:::     :::

เอมิล สมิธ โรว์ "ผมพร้อมสู้ต่อไป"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล มีช่วงเวลาที่น่าจดจำในฤดูกาลที่แล้วหลังทำผลงานยอดเยี่ยมจนเกือบคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ทว่าในอีกมุมหนึ่งกลับไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีนักสำหรับ "เอมิล สมิธ โรว์"

สมิธ โรว์ เผชิญกับปัญหาบาดเจ็บตามเล่นงานจนแทบไม่มีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมทีม ก่อนมีข่าวตามมาในช่วงซัมเมอร์นี้ว่าอนาคตในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาจไม่สดใสนัก

แข้งวัย 22 ปี ได้ลงเล่นทั้งหมดเพียง 14 นัดจากทุกรายการในฤดูกาลที่แล้ว และเป็นการลงเล่นในฐานะ "สำรอง" ทั้งหมด ไม่ได้ออกสตาร์ตตัวจริงแม้แต่นัดเดียว

หากรวมนาทีทั้งหมดในสนามเป็นเวลาเพียง 196 นาทีเท่านั้น ถือว่าน้อยมากสำหรับบทบาทจอมทัพเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 

"นี่เป็นฤดูกาลที่ยากสุดในอาชีพนักฟุตบอลของผมเลย ผมแค่อยากมีเวลาในสนามมากขึ้นกว่านี้" 

"ผมแค่พยายามมองโลกในแง่ดีและฝึกซ้อมให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้เล่นคนอื่นๆ รวมถึง มิเกล อาร์เตต้า ปฏิบัติกับผมอย่างยอดเยี่ยม แต่ผมจะไม่โกหกว่าเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากและยาวนาน" สมิธ โรว์ มองย้อนกลับไปในฤดูกาลล่าสุด 

ย้อนไปในฤดูกาล 2021/22 ที่ยึดครองเสื้อหมายเลข 10 เป็นฤดูกาลแรก สมิธ โรว์ ทำผลงานได้สมราคายิงไป 11 ประตูจาก 37 นัดที่ลงสนาม 

อาการบาดเจ็บหนักในฤดูกาลที่แล้วเกิดขึ้นในช่วงวอร์มร่างกายหลังจบเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงต้นฤดูกาลซึ่งร้ายแรงถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณโคนขาหนีบก่อนพักยาวถึง 4 เดือน


แทบไม่มีส่วนร่วมในฤดูกาลที่แล้ว

พอกลับมาอีกครั้งในเกมเอฟเอ คัพ กับ อ็อกซ์ฟอร์ด ช่วงกลางเดือนมกราคม ก็เจองานยากในการทวงตำแหน่งตัวจริงในทีมที่กำลังลงตัวดีอยู่แล้ว ทำให้ต้องกลายเป็นสำรองทุกนัดในช่วงที่เหลือของฤดูกาล และเกินครึ่งนั่งยาวจบเกมไม่ถูกเปลี่ยนลงสนาม 

กับฤดูกาลใหม่ที่กำลังเปิดฉากในเดือนสิงหาคมนี้ สมิธ โรว์ จะมีโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอมากน้อยแค่ไหน และเจ้าตัวมองสถานการณ์ตัวเองเป็นอย่างไรบ้าง

"อาร์เซน่อล คือสโมสรของผม ผมจะไม่ย้ายไปไหน และจะไม่ยอมแพ้จนกว่า มิเกล อาร์เตต้า มาบอกผมว่าไม่ต้องการผมอีกแล้วซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น"

"อาร์เตต้า ต้อกงารให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของทีม และผมต้องต่อสู้แย่งตำแหน่ง 11 ตัวจริงคืนมาให้ได้" สมิธ โรว์ กล่าว

ในซัมเมอร์นี้ อาร์เซน่อล เป็นอีกทีมที่มีความเคลื่อนไหวในตลาดนักน่าสนใจ และสามารถปิดดีลแรกอย่างเป็นทางการได้แล้วคือ ไค ฮาแวร์ตซ์ ตัวรุกชาวเยอรมันที่ดึงมาจาก เชลซี 

ขณะที่รายอื่นๆ น่าจะตามมาในไม่ช้าไม่ว่าจะเป็น ดีแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษที่เหลือขั้นตอนอีกเล็กน้อยเรื่องโครงสร้างจ่ายเงินให้กับ เวสต์แฮม รวมถึง ยูร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังชาวดัตช์ที่ใกล้ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์  

"ผมทราบดีว่าอะไรเกิดขึ้น และชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องดีต่อสโมสรที่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม" 

"ผมรู้สึกว่าการเสริมทัพที่เรากำลังทำตอนนี้จะช่วยให้ทีมก้าวหน้าได้จริง ๆ มันน่าตื่นเต้นทีเดียว และหวังว่าเราจะไปอีกขั้นได้ในฤดูกาลหน้า"


อาจต้องแย่งตำแหน่งกับ ฮาแวร์ตซ์ ที่กลายเป็นเพื่อนร่วมทีมใหม่

โอกาสแย่งตำแหน่งตัวจริงกลับคืนมาของ สมิธ โรว์ ไม่ใช่งานง่ายไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เกมรุกฝั่งซ้ายที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ทำผลงานจัดจ้านได้ดีอยู่แล้ว เช่นเดียวกับฝั่งขวาที่ยึดครองโดย บูคาโย่ ซาก้า

ตำแหน่งที่เป็นไปได้มากสุดในการสอดแทรกเป็น 11 ตัวจริงคือตัวรุกตรงกลางในบทบาทที่ กรานิต ชาคา เล่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว 

ทว่าตำแหน่งนี้ต้องเจอกับคู่แข่งใหม่อย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่มีศักยภาพมากพอในการลุ้นยึดตัวจริงเพื่อปั้นเกมร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด

"แน่นอน (การแย่งตำแหน่งกับ ฮาแวร์ตซ์) แต่ฟุตบอลก็แบบนี้ คุณต้องรับให้ได้ ผมเพียงต้องทำงานให้หนัก มันเป็นการแข่งขันในทีมที่ดี และผมจะสู้ต่อไป" 

ส่วนในรายของ ดีแคลน ไรซ์ ที่จ่อเต็มทีในการเป็นเพื่อนร่วมทีมคนใหม่อีกราย สมิธ โรว์ ยกย่องว่า "ผมไม่สามารถอธิบายถึงความยอดเยี่ยมของเขาได้ทั้งหมดหรอก"

"ผมยังจำแคมป์แรกในทีมชาติอังกฤษได้ และประหลาดใจในความเก่งกาจของเขาอย่างมาก" 

"เขาทำได้ดีที่สุดในการฝึกซ้อมไม่ว่าจะเป็นคลาสบอล ความเข้มข้นในการเล่น เทคนิค เรียกได้ว่าทุกอย่างเลยที่ ดีแคลน ไรซ์ แสดงให้เห็น เขาเป็นผู้นำอย่างแท้จริง และอายุยังน้อยด้วย เขาเก่งมาก เก่งจริงๆ" 

หากจะมีช่วงเวลาให้ สมิธ โรว์ ได้เรียกความมั่นใจและจังหวะการเล่นกลับคืนมาได้บ้างคงไม่มีเวทีไหนที่ดีกว่าการลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีในตอนนี้

สมิธ โรว์ เป็นตัวหลักของทัพสิงโตชุดเล็กในการลุยรอบสุดท้ายที่จอร์เจียและโรมาเนียที่เป็นเจ้าภาพร่วม ก่อนพาทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ที่จะมีคิวพบกับ โปรตุเกส ในวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคมนี้


ขอเรียกฟอร์มเก่งกับสิงโตชุดเล็ก

ทีมชาติอังกฤษชุดนี้มีศักยภาพมากพอที่จะคว้าแชมป์ได้ และดาวรุ่งปืนโตจะเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการช่วยทีมลุ้นความสำเร็จระดับนานาชาติให้ได้

หากทำสำเร็จมีถ้วยแชมป์กลับบ้านคงเป็นสิ่งที่ดีสุดสำหรับ สมิธ โรว์ ที่ได้ความมั่นใจเต็มที่ในการกลับมาลุยภารกิจระดับสโมสรที่มีความท้าทายรออยู่ในฤดูกาลใหม่

เป็นฤดูกาลสุดท้าทาย แต่ สมิธ โรว์ ก็พร้อมแล้ว และไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ อย่างแน่นอน



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด