เฮนเดอร์สัน เลือกออจาก ‘หงส์แดง’ แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยไป อัล-เอ็ตติฟัค แห่ง ซาอุดี โปร ลีก ทิ้งปลอกแขนไว้ให้ ฟาน ไดค์ สวมแทนแบบมี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นท่านนรอง
ความรับผิดชอบที่มากขึ้นสำหรับแข้งวัย 32 ปี นำไปสู่นิยามที่เขาพอจะพูดถึงกัปตัน ลิเวอร์พูล ว่าต้องใจถึง พึ่งพาได้ ในทุกสถานการณ์
“มันตื่นเต้นทีเดียวที่ถูกเลื่อนชั้นเป็นกัปตันทีมคนใหม่”การเปิดปากผ่าน ‘สปอร์ต เมล’
“ก็รู้สึกว่าพอ จอร์แดน ออกจากทีมไปตัวเองคงเป็นแคนดิเดต แต่เรียนตามตรงตำแหน่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมใฝ่ฝันถึงในวัยเป็นผู้เล่นหน้าอ่อน”
“เวลานี้เรื่องพิเศษเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งสวยงามของชีวิต แล้วผมไม่เคยมองว่ามันคือของตาย”
“ด้วยบทบาทดังกล่าวมันทำให้ต้องรับผิดชอบมากขึ้นทั้งในและนอกสนาม”
“ผมเห็นว่า ‘เฮนโด้’ ทำมันได้อย่างน่าทึ่ง ก็คงปรึกษาแกว่าทำอะไรเทือกนั้นอย่างไรเมื่อขึ้นเป็นกัปตัน ลิเวอร์พูล”
“คงไม่ถึงขั้นถามเซ้าซี้ แต่จะพยายามทำมันในทางของตัวเองด้วย”
ฟาน ไดค์ ยังพูดถึเสียงวิจารณ์จาก มาร์โก แวน บาสเท่น ตำนานกองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่ติงว่าเขาขาดบุคลิกภาพผู้นำที่ดีว่าของพรรค์นี้ดูเอาในสนาม และผลงานทีม
เพราะเขาไม่ใช่ประเภทดีแต่พูด
“ผมจะออกมาพูดอะไรเมื่อมันถึงคราวจำเป็น ก็แค่นั้น” ฟาน ไดค์ ดึงหน้านิ่งตอบ
“คุณไปฝืนตัวเองไม่ได้หากต้องทำในสิ่งที่เราไม่สบายใจ แต่ผมสบายใจนะหากต้องพูดต่อหน้าพวกพ้อง สารที่อยากสื่อสำหรับฤดูกาลนี้คือทุ่มสุดกำลัง ตอบสนองจากผลงานเมื่อซีซั่นก่อน”
ความเปลี่ยนแปลงระหว่างซีซั่นของ ‘หงส์แดง’ถือว่าใหญ่หลวง 4 แข้งซีเนียร์หมดสัญญาไปได้แก่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์-อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน
ตามด้วยการขาย ‘เฮนโด้’ และ ฟาบินโญ่ สู่ ซาอุดี โปร ลีก
ช่างสวนทางขาเข้ามีเพียง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิก โซอบสไล เท่านั้น มันเลยเกิดความกังขาว่าพวกเขาจะสามารถกลับไปแข็งแกร่งอย่างเดิมไหวไหม
ฐานะคนที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ต้นศักราช 2018 ร่วมคว้าแชมป์ทุกรายในยุคผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ จนถึงฤดูกาลล่าสุดภาพรวมขาลงทั้งองค์กรจบลำดับ 5 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พลาดตั๋วชปล.
ขณะที่บอกถ้วยก็มือเปล่าทุกอีเวนต์
วัฏจักรลูกหนังคือเรื่องปกติ แต่ ‘วีวีดี’ ก็ยังหวังลึกๆว่า ลิเวอร์พูล ยังสามารถขึ้นไปคั่วแชมป์ 4 รายการเหมือนฤดูกาล 2021-22
“เราอยากเป็นทีมที่ขึ้นไปท้าแย่งถ้วยรางวัล คนถึงวันสุดท้ายฤดูกาลอีกครั้ง” ฟาน ไดค์ เสริม
“ก็คงคิดถึงพวกพ้องที่ย้ายออกไป, เพราะกอดคอผ่านเรื่องดีๆมากมายด้วยกัน แต่ชีวิตก็แบบนี้ คนอยู่ก็สู้กันไป”
“ฤดูกาลที่แล้วเราน่าผิดหวัง และรู้สึกว่าต้องแก้ไขอะไรให้มันถูกต้อง เชื่อไหมช่วงหน้าร้อนคิดถึงมันทีไรก็เจ็บปวดเพราะไม่คุ้นกับอะไรแบบนั้น”
“เราอุตส่าห์สร้างผลงานระดับสูงมาหลายปีดีดัก แต่จู่ทุกอย่างก็พัง มันช่างน่าผิดหวัง หนนี้ต้องแปลงบทเรียนดังกล่าวเป็นแรงจูงใจ”
ควมท้าทายอีกอย่างสำหรับ ฟาน ไดค์ คือระบบการเล่นใหม่ 3-2-2-3 ที่ เทรนท์ อล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต้องขึ้นเล่นกองกลาง
เท่ากับจะเหลือแค่แข้งดัตช์บัญชาการหลังบ้านร่วมกับ อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เหนื่อยแน่นอนสำหรับการยืนระยะทั้งฤดูกาล
เพราะแค่ช่วงปรี-ซีซั่น 5 เกมเสียถึง 11 ลูก (เฉลี่ยเกินนัดละ 2 ประตู) สวนทางทางแดนหน้าที่ยิงระเบิด 16 ลูก
“ผมตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็นจากผู้เล่นใหม่ พวกเขาคุณภาพสูงและจะสามารถช่วยทีมก้าวหน้าอย่างแน่นอน” กัปตันป้ายแดงกล่าว
ส่วนกระแสเรื่อง มอยเซส ไกเซโด้ กองกลาง ไบรท์ตัน ที่แย่งชิงกับ เชลซี โดยยังไม่รู้บทสรุปออกทางไหน
ฟาน ไดค์ เชื่อมั่นในทุกการตัดสินใจของสโมสรต่อให้สนนราคาทะลุ 110 ล้านปอรด์
“เราทั้งหมดต่างต้องการเซ็นสัญญาผู้เล่นคุณภาพ ผมเชื่อใจสโมสร พวกเขาดำเนินธุรกิจด้วยดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา แล้วทำไมหนนี้จะไม่เข้าท่า?”
“ทั้งนี้เมื่อกล่าวถึงผู้เล่นที่ถูกเชื่อมโยง มันก็ทำเอาสับสนไปหมด ทุกคนบนโซเชี่ยล มีเดีย ต่างทำตัวเป็นผอ.กีฬากันหมด”
เป้าหมายสูงสุดส่วนตัวของ ฟาน ไดค์ คือการชูตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังสนามเหย้าแอนฟิลด์ แต่ด้วยฤดูกาลที่ยาวนานยากบอกว่าบทสรุปของเรื่องจะออกแบบไหน
บอกได้แค่ว่าทุ่มกาย ทุ่มใจเกิน 100%
“เราต้องสนุกไปตลอดเส้นทางการแข่งขัน”
“รู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบมากหน่อย แต่ก็ต้องให้คนอื่นมีส่วนร่วมด้วย, พรรคพวกที่แวดล้อม และกลุ่มผู้นำในห้องแต่งตัว”
“มันจะต้องเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลอันยาวนาน, เกมให้เตะเพียบ และประสบการณ์ ยูโรปา ลีก”
“ก็ตั้งตารอมัน เพราะตัวเองคือส่วนหนึ่งของสโมสรอันสวยงามแห่งนี้”
