต้นอย่างรุนแรง แฟนบอลที่นั่งใกล้กับซุ้มม้านั่งสำรองต่างปรบมือให้ผม และในช่วงเวลาที่ผมกำลังจะลงสนาม ผมยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองกำลังฝัน ชีวิตผมเปลี่ยนไปเลยนับจากนั้น 


ถาม : ความสัมพันธ์และการปฏิบัติของ เมสซี่ ?

ฟาติ : หลังจากเกมประเดิมสนามของผมในนัดกับ เบติส เลโอ ได้มารอเราที่ห้องแต่งตัวเพื่อแสดงความยินดีกับชัยชนะ ตอนที่ผมมาถึง ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์ที่เขาดึงผมเข้าไปกอด, ช่างภาพประจำทีมได้ถ่ายรูปเราสองคนเอาไว้ และหลังจากนั้น เลโอ ก็อัพมันขึ้นอินสตราแกรม 

และด้วยแฟนๆที่ติดตามเขา แน่นอนว่ามีคนมากมายชอบรูปนั้น และเริ่มมา follow ผม หลังจากนั้น ผมก็ได้รับ notification นับล้านครั้งในมือถือ มันเป็นอะไรที่บ้ามากๆ ผมไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้นเลย และผมจะรู้สึกขอบคุณเขาไปตลอดกาล ว่านักเตะระดับซูเปอร์สตาร์อย่างเขาทำในสิ่งที่สำคัญมากๆต่อผม 

ผมเก็บรูปที่สวยงามนั้นไว้ที่บ้านเพื่อดูมันตลอดไป , ผมจำได้ว่า โรนัลดินโญ่ เองก็เคยทำแบบนี้ในช่วงแรกที่เขาเริ่มต้น และเขาทำแบบเดียวกันนี้กับผม ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจอย่างแท้จริงให้กับผม 


ถาม : การถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติสเปน ?

ฟาติ :  ตอนที่ หลุยส์ เอ็นรีเก้ โทรหาผมเป็นครั้งแรก, ในเดือนสิงหาคมปี 2020 ตอนนั้นผมพักร้อนอยู่ที่โปรตุเกสกับ มาร์ก เพื่อนของผม เราออกจากโรงแรมเพื่อที่จะไปใช้เวลาที่ชายหาด และผมกำลังรอเขาอยู่ในรถ 

ทันใดนั้นเอง เพื่อนผมก็วิ่งออกมาแล้วก็ทักทายผมพร้อมกับตระโกนว่า “อันซู, โน,โน,โน” ซึ่งทีแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากนั้น ผมก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวที่เราคุยกันเมื่อคืนได้ 

กับ มาร์ก ผมคุยเรื่องฟุตบอลกับเขาในทุกๆมิติ แต่ความจริงเราไม่เคยคุยเรื่องติดทีมชาติกันเลย ซึ่งต่อมาผมก็ต้องหยุดการพักร้อนของเราเอาไว้แค่ตรงนั้น แต่เพื่อทีมชาติแล้ว ไม่มีปัญหาเลย 


เจมส์ ลา ลีกา 

แปล & เรียบเรียง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด