เกมเอฟเอคัพ รอบ 4 นัดที่แมนยูไนเต็ดเปิดบ้านเอาชนะเวสต์แฮมไปได้ 3-1 จากการตกที่นั่งลำบากโดนยิงไปก่อน 0-1 จากประตูของเบนราห์มา พวกเขาฮึดสู้ทำเกมบุก และตามตีเสมอได้สำเร็จ บุกกดต่อเนื่องใส่เวสต์แฮมช่วงครึ่งหลัง บดบี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งได้ประตูตัดสินเกมจาก "อเลฮันโดร การ์นาโช่" ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ก่อนจะได้เฟร็ดมายิงเพิ่มช่วงสุดท้ายของการทดเจ็บอีก ยูไนเต็ดจึงเข้ารอบไปสู่เกมรอบ6 ถ้วยเอฟเอคัพต่อไป
ประเด็นที่น่าสนใจในวันนี้ ส่วนหนึ่งคือฟอร์มการเล่นของ อเลฮันโดร การ์นาโช่ มีสิ่งที่น่าสนใจค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นข้อดีของการพัฒนาตัวเองที่เจ้าหนูคนนี้ค่อยๆเป็นส่วนหนึ่งของนักเตะตัวหลักทีมเราแล้ว
หลายครั้งเอริค เทน ฮาก กล้าใช้เด็กอายุ 18 รายนี้เป็นตัวจริงในตำแหน่งที่สำคัญมากของทีม อย่างการเป็นตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย ที่เป็นตำแหน่งสำคัญซึ่งต้องสร้างความแตกต่างให้ทีมได้
น้องทำได้อย่างชัดเจนในฐานะปีกตัวสำรองที่ลงมาป่วนช่วงท้าย ตอนที่คู่แข่งเริ่มแรงหมด การ์นาโช่จะถูกใช้เป็นซุปเปอร์ซับ ลงมาพาทัวร์คู่แข่งและสร้างการโจมตีได้อันตรายเสมอ
แต่วันนี้มีสิ่งที่เขาพัฒนาขึ้นแล้ว จากข้อครหาว่า "การ์นาโช่เหมาะจะเป็นตัวสำรองมากกว่า" แต่ Performance ของเขาในเกมชนะเวสต์แฮม ถือว่าโจมตีได้อันตราย และได้บอลบุกกดดันแผงหลังทีมขุนค้อนได้ดีตั้งแต่แรกจนกระทั่งยิงประตูได้ช่วงจะหมดเวลาการแข่งขัน
มันคือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาทีละนิดๆ ผ่านประสบการณ์และชั่วโมงบินที่เพิ่มมากขึ้นของเขา ซึ่งหลังจบเกม เอริค เทน ฮาก ออกมาให้สัมภาษณ์ชื่นชมนักเตะหลายๆคน เช่น เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ที่เอริคชมว่าพี่ม้าเป็นหนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในสนามวันนี้
และแน่นอน เอริคไม่ลืมที่จะพูดถึงเจ้าหนูคนนี้ที่เขาพยายามปลุกปั้นขึ้นมาด้วย เอริคกล่าวเอาไว้ดังนี้
"ผมคุยกับเขาไว้ก่อนเกมว่า นายทำให้แฟนบอลได้เห็นว่าเป็นตัวสำรองที่สามารถลงมาสร้างimpactได้ ตอนนี้มันถึงเวลาที่ต้องทำให้คนเห็นแล้วว่า ถ้าต้องลงมาเป็นตัวจริงก็ยังโชว์ฟอร์มได้เหมือนกัน วันนี้ผมคิดว่าเขาทำสิ่งนั้นออกมาให้เห็นแล้ว" เอริค เทน ฮาก ชื่นชมฟอร์มของการ์นาโช่ในวันนี้
วันนี้การ์นาโช่ในตำแหน่งปีกซ้ายของทีม สามารถสร้างแรงกดดันใส่แบ็คของเวสต์แฮมได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "First Touch" ที่โดดเด่นมากในการแตะบอลเล่นเร็ว และกระชากจังหวะเดียวขึ้นหน้าได้ด้วยสปีดต้นและฝีเท้าที่เผลอไม่ได้เด็ดขาด ถึงสรีระและความแข็งแกร่งยังเสียเปรียบอยู่บ้าง หลายๆครั้งก็เลี้ยงไปเข้าเหลี่ยมคู่แข่งที่เก๋ากว่า
แต่ถ้าปล่อยให้การ์นาโช่ได้โอกาสเรื่อยๆ เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า โอกาสจั๋งๆหนึ่งครั้ง เจ้าตัวก็สามารถสร้างสกอร์ที่ impact กับทีมได้เหมือนกัน ในประตู 2-1 คือตัวตัดสินแล้วว่าเจ้าหนูคนนี้ทำได้จริงๆถ้าโอกาสมาถึง แม้จะเป็นแค่ครั้งเดียวจากสิบครั้งที่โจมตี แต่ความพยายามทำเกมอย่างไม่ย่อท้อก็มอบของขวัญที่ดีให้การ์นาโช่ค่อยๆ "พัฒนาตัวเอง" ขึ้นมาทีละน้อยแล้ว
จากเดิม เป็นแค่ตัวสำรองที่ลงมาเป็น Cameo ตัวละครลับป่วนคู่แข่งช่วงท้าย ตอนนี้เขาเริ่มสามารถที่จะค่อยๆขึ้นมาเป็นปีกซ้ายตัวรุกหลักของทีมได้มากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เป็นคำตอบที่ชัดเจนผ่านสถิติการเล่น คือปริมาณการสร้างสรรค์เกมของเขาหลังเกมเวสต์แฮม มีการพัฒนาอย่างชัดเจนที่เขาสามารถสร้างเกมรุกใส่คู่แข่งได้ตลอด ผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง แต่ความต่อเนื่องของพลังในเกมรุกถือว่ายอดเยี่ยม
เรื่องจิตใจ น้องถือว่ามีจิตใจที่มั่นคงมาก บุกด้วยความกล้าหาญที่จะพยายามเลี้ยงหลบคู่แข่งตลอดเวลา โดนเตะก็ไม่แหยง และลากบอลประจันหน้าคู่ต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อแม้จะพลาดแล้ว แต่ก็ยังพยายามต่อ
สถิติของการ์นาโช่เกมชนะเวสต์แฮมมีดังนี้
จ่ายบอลแม่นยำ 83%
ดวลกับคู่แข่งภาคพื้นดินชนะ 11 ครั้ง
เลี้ยงกินตัวสำเร็จ 6 ครั้ง
โอกาสยิง 3 ครั้ง
แทคเกิลชนะ 1 ครั้ง
ตัดบอลสำเร็จ 1 ครั้ง
ยิง 1 ประตู
สถิติดีมาก และโดยเฉพาะ "Attempts" การเล่นเกมรุกของเขาที่ดวลกับคู่แข่ง ลากเลี้ยงกินตัวนักเตะเวสต์แฮมตลอดเวลานั้น คือผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด ที่ตอบได้ว่า การเล่นในฐานะ "ตัวจริง" ของการ์นาโช่ เป็นตัวทำเกมรุกให้แมนยูไนเต็ดได้ยอดเยี่ยม
ถ้าบอลถูกป้อนมาถึงเขาได้อยู่เรื่อยๆ โอกาสที่น้องจะทำเกมกดดันคู่แข่งก็มีสูง
เกมล่าสุดมีสิ่งที่น่าดีใจยิ่งกว่านั้น การ์นาโช่ลงต่ำมาล้วงบอลถึงแดนหลัง ทดแทนจุดที่แบ็คซ้ายเติมเกมไปข้างหน้าหรือหุบเข้ากลาง การ์นาโช่ถอยลงมาล้วงบอลเองแล้ว ถ้าใครไม่สังเกตจะไม่ทันเห็น นี่คือการพัฒนาตัวเองเรื่องการมีส่วนร่วมกับภาค build-up ของทีมด้วย
ฟอร์มการเล่นวันนี้เขาจึงได้รับแมนออฟเดอะแมตช์จากสนามไป
หนึ่งในสุดยอดสกิลที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในวันนี้ของการ์นาโช่คือ “First Touch” สกิลการจับบอลที่หลายต่อหลายครั้งมันมีความเป็นธรรมชาติ และสร้างโอกาสในการเล่นให้ตัวเองได้เยอะ
เฟิร์สทัชของการ์นาโช่ทำได้ทั้งการเก็บบอลลงอย่างแม่นยำ(จากการวางบอลยาวขึ้นหน้ามาจากเพื่อน), การสัมผัสบอลที่แตะบอลให้ไปข้างหน้าได้เลยทันทีไม่ต้องแต่ง ระยะหลังเราได้เห็นเขาใช้วิธีนี้เอาชนะคู่แข่งเป็นประจำ (ไปถามลุค เอย์ลิ่งได้ว่าเจอจนอิ่มแปร้ขนาดไหน)
สกิลการแตะบอลจังหวะเดียวนี้ทำให้เขาได้ใช้อีกจุดเด่นควบคู่กันไปด้วย นั่นคือ”สปีดต้น” ที่รวดเร็ว กระชากพาบอลเปลี่ยนจังหวะทันทีจนคู่แข่งออกตัวตามไม่ทัน
ล่าสุด ประตู 2-1 เป็นอีกครั้งที่ “เฟิร์สทัช” ของการ์นาโช่ทำให้เขาเล่นจังหวะต่อไปได้เลยในทันที ด้วยการจับบอลลงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นไม่ต้องแต่งต่อ ซัดด้วยขวา บอลปั่นเสียบเสาเข้าไปแบบสวยงามมากๆ พลังทำลายในการจบสกอร์ และ เฟิร์สทัชที่เนียนกริบซึ่งทำให้เขาสามารถเล่นจังหวะสองได้ต่อเนื่องทันทีนั้น คืออาวุธที่ร้ายกาจมากของอเลฮันโดร การ์นาโช่ ที่มันจะยกระดับได้มากกว่านี้อีกหลายเท่าในอนาคต
ขนาดเป็นตัวอ่อนยังเก่งขนาดนี้ สักวันถ้ากล้ามเนื้อขึ้นเต็มที่ บึกบึนแข็งแกร่ง ปราดเปรียว และเก๋าประสบการณ์กว่านี้ จะดีขึ้นกว่าปัจจุบันขนาดไหน แค่นึกภาพก็สยองแล้วว่า เราอาจจะได้ Goal Machine สายจรวดทางเรียบเหมือนที่ยุคต้น90s ที่แฟนบอลรุ่นเด็กๆอย่างผมตอนนั้น เคยทึ่งกับคำกล่าวขานกันถึงเชฟเชงโก้ว่าโคตรเร็ว และโคตรคม
ถ้าการ์นาโช่เร็ว แรง และสกิลดีขนาดนี้ อนาคตเขาจะพัฒนาจาก Inside Forward ก้าวไปสู่การเป็นตัวจบสกอร์ Performance สูงอีกคนหนึ่งของวงการฟุตบอลได้แน่นอน
จะรอดูวันที่น้องเติบโตไปอย่างถูกต้อง ภายใต้การดูแลในระยะยาวของ Erik ten Hag
ในฐานะแฟนบอลที่เฝ้ามองการเติบโตของเขา เราดีใจมากที่ได้เห็นเด็กคนนี้ค่อยๆดีวันดีคืน เป็นการค่อยๆพัฒนาตัวเองอย่างถูกต้องตามลำดับขั้นตอนที่เหมาะที่ควร ภายใต้การดูแลของ Erik ten Hag ที่เราสบายใจได้เลยว่า เขาจะปั้นการ์นาโช่เป็นยอดแข้งได้แน่ๆ น้องเป็นปีกกึ่งกองหน้าที่ชัดเจน มีความเป็น Forward ในตัวสูงมาก และในอนาคตยังเก่งกว่านี้ได้อีกเยอะ
ร่างกายยังแข็งแกร่งและเป็นหนุ่มเต็มตัวได้ยิ่งกว่านี้อีกมากมาย อนาคตถ้าเข้ายิม เล่นฟิตเนสดีๆ การ์นาโช่จะมีร่างกายที่แกร่งและเดือดดาลกว่านี้หลายเท่า ตอนนั้นความอันตรายจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
อาจจะยกระดับขึ้นมาได้ "ใกล้เคียง" กับไอดอลของเจ้าตัว อย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้แน่ๆ ถ้าเรทการพัฒนาตัวเองยังดีวันดีคืนแบบนี้ สักวันเขาจะเป็นตัวอันตรายของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปอีกนาน ในวัยที่เพิ่งจะ 18 ปี เส้นทางของเด็กคนนี้ยังอีกยาวไกลนัก
ยิ่งในอนาคตการ์นาโช่ยิ่งเก่งมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เราสามารถดันตัวเล่นปีกซ้ายคนอื่นๆไปอยู่ในตำแหน่งที่อิสระได้มากขึ้น เราจะใช้แรชฟอร์ดเล่นกองหน้าได้เลยตั้งแต่ต้น หรือบางครั้งก็ดึงซานโช่ไปช่วยทางขวาได้เวลาอันโทนี่ไม่อยู่ ถ้าน้องได้ลงเล่นต่อเนื่องแบบนี้ ฝีเท้าก็จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆเอง แถมยังเก่งกว่านี้ได้อีกเยอะมาก
นี่แค่เริ่มต้นในวัย 18 ปีเท่านั้น แต่เด็กคนนี้ยิงประตูตัดสินเกมมานักต่อนักแล้ว
คนที่อยากมอบเบอร์ 7 ให้น้อง ถามว่าการ์นาโช่พร้อมไหม ก็ต้องตอบว่า ศักยภาพมีแน่นอนในอนาคต เราเชื่อว่าถ้าน้องยังมุ่งมั่นอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนที่มาร์คัส แรชฟอร์ดพยายามพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งอยู่ตลอดเวลา
"AG7" ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินตัวเลย เมื่อถึงเวลา หมายเลขนี้จะมาถึงน้องแน่นอน ตอนนี้ค่อยๆไปเรื่อยๆทีละสเต็ปอย่างถูกต้องจะดีที่สุด
ไม่ต้องรีบเป็นคนที่เก่งที่สุด แค่ขึ้นมาเป็นปีกตัวอันตรายของคู่แข่งให้ได้เรื่อยๆแบบนี้ก็เจ๋งแล้ว ต่อจากนี้การ์นาโช่จะไม่ได้น่ากลัวเพียงแค่การเป็นตัวสำรองเปลี่ยนเกมเท่านั้น
เกมวันนี้เขายกระดับขึ้นมาให้เห็นแล้วว่า ต่อให้ลงตัวจริงก็สามารถทำเกมรุกให้ทีมได้ตลอด 90 นาทีเหมือนกัน ประตูท้ายเกมคือคำตอบของประเด็นนี้อย่างแท้จริง
เชียร์กันต่อไปแฟนผี ตัวนี้อนาคตไม่ผิดหวังแน่นอน
"พายุปีศาจ" Alejandro Garnacho
-ศาลาผี-
