แชมป์ครึ่งแรกในรอบ 43 ปี และแชมป์ฟุตบอลยุโรปหนแรกนับตั้งแต่ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1965 ย่อมสร้างความยินดีปรีดาให้กับเหล่าบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับ "ขุนค้อน" และความตื่นเต้นกับยุคใหม่ที่จะมาถึง

สองเดือนผ่านไปนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ดูเหมือนว่าความหวังนั้นจะเริ่มถูกขมวดคิ้วว่าสโมสรจะเดินหน้ายังไงต่อ 

ทีมเสียมิดฟิลด์คนสำคัญของสโมสรอย่าง เดแคลน ไรซ์ ไปให้กับ อาร์เซน่อล ซึ่งอันที่จริงแม้ว่าจะน่าเสียดาย แต่ทาง เวสต์แฮม เองรวมถึงแฟนบอลย่อมจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น

ปัญหาก็คือเม็ด 100 ล้านปอนด์ ไม่นับส่วนเสริม 5 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไข ทีมยังไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักเตะคนใหม่ได้เลย แม้ว่าจะมีข่าวกับผู้เล่นมากหน้าหลายต่อก็ตาม

นั่นทำให้ตอนนี้พวกเขาเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่ได้นักเตะใหม่มาเสริมทีมเลย

เวสต์แฮม มีข่าวกับนักเตะมากมายหลายคน เพราะพวกเขาต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมหลังการเสีย เดแคลน ไรซ์

เจมส์ วอร์ด-เพราส์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ ชูเอา ปาลญินญ่า คือสามคนที่อยู่ในเรดาร์ของสโมสร นอกเหนือจากนี้ก็มี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในตำแหน่งเซนเตอร์ที่ทีมยังต้องการเสริมด้วยเช่นกัน

หากไม่นับการได้แชมป์ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ถ้ามองที่ตารางพรีเมียร์ลีกที่ทีมจบไกลถึงอันดับ 14 และต้องหนีตกชั้นถึงช่วงท้ายซีซั่นถ้าจะบอกว่าเป็นความล้มเหลวก็ไม่เกินไปนัก แม้สุดท้ายจะรอดก็ตาม

นั้นทำให้แฟนบอลอยากเห็นทีมมีแข้งหน้าใหม่ฝีเท้าดีเข้ามา เพราะอย่างที่บอกว่าการเสีย เดแคลน ไรซ์ ก็สร้างความเจ็บปวดมากอยู่แล้ว

เรื่องนี้ถูกตั้งคำถามไปถึง เดวิด ซัลลิแวน เจ้าของสโมสร รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการเสริมทีมว่าจนถึงตอนนี้ที่ฤดูกาลใหม่กำลังจะมาถึงทีมยังไม่ได้ใครเจ้ามา

จริงอยู่ว่าทีมมีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการอย่าง เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ที่ 30 ล้านปอนด์ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ 20 ล้านปอนด์ โดนตอบปฎิเสธกลับมา ทีมก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้

หรือจะ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่โดนตอบปฎิเสธข้อเสนอ 40 ล้านปอนด์ และ ชูเอา ปาลญินญ่า ที่โดนปัดตัวเลข 45 ล้านปอนด์ ทำให้แฟนบอลตั้งคำถามอยู่บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไม่มีมีใครอยากมาร่วมทีม?

คนอื่นที่ถูกเชื่อมโยงก็อีกไม่น้อยอย่าง เอ็ดสัน อัลวาเรซ ของ อาแจ็กซ์, เอียน มาตเซ่น ของ เชลซี และ อเล็กซ์ สกอตต์ ของ บริสตอล ซิตี้ รวมถึง โจนาธาน ทาห์ ของ เลเวอร์คูเซ่น ก็ไม่มีความคืบหน้า

ด้วยจำนวนนักเตะที่ดูว่าทีมสนใจไปทั่ว ทำให้เกิดคำถามว่าสรุปแล้วแผนงานของทีมคืออะไรกันแน่ นักเตะในตำแหน่งไหนที่สโมสรต้องการอย่างแท้จริง

อย่าลืมว่าในฤดูกาลนี้นอกจากฟุตบอลในประเทศแล้ว ทีมยังมีโปรแกรมใน ยูโรปา ลีก เข้ามาอีก เท่ากับว่าทีมจะต้องเล่นทั้งสุดสัปดาห์และกลางสัปดาห์ ด้วยขนาดทีมตอนนี้ต้องบอกว่าเล็กเกินไป นอกจากนี้จะใช้เด็กเล่น

นั่นทำให้ ทิม สไตด์เท่น ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคคนใหม่อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากหลังเข้ามารับงานนี้เพียงแค่เดือนเดียว แต่งานที่ต้องทำตอนนี้หนักหน่วงจริงๆ 

ยังไม่รวมถึงแผนงานที่ยังต้องคุยกันยาวกับ เดวิด มอยส์ นายใหญ่ของทีมที่ต้องการผู้เล่นชาวอังกฤษมากกว่า ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เกิดความตึงเครียดขึ้นมา

จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ เดวิด มอยส์ ยืนยันว่าทีมกำลังลุยหนักในตลาดเพื่อหานักเตะเข้ามา แต่ขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่นักเตะในทีมจะออกไปอีก

อีกมุมหนึ่งทาง เดวิด ซัลลิแวน อาจจะไม่ต้องการถูกขูดรีดจากสโมสรอื่นเพราะมองว่าทีมได้เงินก้อนใหญ่มาจากการขาย เดแคลน ไรซ์  แต่ว่าก็มีอีกมุมที่ว่าทีมรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็รั้ง เดแคลน ไรซ์ ไม่ได้ตั้งแต่เดือนมกราคม ทีมควรจะเริ่มต้นกระบวนการเสริมทีมตั้งแต่ตอนนั้นได้แล้ว

มองในแง่ดีว่าซัมเมอร์ที่แล้วนักเตะอย่าง ธีโล เคห์เรอร์, ลูกัส ปาเกต้า และ เอแมร์ซอน ต่างก็ย้ายมาร่วมทีมหลังจากที่ฤดูกาลเริ่มต้นไปแล้ว แต่ในแง่ร้ายก็คือมันต้องใช้เวลาในการปรับตัว สุดท้ายดูเหมือนจะไม่เวิร๋ค

ถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึง 10 วันก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น สาวกขุนค้อนคงต้องลุ้นกันตัวโก่งว่าใครจะเป็นแข้งใหม่คนแรกที่ได้เข้ามาสู่สโมสร

แต่เชื่อเถอะว่าจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วที่ทีมเสริมทีมช้าเกินไป สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นมันส่งผลตลอดซีซั่น และในปีนี้ไม่แน่ว่าทีมอาจจะเจองานหนักกว่าเมื่อปีที่แล้ว