:::     :::

"Gold Experience" โอกาสดั่งทองคำของ Facundo Pellistri

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
1,868
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงให้แมนยูไนเต็ดครั้งแรกในชีวิต และผลงานที่เขาสร้างออกมาถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว มีจุดอะไรที่น่าสนใจบ้างที่เราเห็นจากเขาในเกมนัดนี้ ไปอ่านกันได้เลยครับ

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในเกมที่ผ่านมานั่นก็คือ การได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกของ "ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี" ปีกขวาสายสปีดชาวอุรุกวัย ที่ย้ายมาร่วมทีมเราตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2020 จนถึงตอนนี้เป็นเวลา 2 ปีกว่าๆ หรือจำนวนวันเป๊ะๆคือ "893 วัน" กว่าที่จะได้ลงเป็นตัวจริงให้ทีม ซึ่งระหว่างนั้นเขาผ่านการปล่อยยืมตัวสองครั้งไปอยู่กับอลาเบส ซึ่งตอนนี้ตกชั้นไปอยู่ลาลีกา 2 ไปแล้ว

ต้องบอกว่าตอนที่ย้ายไปอยู่อลาเบส ฟาคุนโด้ แทบจะไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงมากเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยืมตัวคำรบที่สอง ช่วงสิงหาคม 2021 ถึง มิถุนายน 2022 ฟาคุนโด้มีปัญหาอาการบาดเจ็บ และต้นสังกัดที่ยืมตัวเขาก็ทำผลงานไม่ค่อยดี ทำให้การปล่อยยืมไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่นักในเรื่องของโอกาสการลงสนามที่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ปัญหาสำคัญที่สุดของการพัฒนาฝีเท้าในตัวของฟาคุนโด้ เปลลิสตรี จึงเป็นเรื่องของ "ประสบการณ์ และชั่วโมงบินในการลงสนาม" คือสิ่งที่เขาต้องการที่สุด

นักเตะที่จะพัฒนาฝีเท้าได้อย่างดีนั้น จำเป็นมากที่จะต้องได้รับโอกาสในการลงเล่นมากขึ้นๆเพื่อเก็บกระดูก สั่งสมประสบการณ์ คุ้นชินกับการเจอและเอาตัวรอดจากสถานการณ์ในสนามเพื่อที่จะได้สร้างการตัดสินใจที่ดี มีเพลย์การเล่นที่ถูกต้องเพื่อทีม สำหรับนักฟุตบอลแล้วโอกาสและชั่วโมงบินการลงสนามสำคัญมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟาคุนโด้ยังขาดอยู่

การปล่อยยืมตัวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับนักเตะรายนี้

และนั่นกำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้าตามข่าวที่ออกมาว่า แอนโธนี เอแลงก้า และ ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี จะเป็นสองนักเตะที่ถูกปล่อยยืมให้ไปหาประสบการณ์ในซีซั่นหน้า ซึ่งก่อนจะปล่อยยืมก็จะมีการต่อสัญญาฟาคุนโด้ก่อนให้เรียบร้อยในซัมเมอร์นี้ นั่นเป็นสัญญาณของการที่เอริค เทน ฮาก เล็งเห็นแววการเล่นของฟาคุนโด้ที่จะพัฒนา และดึงกลับมาเป็นกำลังสำคัญของทีมได้ในอนาคต


ปีนี้ฟาคุนโด้ได้รับโอกาสลงเป็น Cameo ในช่วงท้ายเกมให้กับทีมตลอด หลายๆเกมก็สร้าง impact ต่อทีมได้แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่นจังหวะที่ลากหนีคู่แข่งไปจนสุดเส้นแล้วตบกลับมาให้แม็คโทมิเนย์ได้ยิง สุดท้ายก็ได้กลายเป็นประตูแรกที่โอลด์แทรฟฟอร์ดของ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ นั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกว่า การเล่นของเขามีอะไรๆที่น่าสนใจอยู่พอสมควรในฐานะปีกขวาตัวจี๊ดของทีม

ผมเชื่อว่าแฟนบอลเห็นแล้วก็น่าจะคิดตรงกันว่า เจ้าเด็กนี่ "มีของ" แน่ๆ ยิ่งทำให้น่าปั้นไว้ใช้งานมากกว่าเดิม ในความเป็นปีกสไตล์โบราณที่ใช้ความรวดเร็วโจมตีคู่แข่ง เป็นตัว "เบิร์สแดเมจ" ในลักษณะของ Explosive Winger ที่ใช้ความเร็วเอาชนะคู่แข่ง กระชากเปิดบอลที่ไม่ได้เน้นตัดเข้าในแบบ Inside Forward ในยุคปัจจุบัน แต่เป็นปีกขวาเท้าขวาที่ลากบอลผ่านคู่แข่งได้ด้วยสปีดต้น และความเร็วในการวิ่งที่หาตัวจับยาก

ในเกมกับ เรอัล เบติส เลกที่สอง ด้วยสองเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี ได้รับโอกาสในการลงสนามเป็น "ตัวจริง" ในเกมนี้มาจากเรื่องที่ว่า ปีกขวาตัวจริงอย่าง แอนโทนี่ มีปัญหาอาการป่วย จึงลงสนามไม่ได้ และสกอร์รวมค่อนข้างขาด ยูไนเต็ดนำอยู่สามลูกด้วยสกอร์ 4-1 ดังนั้นก็น่าจะเป็นการเหมาะสมที่สุดแล้ว ที่เอริค เทน ฮาก จะส่งฟาคุนโด้ ลงสนามมาทดลองเป็นตัวจริงในตำแหน่ง RW ของทีมในเกมนี้

ฟอร์มการเล่นของฟาคุนโด้ ในเกมดังกล่าวต้องบอกว่า "สอบผ่าน" สบายๆ และน่าชื่นชมมากๆในหลายๆเรื่อง หลังจากที่น้องได้รับโอกาสลงเล่นแบบเต็มๆเกม 90 นาทีไม่มีเปลี่ยนออก ประเด็นที่น่าสนใจในแต่ละหัวข้อมีดังนี้

1. ระดับความฟิตสำหรับการเล่นเต็มเกม

การที่ไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก และใช้ลงเล่นแบบเต็มๆ 90 นาทีในการเจอกับเบติส ข้อนี้ทำให้เราได้เห็นว่า ฟาคุนโด้ สามารถที่จะลงเล่นได้เต็มๆเกมในการเจอกับทีมจากยุโรปอื่นๆที่ไม่ใช่ทีมจากเกาะอังกฤษ ด้วยเกมที่ไม่ได้เข้าหนักกันจนเกินไป ฟาคุนโด้สามารถรับมือกับเกมที่มีระดับความเข้มข้นของการเล่นในเลเวลนี้ได้สบายๆ

ประเด็นเรื่องของความฟิต และการรับมือกับเกมจริง ในแมตช์ที่เกมค่อนข้างขาดแบบนี้ ฟาคุนโด้ทำได้ดี เนื่องจากเกมมันไม่ตึงเครียดมากนัก แมนยูเองก็ไม่เร่ง แค่รักษาสถานการณ์เอาไว้เท่านั้น ก็ถือว่าเป็นแมตช์ลองของ ให้ฟาคูเป็นตัวจริงได้ดี เพราะเกมไม่หนัก ไม่ตึงเครียดมาก

ถ้าเป็นเกมบนเกาะอังกฤษ จริงๆก็เชื่อว่าน้องน่าจะเป็นตัวจริงไหวในบางเกม แต่ถ้าเป็นเกมหนักๆก็อาจจะยังต้องใช้บริการของ แอนโทนี่ หรือ ซานโช่ไปก่อน เพราะสองรายนั้นประสบการณ์เต็มที่อยู่แล้ว

2. ไม่จำเป็นต้องใช้ฟาคุนโด้เพื่อแก้แทคติกในครึ่งหลังอีกต่อไป

ปกติแล้วเอริค เทน ฮาก จะใช้ฟาคุนโด้ ในลักษณะของการเป็นตัวสำรอง รอลงช่วงท้ายครึ่งหลัง เพื่อลงไปใช้สปีดความเร็วเผาคู่แข่ง และสร้างเกมรุกที่รวดเร็วด้วยเกมบุกฉาบฉวยและรุนแรงเป็นหลัก

การส่งตัวผู้เล่นที่มีสปีดความเร็วสูงลงมาช่วงท้ายๆที่คู่แข่งเริ่มขาตาย หรือหมดพลังลงไป สปีดต้นของนักเตะที่เร็วมากๆแบบนี้จะน่ากลัวสำหรับคู่แข่งมากๆ คล้ายกับกรณีที่การ์นาโช่ ลงมาช่วงท้ายเกมแล้วสร้างความปั่นป่วนให้คู่แข่งได้เยอะ

เทน ฮาก น่าจะเล็งเห็นประเด็นการใช้งานฟาคูในลักษณะนี้ จึงเน้นเก็บไว้เป็นตัวสำรองรอปรับแทคติกมากกว่า

ที่ผ่านมาเป็นแบบนั้น แต่วันนี้เอริค เทน ฮาก เปิดประตูของการใช้นักเตะเหล่านี้ในรูปแบบของแทคติกอื่นๆได้แล้ว ถ้าใครสังเกตดีๆก็จะลากยาวมาตั้งแต่ตอนที่เขา "กล้า" ใช้อเลฮันโดร การ์นาโช่ ลงตัวจริง ทั้งๆที่ยังเป็นแค่เด็กอายุ 18 แต่เทน ฮาก มองว่าถ้านักเตะดีพอ อายุก็ไม่สำคัญ การ์นาโช่ก็ได้โอกาสเป็นตัวจริงอยู่หลายเกมในซีซั่นนี้ และเริ่มที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นตัวเล่นที่สร้าง impact ในการเล่นได้ แม้จะเป็นตัวจริง (ไม่ต้องรอเป็นสำรองและลงมาช่วงคู่แข่งเหนื่อย)

ตอนนี้ประตูที่ว่านั่น เปิดให้กับ ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี เรียบร้อยแล้ว ตามการ์นาโช่ไปติดๆ ในแง่ที่ว่าเขาเริ่มได้รับโอกาสเป็นตัวจริงมากขึ้น โอกาสตรงนี้มันดีและสำคัญมากๆในเกมนัดนี้กับเรอัล เบติส จะเป็นอีกเกมที่ฟาคุนโด้จดจำไปอีกนานแน่นอน

และอนาคตเขาจะได้รับโอกาสมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นในระดับสโมสรหรือทีมชาติก็ตาม

3. "ความกล้าหาญ"

สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเกมเจอ เรอัล เบติส และแมนยูไนเต็ดบุกมาชนะ 0-1 ได้นั้น เกมนี้ฟาคุนโด้แสดงให้เห็นถึงความกล้าเล่น กล้าที่จะทำเกมบุกได้อย่างธรรมชาติในการเล่นของเขา

เกมของแมนยูยุคนี้มีความบาลานซ์กันพอดีระหว่างเกมกราบซ้าย และกราบขวา ทำให้มีการขึ้นเกมทางฝั่งฟาคุนโด้เยอะขึ้น ซึ่งดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมทีมก็จะรู้จักจุดเด่น และความสามารถของเขาดีแล้ว ถ้าสังเกตดีๆเกมนี้หากมีโอกาส ทีมจะเปิดบอลขึ้นหน้ามาให้ฟาคุนโด้ได้วิ่งแข่ง สปีดไปเอาบอลในพื้นที่แดนบนของสนามตลอด

ทุกครั้งที่เขาได้บอล ฟาคุนโด้จะสามารถสร้างเกมรุกให้เกิดขึ้นได้เรื่อยๆตลอดเกม คือพูดง่ายๆว่า ถ้าบอลมาถึง เขาก็เปิดเกมรุกด้วยตัวเองได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการกระชากใช้สปีดเอาชนะคู่แข่ง หรือจะออกบอล เล่นคอมโบกับแบ็คขวาที่วิ่งเติมขึ้นมาตลอดอย่าง อารอน วานบิสซาก้า

เกมบุกของฟาคุนโด้จึงดูแล้วลื่นไหล ดูสนุก เพราะน้องสามารถเปิดเกมได้ตลอด นั่นจึงเป็นข้อดีของความต่อเนื่องในการทำเกมรุก ที่เป็นผลของความกล้าหาญในการเล่น กล้าเล่น กล้าเปิดเกมด้วยตัวเอง เป็นความมั่นใจที่เขาสร้างขึ้นมาได้สำเร็จ จากโอกาสและการเล่นของรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนร่วมทีม ก็รู้วิธีการเล่นกับฟาคุนโด้เป็นอย่างดี

เด็กมันกล้าเล่นแบบนี้ก็ถือว่าโอกาสที่ให้ไปไม่เสียเปล่า เป็นปีกที่อย่างน้อยๆ "สร้างสรรค์" เกมรุกที่ใช้งานจริงได้ ไม่ใช่ว่าลงมาแล้วทำอะไรไม่ได้เลย ข้อนี้คือเรื่องที่เราเห็นแล้วชื่นใจว่า อย่างน้อยเซนส์การทำเกมมันมีอยู่ คาดหวังในอนาคตได้

4. "ถ่างเกมริมเส้น ดึงแนวรับออกไปวงนอก"

มิติที่เราได้เห็นเพิ่มขึ้นมาจากเกมนี้คือ การครองบอลเอาไว้กับตัว เพื่อขึงคู่แข่งในพื้นที่ริมเส้น ฟาคุนโด้จะได้บอลในพื้นที่ด้านข้างที่เป็น wide area ของสนาม และดึงช่องว่างให้แบ็คอย่าง AWB หรือมิดฟิลด์อย่าง บรูโน่ เฟร็ด สามารถเติมขึ้นมาโจมตีในพื้นที่ฮาล์ฟสเปซได้

ก่อนหน้านี้ยังเป็นสิ่งที่ไม่เห็นจากตัวฟาคุนโด้สักเท่าไหร่ ตัวเล่นที่ดึงบอลไปเล่นชิดริมเส้นของทีมเรา จะเห็นชัดๆก็คือ อันโทนี่ ที่เป็นตัวขึงเกมริมเส้นในมิติด้านกว้างของสนาม การเล่นในลักษณะนี้จะส่งเสริมให้มิดฟิลด์ หรือแบ็ค สามารถหุบเข้าไปโจมตีข้างในได้ ตอนนี้ฟาคุนโด้ สร้างสิ่งที่ว่านั้นมาได้แล้ว สามารถเห็นได้จากเกมเจอเบติสที่เมื่อบอลฝากมาที่เขา เพื่อนก็สามารถโจมตีและหาช่องเจาะตรงกลางได้เพิ่มขึ้น คู่แข่งเองก็ต้องถ่างออกมาประกบฟาคุนโด้เช่นกัน

เมื่อก่อนคือกระชากเปิดอย่างเดียว ตอนนี้เริ่มที่จะครองบอลดึงแนวรับออกไปด้วยแล้ว เยี่ยมยอดมาก

5. "บอลสุดท้าย" และการมีส่วนร่วมในการสร้างประตู

ภาพด้านบนนี้คือจังหวะที่ฟาคุนโด้ หุบเข้ามาในกรอบเขตโทษจังหวะที่ทีมได้ลูกฟรีคิก และบอลที่ถูกสกัดออกมาน้องก็เติมเข้ามาใช้จังหวะยิงได้ดี จนทำให้เว็กฮอร์สต์เกือบจะตามเข้าไปซ้ำได้สำเร็จ (ไม่งั้นได้แอสซิสต์ไปแล้ว) สังเกตดีๆระยะหลังฟาคุนโด้เล่นบอลสุดท้ายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เกมนัดก่อนที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ตาเว็กได้ประตูแรกที่โอลด์แทรฟฟอร์ด จังหวะนี้การยิงของเขาก็เกือบจะเป็นโอกาสให้เว็กฮอร์สต์เข้าฮอร์สอย่างฮอทๆในช่วงท้ายครึ่งแรกเหมือนกัน

พัฒนาการตรงนี้ดีขึ้นมาก และจริงๆฟาคูถือเป็นปีกที่มีส่วนผสมของความเป็น "Winger กึ่ง Forward" สมัยใหม่อยู่ในตัวพอสมควร ที่ทุกวันนี้จะมีปีกที่เล่นแต่ริมเส้น เปิดบอลอย่างเดียวไม่ได้แล้ว

ปีกยุคนี้ต้องยิงได้ด้วย ยุคนี้มันเถื่อน ถ้าไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ นักเตะแต่ละคนต้อง Multitasking ทำอะไรให้ได้หลายอย่างจริงๆถึงจะอยู่รอดและได้โอกาสเป็นตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นการยืนตำแหน่ง ความสามารถในสนาม

ทุกวันนี้คาเซมิโร่ก็เป็นเหมือน "หน้าต่ำที่เล่นมิดฟิลด์ได้นิดหน่อย" ของทีมเราไปแล้ว!

นอกจากจังหวะยิงดอกนี้ที่ฟาคูเข้าถึงบอลมากดยิงในกรอบเขตโทษ ประตูก่อนหน้านี้ในเลกแรกกับเบติสเช่นกัน ช่วงท้ายเกมฟาคุนโด้กระชากบอลมาด้วยตัวเองจากลูกเตะมุม หนีคู่แข่งแนวรับเบติส 2-3 คนด้วยความเร็วเพียวๆไปถึงสุดเส้น และจ่าย "บอลฆ่า" ตบกลับมาให้แม็คโทมิเนย์ได้ยิง จนกระทั่งบอลกระดอนออกมาเข้าทางเว็กฮอร์สต์นั้น ก็ถือเป็นการเล่นที่เป็นบอลสุดท้ายของฟาคูที่ดีมากๆเหมือนกัน เพราะนี่คือ "คีย์พาส" ที่เกิดขึ้นจนกลายเป็น xG ที่ทีมมีโอกาสในการจบสกอร์ได้

บอลสุดท้าย และการสร้างสรรค์ประตู ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นตัววัดผลสำเร็จของการลงสนามในนามตัวรุกของทีม ถ้าน้องยังสามารถสร้างโอกาสในการยิง สร้างแอสซิสต์ รวมถึงมีส่วนร่วมที่ดีกับเกมรุกแบบนี้ มันน่าเชียร์ และเห็นอนาคตมากๆ

ถ้าเทียบกันกับเพื่อนในทีมที่น่าเป็นห่วงอย่าง แอนโธนี่ เอแลงก้า ในความสามารถการทำเกมรุก ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี ดูดีกว่าเอแลงก้าอยู่ 1-2 ระดับไปแล้ว เพราะอย่างน้อยก็สร้างเกมได้ แต่เอแลงก้าดูเหมือนว่าจะยังทำเกมด้วยการแค่ใช้ความเร็วกระชากให้ผ่านคู่แข่งแบบทื่อๆอย่างเดียวเท่านั้น ยังทำเกมที่เป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เท่าฟาคุนโด้ในตอนนี้

ทั้งสองคนนี้จำเป็นต้องได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง ผ่านการปล่อยยืมตัวไปด้วยกันในปีหน้า เอแลงก้ามีปัญหาเรื่องจินตนาการในการเล่น (creativity) ที่จำเป็นต้องสร้างเกมรุกให้หลากหลาย และมีมิติมากกว่านี้ ซึ่งสภาพร่างกายของเขาพร้อมอยู่แล้ว เหลือแค่ไปหาชุดความคิดในการทำเกมบุกมาให้ได้เท่านั้นเอง ส่วนฟาคุนโด้ มันคือเรื่องของกระดูก ประสบการณ์ และสภาพร่างกายที่จะต้องพัฒนามากกว่านี้ แม้จะรูปร่างเล็กก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าร่างกายแข็งแกร่ง และเบียดไม่ล้มง่ายๆ ในอนาคตฟาคุนโด้จะโหดยิ่งกว่านี้อีก

หลังจบเกมกับเรอัล เบติสในนัดล่าสุด มีคำวิจารณ์ถึงเปลลิสตรีจากพิธีกรของMUTV ซึ่งเป็นอดีตกองหน้าลูกกรอกคะนองของอะคาเดมี่แมนยูไนเต็ดอย่าง Danny Webber (คนเล่น CM2001/02 น่าจะจำได้)

เว็บเบอร์กล่าวเอาไว้ว่า

"ผมคิดว่าเขา(เปลลี่)เจ๋งไปเลยนะ เขาน่าจะสร้างผลงานได้มากยิ่งกว่านี้อีกในอนาคต แต่โอกาสครั้งนี้ถือว่ามีคุณค่ามหาศาลสำหรับเขา การได้เล่นเกมใหญ่แบบนี้ ได้ลองเสี่ยงทำอะไรต่างๆ เขาจะได้รับประสบการณ์อะไรไปมากมาย และก็ยังมีอะไรอีกเยอะที่เขาจะแสดงออกมาให้เราเห็นได้ในอนาคต"

ถูกอย่างที่เว็บเบอร์บอก ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี ลงเล่นในเกมวันนี้แบบเต็มๆ มันทำให้แฟนบอลสามารถที่จะสัมผัสและมองเห็นอะไรบางอย่างได้ว่า เขาจะเก่งขึ้น และดีขึ้นกว่านี้ได้อีกในอนาคต ปัจจุบันฟาคูอายุเพียงแค่ 21 ปีไปหมาดๆเมื่อธันวาคมที่ผ่านมาเท่านั้นเอง

โอกาสการลงเล่นก็ยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย นี่ยังไม่ถึงครึ่งนึงที่เขาควรจะไปได้อีกเลยด้วยซ้ำ

จากการดูเด็กหนุ่มคนนี้ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงให้สโมสร และทำผลงานได้เข้าตา เป็นหนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มดี และมีส่วนร่วมกับเกมสูงในวันนั้น เชื่อว่าเกมนัดนี้กับเบติส จะเป็น "โอกาสที่ล้ำค่าเหมือนทองคำ" สำหรับเขาจริงๆ ที่มีโอกาสได้แสดงความสามารถให้เอริค เทน ฮาก ได้เห็น และอาจจะได้รับโอกาสต่อเนื่องในอนาคตได้

เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฟาคูอาจจะสอดแทรกขึ้นมาแย่งตำแหน่งได้หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่เราไม่รู้ เพราะนักเตะในตำแหน่งนี้ก็มีการแข่งขันสูงมากในทีม ไม่ว่าจะเป็น แอนโทนี่ นักเตะที่รู้มือกันอย่างดีกับเทน ฮาก, เจดอน ซานโช่ ที่พยายามเรียกฟอร์มของตัวเองอยู่ แถมยังมีตัวรุกอิสระที่สามารถเล่นหน้าขวาได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่าง อามัด เดียโล่ ที่ตอนนี้โชว์ฟอร์มเป็นตัวแบกของซันเดอร์แลนด์ในการยืมตัว

ต้องนับบรูโน่ แฟร์นันด์สด้วยไหมในตำแหน่ง RW ? ก็คงต้องนับ นั่นก็ขวางหน้าฟาคุนโด้อยู่เหมือนกัน ถือเป็นโจทย์ยากที่ท้าทายมากสำหรับเปลลิสตรี ที่จะทำยังไงให้ชนะใจ และ convince ให้เทน ฮาก รู้สึกว่า เขาจะต้องใช้ฟาคูเป็นปีกขวา มากกว่าที่จะดึงบรูโน่ไปเล่นตรงนั้น

หลังจากนี้ "น้องสาคู" ของเราก็คงจะต้องพยายามให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะโอกาสไม่ได้ลอยมาอยู่ตรงหน้าง่ายๆ จะต้องสู้ และแสดงสิ่งดีๆในตัวให้เฮดโค้ชอย่าง EtH ได้เห็นให้มากที่สุด แล้วโอกาสจะค่อยๆตามมา เหมือนที่ตอนนี้เขากำลังได้รับอยู่

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น Facundo Pellistri จะเป็นปีกที่น่าจับตามอง และแฟนบอลจะได้รับความสนุกของเกมฟุตบอล ผ่านการเล่นของเขาในทุกๆครั้งที่ลงสนามแน่นอน เพราะนี่คือปีกที่มีความเร็วสูง ดูแล้วสนุก ตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่เห็นเขาลงสนาม เพราะเราไม่รู้เลยว่าเขาจะสร้างเกมรุกอะไรให้เราได้ดูบ้าง

แต่เขาจะเป็น "บางสิ่ง" ที่สำคัญในอนาคต ซึ่งเก่งและดีกว่านี้แน่นอน

แววมันชัดเจนอยู่

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด