เรื่องของเรื่องคือ ตอนนี้มีข่าวรายงานมาเพิ่มเติม จาก Ben Jacobs ว่า AS Roma และ Brighton and Hove Albion สนใจในตัวของ Scott McTominay ไปเสริมทีม โดยโรม่าก็มีน้ามูเป็นผู้จัดการทีมคนเดิมที่เคยร่วมงานกันมากับแม็คโทมิเนย์ น้ามูก็ชื่นชอบในตัวนักเตะรายนี้มาก ส่วนทางด้านไบรท์ตัน ก็มีความเป็นไปได้ที่ทีมพวกเขาจะหาตัวแทนไปเผื่อว่ามีการปล่อย Moises Caicedo ได้สำเร็จ ถ้ามีการขายก็อาจจะติดต่อขอซื้อแม็คโทมิเนย์จากแมนยูไนเต็ดได้ [@JacobsBen via @UnitedStandMUFC]

ในสถานภาพปัจจุบันของเขาที่หลายๆคนมองไว้ นั่นก็คือ แฟนบอลอยากจะให้แนบแม็คโทมิเนย์ ในดีลการไปคว้าตัวนักเตะแพงๆ เช่น แฮรี่ เคน หรือกระทั่งไรซ์ที่ยังไม่official ยื่นเงินแล้วแนบแม็คเพิ่มไปในดีล นี่คือประเด็นที่แฟนบอลพูดถึงกันเป็นส่วนมาก

คำถามคือ อนาคตของแม็คโทมิเนย์ เอายังไงต่อ?

รียูเนี่ยนกับน้ามูและแก๊งค์นี้ที่โรม่าดีไหมแม็คเอ๊ย

คำตอบของหลายๆคนที่อ่านตรงนี้ก็คงจะตอบกันแบบง่ายๆไม่ต้องคิดว่า "ปล่อยสิครับพี่ เก็บไว้ทำไม" ด้วยเหตุผลสำคัญที่สุดของบทความนี้ก็คือ ตามกฎ Financial Fair Play ทีมจะสามารถใช้จ่ายได้ตามสัดส่วนของรายรับที่เข้ามาสู่สโมสร การระบายนักเตะออกจากทีม จะช่วยให้มีเงินรายรับเข้ามา จะทำให้ทีมสามารถใช้จ่ายต่อไปได้

แม็คโทมิเนย์ไม่ได้อยู่ในสถานะตัวจริงอยู่แล้ว การปล่อยผู้เล่นที่ไม่จำเป็นออกจากทีมบ้าง ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรทำให้ได้ นี่คือประการแรกสุดที่ทำไมแมนยูควรต้องหาทางผลักดันน้องแม็คออกจากทีม เพราะต้องยอมรับตามตรงว่าทีมเรามีนักเตะที่เกินความจำเป็นอยู่ค่อนข้างเยอะ ต้องระบายออกพอสมควร มีปัญหามาก่อนที่เอริค เทน ฮาก จะมาคุมทีมแล้ว

ซัมเมอร์นี้หลังจากที่ EtH ลองทีมจนรู้จักทั้งหมดของสโมสรแล้ว ซัมเมอร์นี้การโละถือเป็น priority สำคัญ

นอกจากเหตุผลเรื่องของ FFP แล้ว ก็ยังมีเรื่องของคุณภาพการเล่นของสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่หลายท่านส่ายหัว ด้วยเหตุผลต่างๆนานาของแต่ละคน เช่นด้วยเรื่องของการไม่เข้าระบบ ใช้งานยาก ฝีเท้าไม่ดี ฯลฯ แล้วแต่มุมมองของแฟนบอลทุกคน ข้อนี้ไม่มีปัญหาอะไร

ในเรื่องของจุดอ่อนจุดด้อยของแม็คโทมิเนย์ เราเห็นกันค่อนข้างชัดว่าเขาเป็นมิดฟิลด์ที่มิติการออกบอลไม่ค่อยดี ไม่สามารถเล่นโฮลดิ้งได้ทั้งๆที่ร่างกายแข็งแกร่ง แต่ทางบอล เซนส์ และความคล่องตัวค่อนข้างน้อย รวมถึง Vision การเล่นไม่ค่อยดี ไหวพริบก็ไม่ดีซะด้วย

สิ่งเหล่านี้ คนเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์จำเป็นต้องมี แต่น้องแม็คมีจุดอ่อนเรื่องเหล่านี้เยอะจริงๆ ซึ่งถ้าวัดจากจุดแข็งจุดอ่อนในตัว แกควรจะเล่นตำแหน่งอื่นซะด้วยซ้ำ เช่นเป็นกองหลังตำแหน่งเซ็นเตอร์ไปเลย แล้วเล่นเป็นตัว Ball-playing แบบสมัยนิยม น้องแม็คอาจจะเล่นได้สบายกว่านี้ จุดอ่อนก็จะไม่โผล่มาก เพราะไม่ต้องครองบอลออกบอลอะไรเยอะ เน้นเกมป้องกัน ไม่มีบอลอยู่กับตัวซะมากกว่า

หรือถ้าสร้างเพลย์การเล่นในพื้นที่สุดท้ายได้ดี น้องแม็คก็ควรจะไปเล่นเป็นกองหน้า Target man รอจบสกอร์ไปเลยอย่างที่แฟนบอลอย่างพวกเราเคยคิดกันเล่นๆว่า จับมันไปเล่นกองหน้าเลยดีไหม บางทีอาจจะได้ใช้จุดแข็งของเขามากกว่านี้ก็ได้ เพราะน้องแกเคยเล่นตำแหน่งนี้มาก่อน แล้วจังหวะจบสกอร์ แม็คโทมิเนย์ไม่ได้กระจอกเลย ถือว่าเก่งซะด้วยซ้ำ บางลูกยิงแบบกองหน้าอายทีเดียวล่ะ

เพราะงั้นเราก็เลยคิดว่า นักเตะคนนี้มีจุดอ่อนจุดแข็งที่ต้องเลือกใช้งานให้ถูกจุดจริงๆ ซึ่งมันยากมากในการใช้งาน สุดท้ายแล้ว มิดฟิลด์ Box-to-Box เติมขึ้นสุดลงสุด ก็ดูจะเข้าแก๊ปกับน้องตรงที่ไม่ใช่ตัวครองบอลหลัก และขึ้นสุดลงสุดในพื้นที่ Defensive Third กับ Final Third รอเล่นในจังหวะสุดท้ายเอา

ดูเหมือนจะพูดง่ายว่าให้เล่นตำแหน่งนี้ไปนั่นแหละ แต่การจะใช้งานแม็คโทมิเนย์เล่นกลาง Box-to-Box มีเงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ มิดฟิลด์ตัวที่เล่นร่วมกับแม็คโทมิเนย์อย่างน้อยหนึ่งคน จะต้องเป็นมิดฟิลด์สายโฮลดิ้งที่มีความสามารถในการครองบอล และคุมเกมเป็นอย่างดี

น้องเป็น Box-to-Box ที่เล่น off the ball ได้ดี และสร้างการเล่นในพื้นที่สุดท้าย ทั้งในกรอบเขตโทษตัวเอง และกรอบคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่ง ณ ตอนนี้ในทีมเรามีคาเซมิโร่คนเดียวที่จะทำแบบนั้นได้ แต่ซีซั่นที่ผ่านมาเอริค เทน ฮาก ใช้แม็คเป็นตัวสำรองของคาเซมิโร่เป็นหลัก หรือไม่งั้นก็ใช้เล่นเบอร์10ตัวบนไปเลยช่วงท้ายเกม (คือใช้มิติ B2B ครึ่งเดียวที่ให้ค้ำบนอย่างเดียวไม่ต้องถอยต่ำ) ดังนั้นสมมติฐานของสมการ Casemiro + McTominay นี้จึงยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจะออกมาดีหรือไม่ดียังไง

โอกาสจะได้ทดลองก็คงจะไม่มีด้วย

แต่แฟนๆบางท่านก็อาจจะมองว่ายังอยากเก็บแม็คโทมิเนย์ไว้เป็นตัวสแปร์ในแดนกลาง เผื่อเหลือเผื่อขาด ถ้ามีใครบาดเจ็บก็สามารถส่งแกลงเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง

จะให้เล่นตัดเกมเป็นตัวต่ำไปเลยก็ได้ ถึงแม้จะไม่ดี แต่ก็พอจะใช้งานได้บ้าง หรือจะให้เป็นตัวพิเศษที่โถมเข้ากรอบในช่วงท้ายๆเกม แบบที่ เอริค เทน ฮาก ทำ นั่นก็ยังใช้งานแม็คโทมิเนย์ได้อยู่ เอาจริงๆแม็คโทมิเนย์เป็นตัวเล่นที่สามารถใช้งานได้หมด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเบอร์ 6 แบบ Ball-winning Midfielder, เบอร์ 8 เล่น Box-to-Box, เบอร์ 10 ดันเกมสูงเข้ากรอบในลักษณะของการเป็น Second Striker 

ถ้าพิจารณาดีๆ แกเป็น Option ในแดนกลางที่ผู้จัดการทีมน่าจะชอบในความหลากหลายพอสมควร เพียงแค่ว่ามันอาจจะไปไม่สุดสักทางแค่นั้นเอง เคสนักเตะคล้ายๆแบบนี้ ในยุคเซอร์อเล็กซ์เราก็จะเห็นว่า นักเตะอย่าง จอห์น โอเชีย แม้อาจจะไปไม่สุดทาง แต่แกเป็นนักเตะอเนกประสงค์ที่ถ้ามาอยู่ยุคนี้ก็ปังแน่ๆ เพราะเล่นได้หลากหลายตำแหน่งจัดๆ เล่นแบ็ค เซ็นเตอร์ มิดฟิลด์ ได้หมด แม้กระทั่งกองหน้าก็ลงไปยิงอาร์เซนอล กับ ลิเวอร์พูลมาแล้ว

ความหลากหลายในแดนกลางของสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็สามารถใช้งานเพื่อช่วยเหลือทีมได้คล้ายๆกัน ถ้าหากเทน ฮาก พิจารณาจุดแข็งของเขาในข้อนี้ แถมด้วยอายุของน้องแม็คที่เพิ่งจะ 26 ยังใช้งานได้อีกหลายปีมากๆ 

เพราะฉะนั้นพิจารณาจากภาพรวมแล้ว ก็เพิ่งจะมีข่าวล่าสุดนี้เองที่มีคนสนใจน้องแม็ค นอกจากก่อนหน้านี้ที่เป็นนิวคาสเซิล รวมถึง เวสต์แฮม (ที่คุยๆกันเรื่องไรซ์) ล่าสุดก็เพิ่งจะมี โรม่า กับ ไบรท์ตันนี่เอง ที่สนใจสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์

แต่ข่าวก็ยังเป็นเพียงแค่รายงานที่ไม่มีความน่าจะเป็นว่า จะมีดีลเกิดขึ้นจริง

เพราะงั้นมันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่แมนยูไนเต็ดจะเก็บแม็คโทมิเนย์ไว้ต่อไปค่อนข้างสูง เนื่องจากบางครั้งการจะปล่อยนักเตะคนหนึ่งออกจากสโมสรมันไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนเล่นเกม (เล่นเกมอย่างFMก็ปล่อยยากเหอะเอาจริงๆ) มันจะต้องมีทีมที่สนใจผู้เล่นดังกล่าว ยื่นข้อเสนอเข้ามาเท่านั้น ถ้าไม่มีก็คงจะต้องเก็บไว้อยู่กับทีม และช่วยงานเอริคกันต่อไป

เรารู้ดีว่าผู้อ่าน หรือแฟนบอลคิดยังไง ส่วนตัวผู้เขียนเองก็เห็นว่าควรปล่อยเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะเกลียดชังอะไรเลย จริงๆรักน้องมากเพราะยังไงก็เป็นเด็กปั้นของสโมสร แต่ต้องยอมรับความจริงกันว่าฝีเท้าของเค้ามันใช้งานยาก เงื่อนไขเยอะ จะให้ลงไปแบกทีมในฐานะตัวจริงก็ลำบาก แถมจะพัฒนาให้พีคยากมาก

การแข่งขันทุกวันนี้ค่อนข้างสูง ทีมก็ต้องเน้นทุกถ้วย โอกาสจะส่งเขาลงไปเรียกฟอร์ม เรียกความมั่นใจมันก็น้อย

ผู้เขียนเคยมองว่า อยากจะอดทนรออีกสักประมาณ 2-3 ปี เพราะนักฟุตบอลบางคน "พีคตอนแก่" ก็มีให้เห็น อย่างเจมี่ วาร์ดี้เป็นต้น หรือแม้กระทั่ง "ปรินซ์ออฟสก็อตต์" ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์เอง ถ้าใครจำได้ กว่าที่เฟล็ทช์จะฟอร์มเทพขึ้นมา ก็อายุจะเข้าสามสิบแล้วเหมือนกัน โอกาสที่แม็คโทมิเนย์จะเข้าสู่ร่างพีคตอนอายุเยอะกว่านี้ มันก็ยังมีอยู่

ยังไงก็ตาม เอาเป็นว่า ถ้าเราปล่อยเขาออกจากทีมไม่ได้จริงๆ ก็ให้มองในแง่บวกของการขายไม่ออกว่า การเก็บเขาไว้กับทีม ก็ยังมีโอกาสที่น้องยังอาจจะฟอร์มพีคในอนาคตก็ได้ จะต่อสัญญาหรือไม่ก็แล้วแต่มุมมองเทน ฮากเลย (แต่ก็ค่อนข้างชัดนะว่าเทน ฮาก วางตัวแม็คไว้เป็นแค่สำรองเท่านั้น)

ปล่อยไม่ออกก็ใช้งานต่อแค่นั้น

ยังไงก็ติดตามกันต่อไปว่า สรุปแล้วอนาคตของเขาจะเป็นยังไง หากว่ามีข่าวกระพือมาเกี่ยวกับนักเตะอังกฤษอีก เช่น แมนยูย้อนกลับมาล่าดีลแฮรี่ เคน กันอีกที ก็อาจจะมีชื่อของแม็คโทมิเนย์เข้ามาเกี่ยวพันด้วย ลักษณะจะออกมาเป็นแบบนั้นมากกว่าที่จะมีทีมมาขอซื้อแมนยูในราคา 30-40 ล้านเลย

ทีมตัวเต็งที่มีข่าวกับเขามาตลอดอย่าง นิวคาสเซิล ก็คว้าตัว โตนาลี่ เข้ามาแล้ว เพราะงั้นคงไม่มีทางแน่นอนที่สาลิกาดงจะมาซื้อแม็คโทมิเนย์ไปซ้ำซ้อนและทับตำแหน่งกันอีก

ก็ได้แต่หวังว่า ข่าวกับโรม่า และ ไบรท์ตัน จะมีมูลความจริงที่ใกล้เคียงโอกาสเป็นไปได้บ้าง เพราะเอาจริงๆแล้วน้องแม็คไม่ได้เป็นนักเตะที่กระจอกเลย ข้อนี้พิสูจน์ได้ที่ฟอร์มของเขากับทีมชาติสกอตแลนด์ เขามักจะทำประตูได้ และเล่นใน Rating ที่สูงตลอดกับทีมชาติ

ปัญหาอยู่ที่แมนยูเหรอ? ไม่ใช่ มันอยู่ที่ "เงื่อนไข" ต่างๆ ที่แมนยูไนเต็ดยังไม่ลงล็อคกับเขานั่นเอง

ทางแก้มันก็มีสองทางที่เราคุยกันมายาวเฟื้อยในบทความนี้แหละครับ ก็มีแค่ปล่อยตัวออกไปให้ได้ หรือไม่ก็ เก็บไว้ต่อไปที่นี่แหละ ถ้าน้องยอมรับสถานะตัวสำรองได้ เป็นตัว Squad Player ที่คอยสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนลงสนามเหมือนที่เป็นอยู่ หากไม่มีปัญหาอะไร เก็บน้องไว้แบบนี้ก็ได้ ถ้าไม่มีใครยื่นข้อเสนอเข้ามาจริงๆ

ติดตามกันต่อไป เราก็หวังว่าน้องแม็คจะได้รับโอกาสอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะย้ายออก หรืออยู่ต่อกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดครับ

#BELIEVE 

-ศาลาผี-