:::     :::

จิ๋วแต่แจ๋วกับ "ลูก้า โมดริช"

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
856
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ด้วยส่วนสูงเพียง 172 เซ็นติเมตร

ทำให้ “ลูก้า โมดริช” ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก หรือตั้งแต่ที่เขายังเป็นเพียงนักเตะเยาวชน เขาผ่านการโดนสบประมาท และปฏิเสธมาอย่างมากมาย จนสุดท้าย เขาต้องใส่คว่มอดทน และฝ่าฟัน จนก้าวมาอยู่จุดสูงสุดของวงการลูกหนัง 


ช่วงนี้ เราลองย้อนไปดูเส้นทางลูกหนังบางส่วนของเขากันหน่อย ลองดูกันว่า จากนักเตะตัวเล็กๆ สามารถก้าวมาเล่นทีมระดับโลกอย่างเรอัล มาดริด รวมถึงคว้ารางวัลส่วนตัวของนักเตะที่สูงที่สุดอย่าง “บัลลงดอร์” ได้อย่างไร ? 


“ฟุตบอลเป็นมากกว่าเรื่องพลัง และขนาดร่างกาย”


โมดริช เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมเอ็นเค ซาดาร์ ในวัย 10 ขวบ 


เขามีโอกาสเติบโตขึ้น เมื่อถูกสโมสรดังของประเทศ อย่างไฮจ์ดุ๊ก สปลิท ส่งสารเชิญไปทดสอบฝีเท้า แต่ต้องลงเอยด้วยความผิดหวัง เพราะทีมมองว่า เขาตัวเล็ก และอ่อนแอเกินไป ซึ่งการทดสอบหนนั้น จบลงด้วยเวลาเพียงสั้นๆ


เพียงไม่นานนัก ดินาโม ซาเกร็บ ทีมยักษ์ใหญ่ของลีก ก็เล็งเห็นพรสวรรค์บางอย่างในตัวของโมดริช จนคว้าตัวเข้าร่วมอะคาเดมี่ พร้อมกับผลักดันสู่ทีมชุดใหญ่ นี่คือจุดเปลี่ยนของชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเลยทีเดียว


“ตลอดเส้นทางลูกหนังของผม โดยเฉพาะตอนเริ่มต้นที่ลีกโครเอเชีย ผู้คนมักจะบอกกันเสมอเลยว่า ผมไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ แถมบอกอีกด้วยว่า ผมยังดีไม่พอ เพราะผมรูปร่างไม่ใหญ่ และไม่แข็งแรง” 


“อย่างไรก็ตาม คุณต้องเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับชาวโครเอเชีย หลังจากทุกอย่างเกิดขึ้นจากสงคราม เรามีความแข็งแกร่งขึ้น สิ่งที่เราผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย สงครามทำให้เราเข้มแข็งมากกว่าเดิม เราไม่ใช่คนที่ง่ายต่อการทำลาย เรามีความปรารถนาอันแรงกล้าว่า เราสามารถประสบความสำเร็จได้ ”

จอมทัพทีมชาติโครเอเชีย ออกมากล่าวต่อว่า “พ่อของผมต้องต่อสู้อย่างหนัก เพื่อให้ผมเล่นฟุตบอล พ่อต้องใช้เงินจำนวนมาก ในการส่งผมเข้าไปฝึกในโรงเรียนฟุตบอล พร้อมกับจัดหารองเท้าสตั๊ด และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ”


“พ่อทำงานหนักมากในกองทัพ ในฐานะของช่างอากาศยาน ท่านพยายามหาวิธี ในการสนับสนุนให้ผมเล่นกีฬาชนิดนี้”


“พ่อของผมมีขาที่แข็งแรง โดยเฉพาะตรงน่อง ผมคิดผมได้รับสิ่งเหล่านั้นมาจากท่าน ร่างกายส่วนบนของผมมีความแข็งแรง ผมจึงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้คู่แข่งแย่งบอลจากเท้าของผมยากขึ้น"



"กระนั้น ผมมองว่าฟุตบอลเป็นมากกว่าเรื่องพลัง และขนาดร่างกาย ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่น ถือเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน เด็กตัวใหญ่มักจะเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเสมอ แต่เมื่อทุกคนเติบโตขึ้น มันก็เป็นเรื่องของความสามารถแล้ว”

จากดินาโม ซาเกร็บ - โมดริช มุ่งหน้าสู่สเปอร์ส ในศึกพรีเมียร์ลีก ความกังขายังคงเข้ามาทักทายอย่างต่อเนื่อง 


แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตผู้จัดการทีม “ไก่เดือยทอง” ย้อนความทรงจำว่า ต้องเคยนั่งถกเครียดกับทีมโค้ช ที่กำลังมองว่า เขาไม่น่าเอาตัวรอดจากการเล่นกองกลาง เพราะร่างกายอาจไม่แข็งแกร่งพอที่จะเล่นตำแหน่งนี้ 


ขณะที่ดาเมี่ยน โคมอลลี่ อดีตผู้อำนวยการกีฬาของทีมสเปอร์ส ได้บอกเช่นเดียวกันว่า ในช่วงปี 2008 ที่ทีมคว้าตัวโมดริช มาร่วมทีม ทีมงานซื้อขายต้องโดนโจมตีอย่างหนัก เนื่องจากโมดริช ยังไม่มีจุดเด่นเรื่องการยิงประตู 


ผลสุดท้าย ดาวเตะร่างเล็กพิสูจน์ตัวเองเป็นผลสำเร็จ จนเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลมาครอง


จากสเปอร์ส สู่เรอัล มาดริด สโมสรที่ว่ากันว่า เต็มไปด้วยความกดดันที่แสนจะมหาศาลแห่งหนึ่งของโลกลูกหนัง โมดริช ถูกโยนเครื่องหมายคำถามตัวโต จากมุมมองตำนานอย่าง “กูตี” ที่บอกว่าฝีเท้าแบบนี้ ไม่ดีพอที่จะสวมเครื่องแบบ “ราชันชุดขาว” 


เพียงไม่กี่อึดใจ สื่อดังอย่างมาร์ก้า ตอกย้ำด้วยแบบสำรวจความเห็น ที่ลงมติว่าเขาเป็นการเซ็นสัญญาที่ย่ำแย่ในลาลีกา สเปน 


เจ้าของส่วนสูง 172 เซนติเมตร ไม่เคยใช้ปากพร่ำบ่น เขาใช้ผลงานที่ผลิดอกออกผลเป็นกระบอกเสียง ด้วยการเป็นฟันเฟืองสำคัญในแดนกลางของเรอัล มาดริด พร้อมกับเล่นกับทีมมาเกิน 10 ปีเต็มแล้ว 


เกียรติยศถูกประทับตราลงในชีวิตอย่างมากมาย ทั้งแชมป์ลาลีกา 3 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 4 สมัย และสโมสรโลก 5 สมัย 


นี่คือเรื่องราวของเด็กชายตัวเล็กๆ ที่หลายคนสบประมาท สู่นักเตะโครเอเชีย คนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าบัลลงดอร์ ...... ลูก้า โมดริช

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด