:::     :::

การเปลี่ยนแปลงที่เสือใต้รอไม่ได้

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา เปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชระหว่างทางอีกครั้ง และทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์ไม่น้อย ทว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพราะปัจจัยบางอย่างไม่สามารถรอได้

ทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียตัดสินใจปลด ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มออกจากตำแหน่ง ก่อนแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาทำหน้าที่แทนในทันที เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 

นาเกลส์มันน์ โยกจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาคุม บาเยิร์น ในซัมเมอร์ 2021 ด้วยสัญญาจนถึงซัมเมอร์ 2026 ทว่ายังไม่ครบสองปีก็มีอันต้องหลุดตำแหน่งชนิดไม่ทันตั้งตัว

ฤดูกาลนี้ บาเยิร์น ยังอยู่บนเส้นทางลุ้น 3 แชมป์ โดยในลีกตามหลัง ดอร์ทมุนด์ 2 คะแนน และมีคิวเจอกันนัดแรกหลังเบรกทีมชาติ ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เตรียมเปิดศึก แมนฯ ซิตี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ขณะที่ เดเอฟเบ โพคาล เข้ารอบก่อนรองฯ เช่นกันพบ ไฟร์บวร์ก

ในภาพรวม ผลงานของ บาเยิร์น ในยุค นาเกลส์มันน์ ไม่ได้แย่แต่อย่างใด เพียงแต่สสัญญาณเตือนและโอกาสบางอย่างบีบให้บอร์ดบริหารสโมสรต้องตัดสินใจในทันที 

โอลิเวอร์ คาห์น ประธานบริหารให้เหตุผลสำคัญว่า "เราคือหนึ่งในทีมที่มีขุมกำลังสุดของยุโรป แต่ความต่อเนื่องไม่ได้ดีขึ้น เราไม่สามารถพอใจกับฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันในปีนี้"

"ถ้าคุณดูในทุกอย่าง เราชนะเพียง 5 จาก 10 นัดในบุนเดสลีกา นั่นไม่ใช่ความทะเยอทะยานของเรา"

"ถึงแม้ฤดูกาลก่อนเราได้แชมป์ลีก แต่ตอนนี้เราเล็งเห็นว่า คุณภาพของทีมเราดูตกลงต่อเนื่องหลังจากจบฟุตบอลโลก เราเก็บชัยชนะได้น้อยลง การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจก็น้อยลง" 

"ในบางครั้ง เราจำเป็นต้องตัดสินใจ เป้าหมายของสโมสร บาเยิร์น คือสูงสุดเสมอ" 


นาเกลส์มันน์ หลุดตำแหน่งไม่ทันตั้งตัว

ขณะที่ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการกีฬา กล่าวเสริมว่า "เราทำผลงานได้ไม่สม่ำเสมอในช่วงมีนาคมปีที่แล้ว จากนั้นอีกครั้งในเดือนกันยายน และล่าสุดเราชนะเพียง 5 จาก 10 นัดในลีก เมื่อเส้นประสิทธิภาพดร็อปลง คุณต้องตอบสนอง มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย"

"เราเชื่อมั่นในตัว ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ จนกระทั่ง 5 ทุ่มของวันอาทิตย์ เมื่อคุณไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว คุณก็ต้องตอบสนอง" 

ความพ่ายแพ้ต่อ เลเวอร์คูเซ่น 1-2 ในนัดล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พร้อมกับเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้ ดอร์ทมุนด์ คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ นาเกลส์มันน์ ไม่ได้ไปต่อในการคุมทีมที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า 

ก่อนหน้านั้น บาเยิร์น ทำแต้มหล่นทั้งในเกมพ่าย โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และเสมอตลอด 3 นัดแรกหลังจบเวิลด์ คัพในการพบ ไลป์ซิก, โคโลญจน์ และ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต

และที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บาเยิร์น เลือกเปลี่ยนกุนซือในตอนนี้คือโอกาสที่ดีสุดในการได้ตัว โธมัส ทูเคิ่ล มาคุมทีม

บาเยิร์น สนใจในตัว ทูเคิ่ล มานานแล้ว แต่ช่วงเวลาที่จะได้ร่วมงานกันไม่ลงตัว โดยหลังจากแยกทางกับ ดอร์ทมุนด์ ในปี 2017 ทูเคิ่ล ก็เลือกไปรับงานต่างแดนคุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต่อด้วย เชลซี ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ซาลิฮามิดซิช พูดชัดเจนว่า "โชคดีที่มีตัวเลือกระดับท็อปว่างอยู่ สิ่งต่างๆ จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว"


ทูเคิ่ล ถูกเรียกมารับงานระหว่างทาง

หลายสื่อในเยอรมันรายงานว่าเดิมที บาเยิร์น พร้อมให้โอกาส นาเกลส์มันน์ จนถึงจบฤดูกาลก่อนเปลี่ยนแปลงในช่วงซัมเมอร์ แต่แผนการต้องเปลี่ยนทันทีเพราะไม่สามารถรอจนถึงตอนนั้นได้เนื่องจาก ทูเคิ่ล อาจตอบรับข้อเสนอทีมอื่นไปแล้ว

ขณะที่ คิกเกอร์ สื่อดังรายงานว่า ทูเคิ่ล มีกำหนดเดินทางกลับไปกรุงลอนดอนในวันอังคารที่จะถึงนี้เพื่อพูดคุยกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรับตำแหน่งกุนซือแทน อันโตนิโอ คอนเต้ 

เมื่อ บาเยิร์น รู้เรื่องนี้จึงลงมือติดต่อคุยกับอดีตกุนซือ ดอร์ทมุนด์ และ เชลซี ทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถตกลงกันได้ ทูเคิ่ล ตอบรับข้อเสนอของเสือใต้ พร้อมยกเลิกทริปกลับอังกฤษ

"มันเกิดขึ้นเร็วมาก ช่วงเวลาก็เซอร์ไพรส์ด้วย ผมไม่ได้คาดคิด และไม่ได้มีการติดต่อกันก่อนหน้านี้เลย ผมเองยังคิดว่าคงทำงานที่ต่างประเทศต่อไปด้วยซ้ำ การสัมภาษณ์ครั้งแรกคือช่วงเย็นวันอังคารที่ผ่านมา" ทูเคิ่ล เปิดเผย  

ขณะที่ มาร์ก้า สื่อในสเปนก็รายงานว่า ทูเคิ่ล ตกเป็นเป้าหมายของ เรอัล มาดริด เช่นกันเพราะมีความเป็นไปได้ที่ คาร์โล อันเชล็อตติ จะอำลาตำแหน่งหลังจบฤดูกาลนี้ แถมตามรายงานข่าวระบุด้วยว่ามีการพูดคุยกันเบื้องต้นระหว่างทูเคิ่ลกับมาดริดแล้วด้วย 

ด้วยเหตุผลที่ไล่เรียงมาทั้งหมด โธมัส ทูเคิ่ล จึงได้กลับมาทำงานในเยอรมันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีด้วยการเซ็นสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2025 และจะเริ่มงานทันทีในวันจันทร์นี้

"เมื่อคุณทำงานต่างประเทศสักระยะหนึ่ง คุณจะยิ่งตระหนักถึงคุณค่าของสโมสรฟุตบอล บาเยิร์น มากขึ้นกว่าตอนที่คุณคุมทีมเจอพวกเขาในลีก" ทูเคิ่ล กล่าว 

"บาเยิร์น คือหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและของโลกด้วยชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา ผมตอบรับข้อเสนออย่างรวดเร็ว ดีเอ็นเอของสโมสรชัดเจนมากเกี่ยวกับชัยชนะ มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทีม" 

นอกจากกลับมาทำงานในเยอรมันอีกรอบแล้ว ยังเป็นการหวนคืนภูมิลำเนาของครอบครัวที่อยู่ในครูมบัค, แคว้นบาวาเรียอยู่แล้ว 


มีโอกาสพาเสือใต้ลุ้น 3 แชมป์ทันที

ภารกิจในถ้ำเสือใต้ของ ทูเคิ่ล คือการพาทีมลุ้นแชมป์ทั้งสามรายการที่มีลุ้นในตอนนี้ซึ่งกุนซือวัย 49 ปี เชื่อมั่นว่าทีมมีศักยภาพที่สามารถทำได้ 

"การคว้าแชมป์ทั้งหมดนั้นเป็นไปได้ ทั้งหมดเกี่ยวกับรายละเอียด ผมมีไอเดียในสิ่งที่ต้องทำ และตั้งตารอคอย เราจะลงเล่นเพื่อลุ้นแชมป์ทุกรายการ" 

"สิ่งที่ ยูเลียน สร้างเอาไว้กับทีมคือเรามีโอกาสคว้าแชมป์ทั้งสามรายการ ซึ่งเราจำเป็นต้องพยายามทำให้ได้ แน่นอนว่า มันมีความเสี่ยงเข้ามาร่วมด้วย แต่เราก็ชอบความกดดันและความตึงเครียดอยู่แล้ว" ทูเคิ่ล กล่าว 

ทูเคิ่ล มีความคุ้นเคยและรู้จักกับ บาเยิร์น เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ตลอดอาชีพกุนซือที่ผ่านมา เขาคุมทีมดวลเสือใต้มาแล้ว 18 ครั้ง มากกว่าทุกทีมที่เคยเจอ 

ความทรงจำในฐานะกุนซือคู่แข่งของ บาเยิร์น เริ่มตั้งแต่สมัยคุม ไมนซ์ ในปี 2009 ต่อด้วย ดอร์ทมุนด์ จนถึงครั้งล่าสุดที่คุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เจอกันในนัดสำคัญชิงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2020 ที่ตอนนั้นเป็นเสือใต้เบียดชนะ 1-0 จากลูกโหม่งของ คิงส์เลย์ โกมัน 

"แน่นอนผมรู้จักผู้เล่นและผลงานของทีม ผมติดตามดูฟุตบอลตลอดเพราะการดูทำให้ผมดีขึ้นในทุกวัน" ทูเคิ่ล เผย

ส่วนหนึ่งในคนที่ ทูเคิ่ล รู้จักมากกว่าใครในทัพเสือใต้ก็คือ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง กองหน้าจอมเก๋าทีมชาติแคเมอรูนที่เคยร่วมงานกันมาแล้วสมัยอยู่ ไมนซ์ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 

มีการคาดการณ์ถึงนักเตะหลายต่อหลายคนที่อาจได้ย้ายมาทำงานร่วมกับ ทูเคิ่ล ในช่วงซัมเมอร์นี้โดยเฉพาะจากพรีเมียร์ลีกไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี่ เคน กองหน้า สเปอร์ส ที่ตอบโจทย์ตำแหน่งหน้าเป้าของเสือใต้เป็นอย่างดี 

รวมถึง เมสัน เมาท์ กองกลาง เชลซี ซึ่งในช่วงที่ เมาท์ ทำผลงานได้ดีสุดกับก็เป็นตอนร่วมงานกับ ทูเคิ่ล นั่นเอง นอกจากนี้ก็มีชื่อของ คริสเตียน พูลิซิช ตัวรุกชาวสหรัฐฯ ลูกน้องเก่าทั้งตอนที่อยู่ ดอร์ทมุนด์ และ เชลซี 

แต่ก่อนจึงช่วงเวลาแห่งการปรับเปลี่ยนทีม เช่นเดียวกับตอนจบฤดูกาลนี้ที่จะสามารถคว้าแชมป์ได้ครบสามรายการหรือไม่ ภารกิจแรกตรงหน้าที่สำคัญสุดคือการคุมทีมนัดแรกในฐานะกุนซือ บาเยิร์น มิวนิค 

โปรแกรมช่างท้าทายและสำคัญเหลือเกิน 

บาเยิร์น มิวนิค vs โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด