เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ จากโนเนมสู่แชมป์โลก และเป้าหมายหลักของหงส์แดง
เอ็นโซ่ เจเรเมียส เฟร์นานเดซ คือชื่อเต็มของแข้งพรสวรรค์สูงวัย 21 ปีชาวอาร์เจนตินา เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 6 ขวบกับทีมท้องถิ่น ก่อนจะขยับมาอยู่กับ ริเวอร์ เพลท ตอนอายุ 13 และไต่เต้าในทีมเยาวชนเรื่อยมา จนได้รับโอกาสสัมผัสเกมชุดใหญ่ครั้งแรกตอนปี 2019 จากการให้โอกาสของ มาร์เซโล่ กัลลาร์โด้ กุนซือหนุ่มวัย 46 ปี
เอ็นโซ่ เคยถูกปล่อยยืมไปเล่นกับ ดีเฟนซ่า วาย จัสตีเซีย ทีมในระดับท็อป ๆ ของลีกฟ้าขาวเพื่อสั่งสมประสบการณ์อยู่ 1 ฤดูกาล ซึ่งที่นั่นเขาได้ทำงานร่วมกับ เอร์นาน เครสโป อดีตกองหน้าชื่อดังของอาร์เจนตินา
เอ็นโซ่ ลงสนามในฐานะแข้งยืมตัวไป 33 นัด ยิงได้ 1 ประตู คว้าแชมป์บอลถ้วย 2 รายการ อีกทั้งยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมในถ้วย โคปา ซูดาเมริกาน่า ปี 2020 อีกด้วย และจากฟอร์มการเล่นดังกล่าว ทำให้เมื่อกลับไป ริเวอร์ เพลท ตอนปี 2021 เขาจึงเบียดเข้าไปอยู่ใน 11 ตัวจริงของทีมได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
ฟอร์มของ เอ็นโซ่ โดดเด่นเกินวัยและได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลายต่อหลายนัด เขาเคยเป็นฮีโร่ในเกมชนะ เบเลซ ซาฟิลด์ ด้วยการยิง 1 แอสซิสต์ 1 มาแล้ว อีกทั้งยังมาเปล่งประกายมากขึ้นในปี 2022 จากการยิงได้ถึง 10 ประตู 6 แอสซิสต์ จากการเล่น 26 นัดในครึ่งฤดูกาลแรกของลีกฟ้าขาว
ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ชื่อของ เอ็นโซ่ ถูกเชื่อมโยงกับทีมในยุโรปมากมายหลายทีม ไม่ว่าจะเป็นสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง ซิตี้ กับ ยูไนเต็ด รวมถึง ลิเวอร์พูล ที่มีข่าวจริงจังกว่าใคร โดยทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งแมวมองไปตามฟอร์มมานานแล้ว แต่สุดท้ายกลับเป็น เบนฟิก้า ทีมดังจากโปรตุเกสที่ปาดหน้ายักษ์ใหญ่ทั้งหลายมาคว้าตัวไปร่วมทัพในราคา 10 ล้านยูโรพร้อมโบนัสแอดออนอีก 8 ล้าน เซ็นสัญญา 5 ปี และใส่ค่าฉีกสัญญาไว้สูงถึง 120 ล้านยูโร ซึ่งนั่นเป็นการการันตีว่าแข้งรายนี้นั้นมีความสำคัญต่อทีมมากเพียงใด
เอ็นโซ่ ไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยกับการเล่นในยุโรป เขายึดตัวจริงในทีม เบนฟิก้า ได้อย่างง่ายดาย ลงเล่นในลีกฝอยทองไปแล้ว 13 นัด ยิง 1 แอสซิสต์ 3 จ่ายบอลสำเร็จ 1,102 ครั้ง มีเปอร์เซ็นต์ความแม่นยำ 90%, สร้างโอกาสให้ทีม 25 ครั้ง และตัดบอลแย่งบอลได้ 13 ครั้ง สูงในลำดับต้น ๆ ของทีม อีกทั้งยังได้รางวัลกองกลางยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคมอีกด้วย
ก่อนหน้าที่ฟุตบอลโลกจะเริ่ม เอ็นโซ่ ถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่มาแค่ 3 นัดเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องทั้งสิ้น ลงสนามรวมกันแค่ 99 นาที แต่ถึงอย่างนั้น ลิโอเนล สคาโลนี่ ก็ยังหนีบเขามาร่วมทัพในฟุตบอลโลกด้วย ถือว่าเป็นแข้งที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับสื่อในบ้านเกิดพอสมควร
เขาเริ่มต้นฟุตบอลโลกด้วยการลงสำรองในเกมที่แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 ก่อนจะแจ้งเกิดเต็มตัวคือในเกมต่อมากับเม็กซิโก ซึ่งเขาลงสำรองอีกครั้งแต่เป็นคนทำประตูปิดกล่องพาทีมชนะ 2-0 และจากฟอร์มในเกมนั้นทำให้นัดชี้ชะตากับโปแลนด์ เอ็นโซ่ ได้ออกสตาร์ตตัวจริงทันที ก่อนจะไม่ทำให้กุนซือผิดหวังเมื่อเป็นคนทำแอสซิสต์ให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงประตู 2-0 อย่างยอดเยี่ยม
หลังจากเกมนัดนั้น เอ็นโซ่ กลายเป็นตัวจริงของทัพฟ้าขาวในรอบน็อคเอ้าท์เรื่อยไปจนถึงนัดชิง ก่อนจะผงาดคว้าแชมป์โลกได้ในที่สุด โดยเขาเล่นได้เด่นมากในแดนกลาง และเป็นคีย์แมนสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้เลย
ลิโอเนล เมสซี่ เองพูดถึงเด็กคนนี้ว่า "ผมรู้จัก เอ็นโซ่ เป็นอย่างดี ผมเคยเล่นกับเขาในถ้วย แชมเปียนส์ ลีก มาแล้ว เกมนั้นเขาทำให้แดนกลางของเราเจองานหนักเลยล่ะ เขาสมควรได้รับมัน เพราะเขาเป็นเด็กที่น่าทึ่ง เป็นผู้เล่นที่สำคัญมากสำหรับเรา เขามีอนาคตที่ดี และเป็นสมบัติสำคัญของอาร์เจนตินาในระยะยาว"
จากฟอร์มที่กำลังพีคในตอนนี้ ทำให้ชื่อของ เอ็นโซ่ กลับมาอยู่ในตลาดซื้อขายอีกครั้ง โดยทาง เดียรีโอ ลา กาปีตาล สื่อฟ้าขาวกระพือข่าวว่า ลิเวอร์พูล คือทีมที่จริงจังมากที่สุดและมีโอกาสที่จะทุ่มเงินคว้าตัวไปร่วมทีมในตลาดเดือนมกราคมนี้ หลังจากที่ คล็อปป์ มีปัญหานักเตะเจ็บหลายคน ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ นี่คือนักเตะที่ คล็อปป์ มองมานานแล้ว ดังนั้นก็มีโอกาสไม่น้อยเลยที่จะกลับมาจีบอีกครั้ง
ยิ่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เอ่ยปากมาแล้วว่าพร้อมลงตลาดซื้อขายอีกครั้งในเดือนมกราคมนี้ ไม่แน่เหมือนกันนะครับว่านักเตะที่เขาหมายปองไว้ อาจมีชื่อว่า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก็เป็นได้