:::     :::

Toxic Mentality อย่าให้ใจสู้ที่มี กลายเป็น "สารก่อดราม่า"

วันอังคารที่ 07 มีนาคม 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
1,787
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความเป็นกัปตันทีมของบรูโน่ แฟร์นันด์ส จะยังคงเหมาะสมหรือไม่ และเขาทำผิดหรือถูกในเกมนั้น หลังจากที่แพ้ลิเวอร์พูลมา 7-0 คำตอบอยู่ที่การปรับปรุงตัวเอง ของ Bruno Fernandes

สมัยนี้การจะนำเสนออะไรสักอย่างเป็นสิ่งที่ยากมาก ไม่ว่าเรื่องนั้นจะผิดหรือถูก การเป็นผู้เขียนเหมือนเอาชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้ายเหมือนกัน บางครั้งสิ่งที่ถูกก็มีปัญหาได้ หากการพูดความจริงไม่ใช่สิ่งที่ถูกใจ

ที่แย่กว่าการพูดความจริง คือ "ความเท็จ" จากการนำเสนอสารก่อดราม่าที่สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น และส่งต่อกันไปจนกลายเป็นความเข้าใจผิดตามๆกัน เหมือนเรื่องที่ ฟิล โจนส์ ไม่ได้พูดว่า "Sacked in the morning" จนทุกวันนี้แฟนบอลบางคนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าโจนส์ไม่ได้พูดคำพูดไม่ดีดังกล่าวใส่โอเล่เลย แต่สื่อต่างๆนำไปเล่นจนแฟนบอลเข้าใจแบบนั้น และสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในใจ


กรณีของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในเกมล่าสุดที่แพ้ลิเวอร์พูล มีข่าวหลายแหล่งรายงานกันไปว่า เขาส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัวออกมาจากสนาม จนทำให้แฟนบอลรู้สึกว่าเจ้าตัวไม่รับผิดชอบ และขาดใจสู้ในเกมนี้

ความจริงแล้วบรูโน่ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนตัวออก เขาต้องการสอบถามข้างสนามเพื่อขอความกระจ่างเรื่อง position ในสนามเท่านั้น หลังมีการเปลี่ยนตัวเข้าออก ว่าจะให้เขาไปเล่นตรงไหน

เรื่องมีแค่นั้น แต่บางที่ก็เข้าใจผิดกันไปไกล บางคนลากรวมไปด่ากับเรื่องอื่นๆ ซึ่งต้องแยกแยะเป็นเรื่องๆไปในสนาม ว่าบรูโน่ทำเรื่องใดผิด หรือเรื่องใดไม่ควรทำบ้าง ซึ่งถ้าเขียนเยอะไปก็จะกลายเป็นการปกป้องนักเตะอีก ผู้เขียนอาจจะโดนเข้าใจไปอีกว่า คอลัมน์ศาลาผีแม่งปกป้องนักเตะเว่อร์อีกละ(ฮา) ซึ่งไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น

ไม่ได้บอกว่าบรูโน่ทำถูกทุกอย่าง แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ได้ผิดทุกเรื่องชัวร์ๆ

ประเด็นที่หงุดหงิดหัวร้อนง่ายของบรูโน่ เรื่องนี้คืออีกเรื่องที่ผมอยากให้เขาได้ปรับปรุงตัวเองอย่างมาก การปรับปรุงง่ายๆคือ ใช้ "แรงขับ" ของการเกลียดความพ่ายแพ้ให้ถูกต้องอย่างพอเหมาะพอควร

ออกอาการได้, แสดง Passion ได้ มันเป็นสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับกีฬาที่ต้องสู้กันด้วยหัวใจอย่างมาก เช่นในกีฬา Football ที่มีการปะทะกันตลอดเวลา ความดุดันถ้าไม่มีมันก็จะเหมือนลูกคุณหนูมาเตะบอล เข้าไปบี้ปะทะกับใครก็จะเอาชนะได้ยากถ้าไม่มีความ Aggressive อยู่ในการเล่น

แต่.. บรูโน่หัวร้อนมากเกินไปในบางครั้ง จนอาจสร้างผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งผลเสียที่ว่าก็คือเรื่องที่ไปผลักกรรมการในสนามวันนั้น และอาจจะส่งผลให้โดนแบนย้อนหลังได้ แม้ว่ากรรมการจะไม่ได้เขียนในรายงานก็ตาม

ตอนดูสดผมก็คิดในใจแล้วว่า ไปทำแบบนั้นทำไม ไม่น่าทำ เรื่องนี้คือเรื่องที่จะไม่ปกป้องบรูโน่เลย โดนลงโทษไปก็น่าจะดีซะด้วยซ้ำ จะได้ไม่ไปทำนัดอื่นที่อาจส่งผลเสียมากกว่านี้ หากมันทำให้เขาโดนไล่ออกระหว่างการแข่งขัน ทีมก็เสียอีก

อาการหัวร้อนจากPassionสูงลิบลิ่ว ไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป ถ้าขาดการควบคุมตัวเองก็ไม่ต่างจากการเล่นฟุตบอลแบบหมาบ้าเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ๆ


สิ่งที่จะดีกว่าคือ ใช้พลังงานตรงนี้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และมี "ขอบเขต" ที่มันควรจะอยู่ในกรอบที่ไม่ล้ำเส้นในการแสดงออกมาภายนอก จะเอามันไปลงกับความทุ่มเทในสนามก็ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นความแรงในการยิงประตู เหมือนเวย์น รูนีย์ เวลาหงุดหงิดแล้วซัดตูมเต็มข้อ แบบนั้นก็ว่าไป

เราพูดเนื่องจากอยากให้เขาปรับปรุงตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่ดีกว่านี้สำหรับเรา เพราะบรูโน่ร้อนมากเกินไปจริงๆในหลายครั้ง ยามที่ทีมนำ ทีมชนะ มันเห็นไม่ค่อยชัด แต่เวลาที่ทีมตาม ถ้ายังไม่สามารถควบคุมวุฒิภาวะของตัวเองได้ บางทีความร้อนอาจจะแผดเผาตัวเองจนต้องเสียใจในภายหลังได้

เห็นคลิปต่างประเทศที่พยายามตัดเอาความหัวร้อนในเกมนี้ของบรูโน่มาเหมารวมว่าเขาทำผิดไปซะหมดในเกมนั้น หลายๆจังหวะเจ้าตัวเป็นแบบนี้อยู่แล้วทุกนัด เรื่องโวยวายผู้ตัดสินเยอะๆนี่คือเป็นประจำ เรื่องหงุดหงิดมันเป็นเรื่องในเกม จังหวะที่ต้องเข้า 50/50 กับคู่แข่งนี่จริงๆแล้วมันคือการแสดงความไม่ยอมแพ้ออกมาซะด้วยซ้ำ

คลิปที่ว่านั่นก็ตั้งใจตัดมาด่าโดยเฉพาะ ไม่ได้มอบความยุติธรรมหรือพิจารณาให้มัน "รอบด้าน" มากสักเท่าไหร่ อคติจะด่าล้วนๆนั่นแหละไม่มีอะไรมาก

แต่ถ้าจะมีช็อตที่คนจะตำหนิได้ นอกจากที่ไปหงุดหงิดผลักไลน์แมน อีกเรื่องก็คือจังหวะนาทีปล่อยจอย นาที 81 นี่แหละที่แย่หน่อย จริงๆตอนนั้นเพิ่งจะโดนไป 5-0 ถ้ายังฮึดสู้อยู่อาจจะไม่แพ้เยอะขนาดนี้ก็ได้ เรื่องนี้คงไม่แก้ตัวอะไร ถึงจะมีคำอธิบายที่อาจจะพอพูดได้ว่า นักเตะ"หมด"แล้วในตอนนั้นที่วิ่งมาทั้งเกม พอสกัดไม่อยู่ก็ตามไม่ไหว เลยปล่อยเลย

แต่รวมๆแล้วก็ไม่น่าแสดงออกมาแบบนั้น นี่คือสิ่งที่ไม่เห็นมานานแล้วหลังจากที่ปีก่อนเราเห็น แรชฟอร์ด วานบิสซาก้า แสดงท่าทีแบบนี้บ่อยๆ คิดว่ามันจะหายไปแล้ว แต่พออยู่ในภาวะกดดันและท้อมากๆ ก็ยังมีแสดงออกมาให้เห็นเหมือนกัน


ส่วนเรื่องความเป็นผู้นำที่มองไม่เห็นในช่วงครึ่งหลังที่ทีมโดนไล่บี้และยิงกดจนร่วงผล็อยไปทีละลูกสองลูกนั้น เอาจริงๆเรื่องนี้ผู้เขียนคิดว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งทีมที่ต้องกระตุ้นตัวเอง กระตุ้นเพื่อนรอบข้างให้ช่วยกันฮึดสู้ขึ้นมาให้ได้

ไม่ใช่ภาระที่จะสามารถโทษกัปตันทีมได้คนเดียว ปลอกแขนกัปตันทีมเป็นเหมือนผู้นำในสนามก็จริง จะต้องนำทัพและยกระดับเพื่อนให้ได้ สิ่งที่บรูโน่เป็นในวันนั้น มันยังไม่ดีพอจะปลุกชีพแมนยูขึ้นมาได้ก็จริง แต่อย่าลืมว่า ภาพรวมของการรับปลอกแขนของเขาที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร

เทียบเคียงกับเคสของแฮรี่ แมกไกวร์ บรูโน่ยังดีกว่ามากที่มีการแสดงออกมาทางภาษากายและการกระทำที่ชัดเจน ซึ่งมันมากกว่าคนอื่นๆในทีมจนล้นออกมา ปัญหาของแคปหนวดมีเพียงแค่ควบคุมการล้นเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นเลย ส่วนเกมที่โดนยิงเละนั้นถือเป็นกรณีพิเศษจริงๆที่มันโดนแล้วก็ยุบ ท้อกันทั้งทีม

สิ่งที่ผมมองคือ นักเตะในสนามย่ำแย่และปล่อยให้ความอ่อนแอครอบงำจนไม่สามารถฮึดสู้ได้อีก การมีแค่คนๆเดียวพยายามลุก หรือพยายามปลุกเพื่อนบางทีมันก็เอาไม่อยู่หรอก ไม่ใช่บัญญัติไตรยางศ์ว่า ปลอกแขนกัปตัน = ปลุกเพื่อนได้ทั้งทีม

มนุษย์บางครั้งเวลามันโดนอะไรหนักหนามากๆ สติมันก็หลุดกระเจิงกันได้ทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นกัปตันทีมหรือลูกทีมคนไหนๆ การตั้งข้อสงสัยเรื่องความเป็นผู้นำของบรูโน่นั้นตั้งขึ้นมาได้ แต่สำหรับ ศาลาผี เรื่องนี้เขียนไปแล้วว่า "มนุษย์" มันอ่อนแอและผิดพลาดได้

มนุษย์บนโลกนี้ใครมันจะแข็งแกร่งหรือทำอะไรถูกไปหมดซะทุกอย่างตลอดเวลา ตลอดทุกนัด ไม่มีหรอก แม้แต่ไอ้คนที่ไปด่าว่าเขาเสียๆหายๆเพราะแค่ทีมแพ้คู่อริเละเทะแค่นี้

ด่ากันจนลืมไปแล้วว่า ที่ผ่านมาเขาเรียกแรงฮึกเหิมให้ทีมมาได้มากมายขนาดไหน พอทำไม่ได้และแสดงออกมาไม่ดีนัดเดียวก็ขับไล่ความเป็นกัปตันกันแล้ว ทั้งๆที่เจ้าตัวเพิ่งจะได้ขึ้นไปชูถ้วยอย่างสมศักดิ์ศรีแชมป์มาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเอง


ภาพรวมสำหรับผู้เขียน บรูโน่ยังคงมีความเหมาะสมในปลอกแขนกัปตันอยู่ แต่ถ้าจะดึงคนอื่นที่เหมาะสมขึ้นมาช่วยก็ไม่เกี่ยงอะไร หากว่าเป็นราฟาเอล วาราน ที่แสดงความเยือกเย็นให้เห็น โดยเฉพาะหลังเกมที่พ่ายแพ้เละเทะ เขายังคงไม่ลืมแฟนบอลที่ตามไปเชียร์ และตะโกนให้เพื่อนต้องตามไปขอโทษแฟนบอลที่ตามมาเชียร์ด้วย

คาเซมิโร่ ชายที่ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นบนโลกนี้ นักเตะเหล่านี้อยู่ในระดับที่ขึ้นมาเป็นกัปตันทีมได้ทั้งนั้น ด้วยฝีเท้าและคลาสบอล บวกกับบุคลิกที่เป็นที่พึ่งของเพื่อน คิงคาเซก็มีความเหมาะสมกับปลอกแขนนี้เหมือนกัน

จะยังไงก็ตามแต่ ในกรณีความผิดพลาดของบรูโน่ แฟร์นันด์ส ในฐานะกัปตันทีมที่พ่ายแพ้ลิเวอร์พูลในเกมประวัติศาสตร์ 7-0 เราเชื่อว่า เกมเพียงนัดเดียวคงจะไม่สร้าง impact ถึงขนาดต้องริบปลอกแขนหรือเปลี่ยนกัปตันทีมแต่อย่างใด แฮรี่ แมกไกวร์ จะยังคงเป็นกัปตันทีมอยู่ ขณะที่ Vice Captain ก็จะเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เรื่องแค่นี้ไม่น่าใช่ประเด็นมาโจมตีได้ เพราะอย่างที่บอกไปแล้ว ถ้าต้องรับผิดชอบ มันต้องรับผิดร่วมกันทั้งหมด ไม่ใช่เอ่ยอ้างหรือชี้นิ้วไปที่ใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาโจมตี เพราะมันพลาดด้วยกันทุกคน

ข่าวเรื่องความบาดหมางและปัญหาตรงนี้น่าจะจบลงไปตรงที่การรับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว ส่วนเรื่อง Captaincy (ความเป็นผู้นำทีม) คงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเร็วๆนี้ ถ้าจะมีจริงๆคงจะเป็นการจัดการในช่วงปิดฤดูกาลซะมากกว่า และรายงานล่าสุดจาก Fabrizio Romano[tier2] ก็ยังสำทับย้ำมาว่า บรูโน่ นั้นได้รับความชื่นชมจากเพื่อนร่วมทีมแมนยูไนเต็ด และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะมากมายในทีม ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น เทน ฮาก เองก็ยืนชื่นชมเขาด้วยเช่นกัน

เอริคมีความเข้มงวด มีกติกาการอยู่ร่วมกันในทีมที่ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่คนขวานผ่าซากที่จะทำอะไรแบบไม่สนใจความรู้สึกหรือปัจจัยรอบข้างทั้งนั้น ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตาม มันจะต้องมีการพูดคุยกันแบบที่ไม่อ้อมค้อม ว่ากันตรงๆ แต่คุยกันเพื่อเคลียร์และเปิดใจให้หมด เหมือนช่วงต้นฤดูกาลที่เคลียร์ใจรับผิดชอบร่วมกันตอนที่แพ้เบรนท์ฟอร์ด 4-0

ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง มันคงยังไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆ และที่สำคัญ บุคลิกของบรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังคงสร้างแรงขับในห้องแต่งตัวและในสนามฟุตบอลได้เสมอ จะให้เปลี่ยนแปลงนิสัยมันคงไม่ได้ แต่แค่จะต้อง "คอนโทรล" แรงขับและความกระหายชัยชนะของเขาให้เข้าที่เข้าทางหน่อยเท่านั้นเอง

Winning Mentality ที่ไร้การควบคุมก็อาจกลายเป็น Toxic Mentality ได้ ใจสู้ก็จริงแต่หัวร้อนมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี เพราะมันส่งผลเสียค่อนข้างเยอะกับทีม และฟุตบอลสมัยนี้ที่มีกล้อง มีVARจัดการได้หมด อยู่ที่ว่าคุณจะรอดหรือไม่รอดดุลยพินิจของ "ท่านผู้ดู" ในกล้องรึเปล่าแค่นั้นเอง

บรูโน่ต้องปรับปรุงตัวอีกเยอะ ถ้าอยากจะเป็นผู้นำทีมที่มีความสง่า และทำตัวได้สมกับเป็นกัปตันทีมอันทรงเกียรติ เขาจะต้องควบคุมอารมณ์และมีวุฒิภาวะให้มากกว่านี้

ไม่เช่นนั้นตัวเขาก็จะถูกความร้อนและอารมณ์ของตัวเองกลืนกินไป จนกลายเป็น "สารก่อดราม่า" เข้าซะเอง เหมือนเช่นในเกมนี้ที่มีหลายช็อตเกิดขึ้นและถูกตำหนิจากแฟนบอลได้

ติเพื่อปรับปรุง เพราะรัก และอยากให้เป็น "กัปตันทีม" ที่ดีสำหรับพวกเรา

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด