มาวันนี้ บาร์ซ่า เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างชัดเจนนับแต่โบกมือลา แชมเปี้ยนส์ลีก นักเตะใหม่และนักเตะดาวรุ่งปรับตัวเข้ากับทีมได้ดีขึ้นจนทุกอย่างลงตัว และเล่นได้ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เวลานี้พวกเขาทำสถิติไร้พ่าย 17 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ แบ่งเป็นชนะ 14 เสมอ 3 นอกจากนี้ยังคว้าแชมป์ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า โดยนัดชิงชนะเลิศเอาชนะ เรอัล มาดริด คู่อริตลอดกาลไปด้วยเกมการเล่นที่สมบูรณ์แบบ
กับสถานการณ์ใน ลา ลีกา ก็นำเป็นจ่าฝูงโดยมีระยะห่างจาก มาดริด ถึง 8 คะแนน อะไรๆดูดีและแตกต่างไปจากช่วงเดือนพฤศจิกายนเยอะมาก หากสิ่งที่ บาร์ซ่า ต้องพิสูจน์ให้หมดข้อสงสัยอีกครั้งก็คือการเล่นในยูโรป้า ลีก ฟุตบอลรายการยุโรปที่เหลืออยู่ในมือ
ให้เหมาะเจาะลงตัวที่พวกเขาโคจรมาเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษที่กำลังฟื้นคืนสู่ความยิ่งใหญ่เช่นกัน
แฟนๆเฝ้ารอชมเกมนี้ด้วยใจระทึก ชาวกูเล่ส์ทุกคนอยากสัมผัสกับ noche magica (โนเช่ มาคีก้า) หรือค่ำคืนมหัศจรรย์ เพราะการเจอกับทีมอย่าง แมนฯยูไนเต็ด นั้น ให้กลิ่นอายคล้ายกับ แชมเปี้ยนส์ลีก
และแล้ว บาร์ซ่า ของ ชาบี ก็ได้เผชิญความจริงอันหนักหน่วงว่าจะอย่างไรก็ตามพวกเขายังขาดหลายสิ่งหลายอย่างสำหรับการรับมือกับฟุตบอลยุโรป
เกมกับ ‘ปีศาจแดง’ ใน คัมป์ นู เต็มไปด้วยกลยุทธ์ สปีดบอลที่รวดเร็ว และความเข้มข้นในการเล่นที่น่าเหลือเชื่อ ไม่ใช่แค่ช่วงใดช่วงนึง หากแต่ตลอดทั้ง 90 นาที
เด็กๆของ ชาบี ได้เรียนรู้ว่าความผิดพลาดมีราคาแพงเสมอสำหรับเกมยุโรป เมื่อได้เจอกับ ยูไนเต็ด ที่กำลังท็อปฟอร์ม
บาร์ซ่า เริ่มต้นได้แข็งแกร่ง เปิดฉากหาโอกาสโจมตีได้มากกว่า แต่เกมรับของผู้มาเยือนเหนียวแน่น มีทั้งลูกเขี้ยวลูกประสบการณ์ บ่งชี้ให้เห็นถึงการเล่นในอีกระดับที่แตกต่างจากการเล่นกับ เซบีย่า,เรอัล เบติส,จีโรน่า หรือ เคตาเฟ่
ทีมโดนเล่นงานจากจังหวะสวนกลับ จังหวะทรานซิสชั่นของ แมนฯยูไนเต็ด รวดเร็วและดุดันมาก ถึงแม้ บาร์ซ่า จะเป็นฝ่ายคุกคามได้มากกว่าก็ตาม
หลายครั้งทีมไม่สามารถคอนโทรลเกมการเล่นเอาไว้ได้ แนวรับก็สูญเสียความแน่นอน และพบกับความยากลำบากในการเอาบอลขึ้นมาจากแดนหลัง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ปั่นป่วนนี้ ยังเพิ่มเติมด้วยอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อของ เปดรี เข้าไปอีก ยิ่งทำให้ไอเดียในการสร้างสรรค์เกมรุกของทีมลดน้อยลงไป
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะปั่นป่วนอย่างไม่เคยเจอมานาน แต่ บาร์ซ่า ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความอดทน, หัวใจที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะช่วงที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่พิสูจน์ความนิ่งของจิตใจ ซึ่งทีมสอบผ่าน ทำให้พวกเขาสู้กับ แมนฯยูไนเต็ด ได้สนุกถึงพริกถึงขิง ก่อนจะคัมแบ็กกลับมาได้
ภาพรวมนี่คือเกมที่สนุก เอนเตอร์เทนแฟนๆในสนาม ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม คุ้มค่ากับการดูชม แต่ในแง่ของผลการแข่งขันนี่ไม่ใช่สิ่งที่ บาร์ซ่า คาดหวัง รวมถึงรายละเอียดของเกมในหลายๆช่วงเวลา
จากขึ้นนำ 1-0 (ประตูจากลูกโขกของ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกหลังเพิ่งสูญเสียคุณพ่อ) เปลี่ยนมาเป็นโดนตีเสมอ 1-1 ,ผิดพลาดจนตามหลัง 1-2 เกือบโดนน็อคคาบ้าน
แน่นอนว่าการตัดสินของผู้ตัดสิน เมาริซิโอ มาเรียนี่ มีส่วนกับผลการแข่งขัน มันกลายเป็นกรณีพิพาทของเกมคุณภาพนัดนี้ หลายจังหวะดูค้านสายตา แต่สำหรับ บาร์เซโลนิสต้า รู้สึกคาใจอย่างมากที่จังหวะบอลซึ่งที่ไหลจากหน้าอกมาโดนแขนของ เฟร็ด ไม่มีแม้กระทั่งการเช็ก VAR
บทสรุปจาก 90 นาทีที่ คัมป์ นู เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า บาร์ซ่า สู้ได้ดีขึ้นนับแต่ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก แต่เกมยุโรป ยิ่งการเล่นกับทีมแกร่งอย่าง ยูไนเต็ด นั้น ยังต้องการอะไรมากกว่านี้
บาร์ซ่า จะไปตัดสินอนาคตในเวทียุโรปของพวกเขาในเลกสองที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันพฤหัสบดีหน้า สิ่งเลวร้ายก็คือทีมจะไม่มี เปดรี ที่บาดเจ็บ รวมถึง กาบี ที่ติดโทษแบน
แต่ไม่มีทางเลือกแล้ว บาร์ซ่า จำต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการข้ามก้าวขีดจำกัดนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเกมที่ยากที่สุดเกมนึงในปีนี้เลยก็ตาม แต่หากเป้าหมายอยู่ที่การกลับไปยังจุดสูงสุดของยุโรปอีกครั้ง พวกเขาจะต้องทำให้สำเร็จ
………………………….
คะแนนความสามารถนักเตะบาร์เซโลน่า โดย sport
แทร์ ชตีเก้น (8) , อาเราโฮ (8), กูงเด้ (4),อลอนโซ่ (4),อัลบา (6),เดยอง (6),เกสซิเยร์ (5),เปดรี (5),กาบี (6),ราฟินญ่า (8),เลวานดอฟสกี้ (6),เซร์จี้ โรเบร์โต้ (5), คริสเตนเซ่น (6),ฟาติ (6),บัลเด้ (6), เฟร์ราน ตอร์เรส (5)
เจมส์ ลา ลีกา
