:::     :::

มากกว่าการล้างตา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล ถอนแค้นเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ขาดลอย 4-0 แต่ที่สำคัญกว่าคือขยับหนี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็น 5 คะแนนอีกครั้ง

ในการเจอกันนัดแรกเมื่อเกือบหนึ่งเดือนที่แล้ว อาร์เซน่อล แพ้ทั้งผลการแข่งขันและแท็กติกการเล่น เอฟเวอร์ตัน กับการเริ่มต้นนัดแรกของ ฌอน ไดซ์ สมควรเป็นผู้ชนะ 

แต่การเจอกันครั้งนี้ต่างออกไป มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมนำบทเรียนที่เคยผิดพลาดกลับมาแก้ไขได้สำเร็จ และเป็นฝ่ายได้รับการชูมืออย่างไร้ข้อกังขา 

อาร์เตต้า ยึดผู้เล่นชุดเดิมจากนัดชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ลุยต่อ นั่นหมายความว่าต่างจากนัดแรกที่เจอ เอฟเวอร์ตัน เพียงตำแหน่งเดียวคือ จินโญ่ ลุยตัวจริงอีกนัดแม้ โธมัส ปาร์เตย์ หายเจ็บกลับมาเป็นสำรองได้แล้ว 

ส่วน ฌอน ไดซ์ เรียก นีล โมเปย์ ตัวแสบจากนัดแรกลงตัวจริงตำแหน่งหน้าเป้าแทน โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ที่บาดเจ็บ ขณะที่เกมรับ ไมเคิ่ล คีน เสียบแทน คอเนอร์ เคาดี้  

ปืนใหญ่เป็นฝ่ายครองบอลตามคาด ขณะที่ก๊วนทอฟฟี่เน้นรับเหนียวแน่นใข้ความขยันของกองกลาง 3 คนช่วยกันวิ่งไล่บอล ส่วนริมเส้นมีทั้งปีกและแบ็กช่วยกันทั้งรุกและรับ 

การเล่นในช่วง 30-40 นาทีแรกแทบออกมาในรูปแบบเดิมคือ อาร์เซน่อล ได้ต่อบอลมากกว่า แต่หาโอกาสยิงจะแจ้งได้น้อยมาก 

แท็กติกของ ฌอน ไดซ์ สามารถปิดตัวทำเกมริมเส้นของ อาร์เซน่อล ได้ดีโดยเฉพาะฝั่งของ บูคาโย่ ซาก้า ที่ต้องฝ่าสองชั้น ดไวท์ แม็คนีล กับ วิตาลี่ มิโคเลนโก้ แถมยังมี อับดูลาย ดูกูเร่ และ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ คอยซ้อนตามเก็บงาน

อาร์เซน่อล เจอความอึดอัดในการเล่นและแทบไม่มีพื้นที่ระหว่างหลังแนวรับกับผู้รักษาประตูให้ได้เล่นเพราะโดนปิดโดนบังหมด 

เพียงแต่สัญญาณที่ดีคือ บอลยาวของ เอฟเวอร์ตัน ที่เคยเล่นงาน อาร์เซน่อล ได้ในนัดแรก แทบไม่มีลุ้นในเกมนี้ นีล โมเปย์ โดดเดี่ยวในแดนหน้า เพื่อนร่วมทีมไม่ได้สนับสนุนมากพอ 

สิ่งที่ อาร์เซน่อล รอจึงมีเพียงหาช่องเจาะเข้าทำให้ได้ และมันก็เกิดขึ้นในแบบที่ อาร์เตต้า บอกว่าเป็น "magic moment"

ประตูแรกของ อาร์เซน่อล ยอดเยี่ยมอย่างมากและเป็นการแก้แท็กติกของ เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ผล


ประตูแรกทำกันได้สมบูรณ์แบบ

เมื่อตัวทำเกมอย่าง ซาก้า เจองานหนักในการหนีตัวประกบ อาร์เซน่อล จึงเพิ่มตัวสนับสนุนให้มากขึ้นด้วยการขยับพื้นที่การเล่นของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จากฝั่งซ้ายไปฝั่งขวา 

การโยกมาช่วยฝั่งขวาชั่วคราวของ ซินนี่ และ กาบี้ ทำให้เกมรับ เอฟเวอร์ตัน เสียตำแหน่งและพะวงกับการจ่ายบอลมากขึ้น ไม่รู้จะตามประกบใคร ปีกซ้ายกับแบ็กซ้ายโผล่มาทางขวาพร้อมกัน

แนวรับเอฟเวอร์ตันจึงไม่กล้าวิ่งเข้าประกบเร็วเพราะในพื้นที่ตรงนั้นมีผู้เล่นอาร์เซน่อลถึง 5 คนอยู่ใกล้กันทั้ง ซาก้า, ไวท์, มาร์ติเนลลี่, ซินเชนโก้ และ โอเดการ์ด  

ทันทีที่ ซินเชนโก้ ได้บอลจึงมีทางเลือกทุกทิศทางไม่ว่าจะเป็นโยนข้ามกลับไปฝั่งซ้ายให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่รออยู่โล่งๆ หรือจะเป็นหน้าเขตโทษที่มี โอเดการ์ด รออยู่ รวมถึงหักข้อคืนฝั่งขวาให้ มาร์ติเนลลี่ 

แต่ ซินเชนโก้ เลือก ซาก้า ที่ช่องจ่ายบอลไปให้มีน้อยสุด 

ด้วยการจ่ายอันแม่นยำและทำให้คู่แข่งคาดไม่ถึง ซาก้า จึงได้เกี่ยวบอลหลุดเข้าไปยิงขวาซึ่งยิงได้ดีมากจากการอัดเสาแรกเอาชนะเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ จอร์แดน พิคฟอร์ด 

เป็นโมเมนต์มหัศจรรย์อย่างที่ อาร์เตต้า ว่าไว้เพราะยอดเยี่ยมสุดๆ ทั้งคนเปิด และคนจบสกอร์ ทุกอย่างลงตัวสมบูรณ์แบบ และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต้องการคือก่อนจบครึ่งแรก

การเจาะทีมที่วางแท็กติกเกมรับเต็มตัวต้องทำแบบนี้ รวดเร็ว แม่นยำ และคู่แข่งคาดไม่ถึง และที่สำคัญคือต้องพึ่งพานักเตะไม่ธรรมดาอย่าง ซินเชนโก้  

"นั่นคือเหตุผลที่เราดึงเขามาเพราะเขานำบางสิ่งที่แตกต่างมาสู่ทีมได้ และทำให้เรายากต่อการคาดเดามากขึ้น" อาร์เตต้า กล่าวถึงแบ็กซ้ายทีมชาติยูเครนที่หอบหิ้วมาจาก แมฯฯ ซิตี้ 

ช่วงทดเจ็บ สถานการณ์ อาร์เซน่อล อุ่นใจได้มากขึ้นได้ประตูที่สองจากผิดลาดไม่น่าเชื่อของแนวรับ เอฟเวอร์ตัน  

อิสดริสซ่า กาน่า เกย์ ติดประมาทไปนิดไม่รีบเคลียร์ทิ้ง หรือส่งคืนหลัง บูคาโย่ ซาก้า จึงปรี่เข้าไปจิ้มให้ มาร์ติเนลลี่ หลุดไปล่อเป้า พิคฟอร์ด


มาร์ติเนลลี่ จิ้มเผาขนปิดท้าย

จังหวะนี้เหมือนล้ำหน้าตามที่ไลน์แมนยกธง แต่พอมีการเช็ควีเออาร์ปรากฏว่า มาร์ติเนลลี่ อยู่ในไลน์และกลายเป็นประตูนำ 2-0 ของเจ้าบ้าน 

อาร์เตต้า มองครึ่งแรกของทีมที่ต่างกันว่า "เราเริ่มเกมได้แบบน่าหงุดหงิด และไม่เข้าใจว่าต้องทำอะไร แต่หลังผ่าน 25 นาทีแรกเราก็เริ่มเล่นกันได้ดีขึ้นและช่วงเวลาของการได้ 2 ประตูก็สำคัญมากๆ" 

ในรูปเกมที่เหมือนเป็นไปตามแท็กติกของ เอฟเวอร์ตัน หากไม่นับจังหวะพลาดนิดเดียวจนกลายเป็นประตู การนำ 2-0 ก่อนพักครึ่งของ อาร์เซน่อล ถือว่าเข้าทาอย่างมาก และทำให้การเล่นใน 45 นาทีหลังไม่กดดัน 

"ในครึ่งหลังเรามีความมั่นใจกันอย่างเต็มเปี่ยม และเล่นได้ยอดเยี่ยม การเล่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น จังหวะสวนกลับทำได้ดีกว่าเดิม และเอาบอลมาครองได้ในทันที" อาร์เตต้า กล่าว

ทุกอย่างอยู่ในการคอนโทรลของ อาร์เซน่อล การครองบอลขยับไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งหลัง และโอกาสลุ้นประตูเพิ่มจาก 3 ครั้งเป็น 12 ครั้ง 

ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ อาร์เซน่อล แสดงความนิ่งและใจเย็น ไม่ได้โหมรุกลืมตายทั้งที่สามารถทำได้ พวกเขาเลือกเคาะบอลถ่ายไปมารอให้ เอฟเวอร์ตัน มาไล่ ถ้าไม่มีช่องจ่ายขึ้นหน้าก็วนกลับไปเซตจากข้างหลังขึ้นมาใหม่

จังหวะได้เพิ่มประตูที่สามเป็นไปตามที่การเล่นที่ต้องการ นักเตะทอฟฟี่พยายามวิ่งไล่จนถึงแบ็กโฟร์ก่อนโดน ซินเชนโก้ ลากพาบอลฝ่ากลางขึ้นหน้าจ่ายให้ มาร์ติเนลลี่ ต่อมาที่ ชาคา ที่แทงให้ ทรอสซาร์ ควบเขตโทษก่อนตบกลับเข้ากลาง โอเดการ์ด วิ่งมาแปง่ายๆ 

ซินเชนโก้ มีส่วนอีกครั้งกับประตูปิดท้ายที่การจ่ายบอลเข้าเขตโทษยอดเยี่ยมมากและคล้ายประตูแรกเพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นพื้นที่ประจำฝั่งซ้ายพื้น เอ็นเคเทียห์ ที่ลงสำรองจึงได้หลุดก่อนเปิดยัดไปให้ มาร์ติเนลลี่ จิ้มเผาขน

อาร์เซน่อล จึงเก็บชัยชนะได้สวยงามต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง พร้อมทำคลีนชีตเป็นนัดที่สองติดต่อกัน และมีประตูได้-เสียบวกเพิ่มอีก 4 ซึ่งอาจกลายเป็นแต้มพิเศษที่ล้ำค่าอย่างมากในอนาคต 

จากที่ออกอาการเป๋ 3-4 นัดซึ่งรวมถึงพ่ายคาบ้านต่อ แมนฯ ซิตี้ จนเสียตำแหน่งจ่าฝูง อาร์เซน่อล สามารถกลับสู่เส้นทางของตัวเองได้ด้วยชัยชนะ 3 นัดติด และหนีซิตี้เป็น 5 คะแนนอีกครั้ง

เหลืออีก 13 นัดสุดท้าย ได้ลุ้นกันมันส์แน่นอน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})