:::     :::

การเริ่มต้นใหม่กับ "คริสเตียน อิริคเซ่น"

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,196
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สำหรับคริสเตียน อิริคเซ่นดาวเตะมากประสบการณ์ ที่นำความสามารถ และวิสัยทัศน์ในสนามแข่งขัน เข้ามาช่วยพลพรรคปีศาจแดงให้สามารถทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมในเวลานี้ ทำให้แฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าเอามากๆ 


ช่วงนี้ เราลองไปย้อนดูการเริ่มต้นใหม่ของเขากันหน่อยว่า จากนักเตะที่เคยเกือบเสียชีวิตในสนามแข่งขัน เขาสามารถยืนหยัด และคัมแบ็คกลับมาได้อย่างไร แน่นอนว่า มันอาจกลายเป็นเรื่องราวที่แปรเปลี่ยนเป็นกำลังใจให้ใครหลายคนก็เป็นได้ 

ผมจำได้ทุกอย่าง ... ยกเว้นช่วงเวลาที่ผมก้าวไปสู่ความตายอิริคเซ่น เริ่มเล่า


ช่วงเย็นของวันที่ 12 มิถุนายน 2021 เขานอนอยู่บนเตียง ที่โรงพยาบาลในกรุงโคเปนฮาเก้น ห่างออกไป 1 ไมล์ ทีมชาติเดนมาร์ก กำลังลงเตะกับทีมชาติฟินแลนด์ ในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย โดยเป็นการกลับมาเตะกันต่อในช่วงเวลาที่เหลือ โดยเขาชมการแข่งขันผ่านโทรทัศน์ที่อยู่ในห้องผู้ป่วย ผลสุดท้าย เพื่อนร่วมทีมโคนมของเขาพ่ายไป 0-1


ผมเห็นเกมที่สนามพาร์เค่น ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ภายในห้องพัก ผมได้ยินเสียงบรรยากาศจากเตียงนอนที่โรงพยาบาลเขาย้อนความทรงจำในวันนั้นผมสูญเสียช่วงเวลาเหล่านั้น ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น


สิ่งที่เพื่อนร่วมทีมของเขาได้เห็นคือ เหตุการณ์ที่น่าวิตกมากสุดเหตุการณ์หนึ่งในโลกลูกหนัง หลังจากที่กำลังรับบอลทุ่มจากเพื่อนร่วมทีม เขาล้มลงไปนอนกับพื้นสนาม อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เกิดจากการปะทะ และไม่มีใครอยู่ใกล้เขา เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ ... เขาประสบกับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน


ผู้เล่นทีมชาติเดนมาร์ก ร่วมกันยืนล้อมวงเป็นกำแพงมนุษย์ เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวให้เขา ทั้งจากสายตาของแฟนบอลราว 15,200 คนที่สนามพาร์เค่น รวมถึงผู้ชมหลายล้านที่กำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่หน้าจอทีวี ทีมแพทย์สนามรีบเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน เครื่องกระตุ้นหัวใจถูกใช้งาน และการนวดหัวใจถูกเข้ามาเสริม เพื่อให้ชีพจรของเขากลับมาเต้นอีกครั้ง .... เพียงไม่นาน เขาก็รู้สึกตัว


ผมรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังกดลงมาที่ตัวผมเขากล่าวต่อผมต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อให้หายใจได้อีกครั้ง จากนั้น ผมได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของทีมงานแพทย์ ผมคิดในใจว่า ผมยังแข็งแรงดี ความคิดแรกของผมคือ ผมสามารถขยับขาได้หรือไม่ ? ผมสามารถขยับนิ้วเท้าได้หรือไม่ ? ช่วงเวลาเหล่านั้น ผมจดจำมันได้ทั้งหมด ยกเว้นช่วงเวลาที่หัวใจหยุดเต้นไป ราวกับผมไปสวรรค์แล้ว

อิริคเซ่น เล่าเหตุการณ์หลังจากนั้นว่าเมื่อผมฟื้นขึ้นมา หลังจากได้รับการทำซีพีอาร์ เหมือนกับผมตื่นจากความฝันเลยล่ะ ปกติแล้ว คุณจะจำความฝันได้ แต่ผมจำอะไรไม่ได้เลย ในช่วงที่ผมหมดสติไป ผมดิ้นรนในการหายใจ จากนั้น ผมก็เห็นแพทย์มายืนรายล้อม และได้ยินเสียงของพวกเขา


ผมจำบรรยากาศได้ดี มีผ้าลินินสีขาวอยู่รอบตัวผม เพื่อบังผมให้พ้นสายตา ผมเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับเห็นแฟนบอลร้องเพลง ก่อนที่ผมจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ช่วงเวลาที่ผมอยู่บนรถพยาบาล ผมถึงรู้ว่าผมก้าวไปหาความตาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งถามแพทย์ประจำทีมว่า -เขาหมดสติไปนานแค่ไหน ?- แพทย์ของเราตอบว่า -ประมาณ 3-4นาที-”


ระหว่างการเดินทางไปโรงพยาบาล เขาตัดสินใจทิ้งรองเท้าสตั๊ดในวันเกิดเหตุ เขาไม่ต้องการอีกแล้ว เพราะคิดว่าตัวเองอาจไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เขาถูกติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจแบบฝังลงไป (ไอซีดี) ทำให้เขามองโลกในแง่ดีมากขึ้น


ผมต้องผ่านการทำแบบทดสอบมากมาย พร้อมกับพูดคุยกับทีมแพทย์ว่า อะไรที่ผมสามารถทำได้ และทำไม่ได้ หมอบอกผมว่า การที่ผมมีเครื่องกระตุ้นหัวในร่างกาย ทำให้ผมใช้ชีวิตปกติได้เหมือนคนทั่วไป กระนั้น ผมก็ไม่อยากหักโหมมากเกินไป ผมไม่อยากเสี่ยงอีกแล้ว


นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงต้องผ่านการทดสอบหลายครั้ง สิ่งที่ผมทำอยู่ในเวลานี้ จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับผมในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยที่การถูกฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ ผู้คนสามารถวิ่งมาราธอน, ดำน้ำลึก และอื่นๆอีกมากมาย


แม้เขาจะกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง แต่เส้นทางลูกหนังของเขาต้องเปลี่ยนแปลงไป เมื่อไม่สามารถเล่นกับต้นสังกัดอย่างอินเตอร์ มิลาน ได้อีก เนื่องจากศึกกัลโช่ เซเรีย อา มีกฏเหล็กที่ชัดเจนว่า ห้ามผู้เล่นที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจลงสนามแข่งขัน พวกเขายกเลิกสัญญากันด้วยความยินดี

หลังจากเป็นนักเตะไร้สังกัด อิริคเซ่น ฝึกซ้อมฟุตบอลคนเดียวที่โอเดนเซ่ สโมสรในบ้านเกิด เพื่อเป็นการเตรียมร่างกายให้ดีที่สุด โดยเฝ้ารออย่างอดทน ที่จะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง กระทั่งโธมัส แฟร้งค์ กุนซือของทีม เบรนท์ฟอร์ด น้องใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีก ติดต่อมา การเดินทางครั้งใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองเคยร่วมงานกันที่ทีมชาติเดนมาร์ก รุ่นอายุต่ำว่า 17 ปี 


การได้ลงสนาม, สัมผัสกับลูกฟุตบอล และสูดดมกลิ่นผืนหญ้า ทุกอย่างกลับมาแล้ว ความตื่นเต้นในการกลับมาเฝ้าชมเกม, อยู่ในสนามแข่งขัน และมีส่วนร่วมกับทีม ผมหลงรักการเล่นฟุตบอลมาตลอดเลย นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยหายไป ผมคิดถึงสภาพแวดล้อมในการเข้าไปสนามกีฬา พร้อมกับลงมือทำอะไรบางอย่างในเกมฟุตบอล ผมคิดถึงบรรยากาศ ในการอยู่กับเพื่อนร่วมทีม และฉลองชัยชนะ


ผมได้รับไฟเขียวจากแพทย์แล้วว่า สามารถเล่นฟุตบอลได้ ทุกคนมีความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผมล้มฟุบลงไป แต่ผมคิดว่า ตอนนี้ผมอยากสร้างความทรงจำใหม่ให้กับพวกเขา ผมอยากสัมผัสลูกฟุตบอล, ทำประตู และแอสซิสต์ ผมจะทำทุกอย่างแบบสุดความสามารถ


จากคนที่เคยเกือบเสียชีวิตในสนามฟุตบอล วันนี้ เขากลับมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักอีกครั้ง แน่นอนว่า วันนี้ เขากลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่า เขาสามารถลงเล่นเกมฟุตบอลระดับสูงได้ และทำออกมาได้ดีเสียด้วย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด