เมื่อขั้วการเมือง(กำลัง)เปลี่ยน ขั้วลูกหนังไทยเองย่อมเปลี่ยนเช่นกัน
แม้จะเหลือเวลาอีก 8-9 เดือนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ แต่หลาย ๆ อย่างก็เริ่มเห็นเค้าโครงชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การประกาศกร้าวชิงตำแหน่ง “นายกสมาคมฟุตบอล” ของ นวลพรรณ ล่ำซำ สร้างแรงกระเพื่อมให้ผู้ท้าชิงคนอื่น ๆ ไม่น้อย
ถามว่าเพราะอะไร ?
ที่ผ่านมา วงการฟุตบอลไทยถูกแบ่งออกเป็น “สองขั้ว” อยู่ตลอด และเมื่อโลกยุคปัจจุบันถูกย่อมาอยู่ในฝ่ามือ ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ แฟนบอลสามารถรับรู้ได้ทันที ซึ่งมีทั้งข่าวจริง ข่าวปั่น พาดหัวล่อเป้าให้คนด่า ลามไปจนถึงเฟกนิวส์
หลายครั้งจึงเกิดการเมืองลูกหนังผ่านสื่อ โจมตีป้ายสีอีกฝ่ายกันไปมา
แต่ คุณแป้ง น่าจะเป็นคนฟุตบอลเพียงไม่กี่คน ที่สามารถยืนอยู่ตรงกลาง และเดินเข้าหาพูดคุยกับทั้ง 2 ขั้วได้อย่างไม่มีปัญหา
อีกทั้งภาพของเขาเองก็แทบไม่มีด้านลบให้เห็น ทุ่มเท ทำงานในวงการฟุตบอลไทยมานาน แข็งแรงทั้งด้านทุนทรัพย์ และ คอนเนคชัน
แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ ภาพในวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ในงานแถลงข่าว ไม่ได้มีแค่คุณแป้ง แต่มี เนวิน ชิดชอบ และ ปวิณ ภิรมย์ภักดี นั่งขนาบข้างร่วมกัน
นั่นคือการบอกเป็นนัย ๆ แล้วว่าทั้งคู่นั้นพร้อมสนับสนุนและผลักดัน คุณแป้ง นั่งเก้าอี้ประมุขบอลไทยคนต่อไป
พ่อใหญ่บุรีรัมย์ สายป่านทางการเมืองเพียบ รู้จักมักจี่ดีกับสโสรสมาชิกที่มีสิทธิลงคะแนน ขณะที่ คุณปวิณ ก็รู้ ๆ กันดี แบรนด์ธุรกิจของตระกูล คาดหน้าอกเสื้อสโมสรฟุตบอลในไทยนับไม่ถ้วน
จึงไม่แปลกใจที่ 1 ในแคนดิเดตท้าชิงเก้าอี้นายกสมาคมอย่าง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ประกาศใส่เกียร์ถอยตั้งแต่ไก่โห่
อ้างอิงผ่านบทสัมภาษณ์จากเฟซบุ๊ก คุณบี บางปะกง อดีตดาวยิงทีมชาติไทย อาจบอกว่า คุณแป้งคือคนที่เหมาะสมและคุณสมบัติเป็นผู้นำ รวมถึงมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน จึงยอมเปิดทางให้เธอดีกว่า
แต่ในความเป็นจริง หลายคนรู้ดีว่าการเปิดตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมมี 2 เก๋าอย่าง เนวิน และ ปวิณ ที่พร้อมเป็นลมใต้ปีกให้ ยังไงก็ “สู้ยาก”
ภาษาฟุตบอลเรียกว่า “ไม่ฝืน”
แคนดิเดตที่เหลือปัจจุบัน (แบบที่ประกาศท้าชิงจริง ๆ) จึงมีเพียง คุณพอลลีน งามพริ้ง อดีตแกนนำกลุ่ม "เชียร์ไทยเพาเวอร์" ที่ยังยืนยัดสู้ตามวิถีและอุดมการณ์ของตัวเอง ซึ่งน่าสนใจว่าในห้วงเวลาอีก 8-9 เดือน เจ้าตัวจะใช้กลเม็ดใด เอาชนะใจสโมสรสมาชิก
ส่วนเจ้าของเก้าอี้คนปัจจุบันอย่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่สถานะเวลานี้แทบจะ “ปล่อยจอย” และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะลงสู้ต่อ หรือให้คนข้างกายชิงตำแหน่ง แต่เวลานี้เสียงสโมสรสมาชิกที่เคย “สนับสนุน” คุณอ๊อด บางส่วนได้เปลี่ยนไปจับมือกับ คุณแป้ง เรียบร้อยแล้ว
ถึงต่อให้มีการ “ตั้งรัฐบาลใหม่” เกิดขึ้น ผู้เขียนยังเชื่อว่าจะไม่กระทบอะไรกับเสียงสนับสนุน คุณแป้ง แม้แต่น้อย
ไม่ได้ดูถูกแคนดิเดตรายอื่น แต่เมื่อยึดตามหลักความเป็นจริง ยิ่งมองไปที่ “คู่แข่ง” แล้ว ยังไม่เห็นวี่แววบุคคลใดที่จะมาสั่นคลอนหรือ “ท้าชิง” เก้าอี้จากคุณแป้ง ได้เลยเวลานี้
หากไม่มีปรากฏการณ์พลิกฟ้าดินถล่ม หรือเกิดอุบัติเหตุลูกหนังใด ๆ เราได้นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนใหม่ไปแล้ว ตั้งแต่ยังไม่เลือกตั้ง
แค่รอประกาศออฟฟิเชียลอีก 8-9 เดือนหน้าเท่านั้น
