ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช: เขาว่ากันว่าคือ ป็อกบา เวอร์ชั่นสมบูรณ์แบบ
ใช่ครับ เรากำลังพูดถึง ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช กองกลางพลังไดนาโมที่จ่อจะย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ ลิเวอร์พูล ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช เป็นนักเตะชาวดัตช์ที่แจ้งเกิดจากอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ และมีดีกรีรางวัล Ajax Talent of the year ถึงสองสมัย รวมถึงยังเป็นหนึ่งในขุนพลเยาวชนดัตช์ชุดที่คว้าแชมป์ ยูโร ยู-17 เมื่อปี 2018 มาอีกด้วย บทบาทของ กราเฟ่นเบิร์ช ในทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ถือว่าโดดเด่นมาก ๆ เขาเป็นกองกลางตัวหลักของทีมตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 เล่นในบทบาทกองกลางตัวรับ กับระบบ Double Pivot โดยส่วนใหญ่จะยืนฝั่งซ้าย คอยสกรีนบอล ตัดบอลและเชื่อมเกมขึ้นไปแดนบน มีการทะลุทะลวงที่ดี วิ่งคุมโซนได้เก่ง และไม่ใช่กองกลางประเภทที่จ่ายบอลแปะไปแปะมาคืนหลัง แต่นิยมจ่ายบอลไปข้างหน้ามากกว่า ซึ่งจะบอกว่าเขาเล่นได้ทั้งหมายเลข 6 และหมายเลข 8 ในคนคนเดียวกันได้เลย หนึ่งในคุณลักษณะที่โดดเด่นของ กราเฟ่นเบิร์ช คือการครองบอลและพาบอลเข้าสู่แดนสาม มีตัวเลขจากออปต้าระบุว่า ในฤดูกาล 2021-22 เขามีตัวเลขในการเลี้ยงบอลเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เฉลี่ยนัดละ 3.9 ครั้งบนเวทีลีกดัตช์ ซึ่งทำให้เขาติดท็อปไฟว์ในเรื่องนี้จากบรรดากองกลางทั้งหมดของลีก ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ (190 ซม.) กราเฟ่นเบิร์ช มีการเข้าปะทะที่ไว้ใจได้ และมีการครองบอลรวมถึงการสปีดบอลหนีตัวประกบในระยะประชิดได้ดี ตัวเลขจากฤดูกาลเดียวกัน เขาสามารถครองบอลแล้วพลิกหนีตัวประกบได้ถึง 73 จาก 99 ครั้ง เมื่อเล่นในระบบ Double Pivot ในแผน 4-2-3-1 ให้กับ อาแจ็กซ์ เขาจับคู่กับ เอ็ดสัน อัลวาเรซ ที่ในตอนนี้เล่นในพรีเมียร์ลีกกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ค่อนข้างลงตัว เอ็ดสัน เล่นเกมรับปักหลักลึก ส่วนทางด้าน กราเฟ่นเบิร์ช จะได้รับอิสระในการเชื่อมเกม ทะลุทะลวงไปข้างหน้าโดยไม่ต้องพะวง แต่ ลิเวอร์พูล กำลังหากองกลางตัวรับนะ? ไม่ต้องกังวลไป เพราะสถิติในเรื่องการเล่นเกมรับของ กราเฟ่นเบิร์ช เองก็ไม่ขี้เหร่เลย ตรงกันข้ามยังอยู่ในระดับท็อป ๆ เลยก็ว่าได้ เขามีตัวเลขในการหยุดเกมรุกฝ่ายตรงข้ามที่ 87 จาก 99 ครั้ง ซึ่งยังรวมถึงการเข้าสกัด และการเคลียร์บอลในจังหวะอันตรายอีกด้วย โดยในเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือเมื่อเขาแย่งบอลกลับมาได้ เขาจะพยายามเคลื่อนทีมไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไบรอัน เทเวรเด้น อดีตโค้ชเยาวชนของ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม บอกว่าเขาคือ ปอล ป็อกบา ในเวอร์ชันที่ดีกว่า "ในด้านร่างกาย ผมมองเห็น แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ในตัวของเขาตั้งแต่ตอนอยู่ในทีมเยาวชน เพราะเขาสูงและแข็งแรงมาก ๆ แต่ในด้านเทคนิค ผมจะบอกว่า เขาคือ ปอล ป็อกบา ที่อยู่ในฟอร์มสุดยอดกับ ยูเวนตุส และเป็นเวอร์ชันที่ดีกว่า สมบูรณ์กว่าทั้งในด้านเทคนิคและการมีตัวตนในสนาม" จริง ๆ แล้ว กราเฟ่นเบิร์ช ถูกทีมงานของ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส จับตาดูมานานแล้วนะครับ เคยพยายามดึงตัวเขามาร่วมทีมตั้งแต่สมัยอยู่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แล้ว แต่ในตอนนั้นเจ้าตัวเลือกที่จะไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค เสียก่อน ในดีลครั้งนี้ ว่ากันว่า เป็ป ลินเดอร์ส มีอิทธิพลมาก เหมือนเมื่อครั้งที่ดึง โคดี้ กักโป มานั่นแหละ โดยมือขวาของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้วางแผนการใช้งาน กราเฟ่นเบิร์ช ไว้เรียบร้อยแล้ว ในเรื่องการติดต่อกับตัวแทนนักเตะมีมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดย ลิเวอร์พูล ย้ำเสมอว่า ถ้าสถานการณ์ของเขากับ บาเยิร์น มิวนิค ไม่เป็นไปตามที่หวัง โปรดแจ้งให้ทราบด้วย และความจริงนี่เป็นเป้าหมายอันดับต้น ๆ ที่ ลิเวอร์พูล เล็งคว้าตัวมาร่วมทีม แต่ติดปัญหาอย่างเดียวคือ ทีมเสือใต้ไม่พร้อมที่จะขาย ทว่า ในช่วงท้ายของตลาดซื้อขาย ปรากฏว่าสถานการณ์เปลี่ยน บาเยิร์น มิวนิค ต้องการเงินหมุนเพื่อไปซื้อกองกลางตัวรับ ในขณะเดียวกันก็ประเมินแล้วว่าโอกาสที่ กราเฟ่นเบิร์ช จะได้ลงสนามจะน้อยลงหากมีตัวใหม่เข้ามา นั่นทำให้บาเยิร์น มิวนิค เปลี่ยนใจพร้อมเจรจา ลิเวอร์พูล ไม่เคยยกเลิกความสนใจ ดังจะเห็นจากที่พอ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมขายพวกเขาก็เปิดตัวเจรจาทันที โดยค่าตัวที่สื่อคาดการณ์ตอนนี้คือ 30-35 ล้านปอนด์ เหมือนที่บอกไปในข้างต้นบทความ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ต้องการให้ กราเฟ่นเบิร์ช มาเล่นเป็นตัวรับเบอร์ 6 แต่จะเป็นกองกลางตัวปั้นเกมในระบบ Double Pivot หรือกองกลางที่ยืนต่ำคู่กัน 2 คน ตำแหน่งที่เขาสร้างชื่อกับ อาแจ็กซ์ ซึ่งอาจมีรายละเอียดในแท็กติกอื่นที่เขาจะช่วยทีมได้อีก ยามที่ เทรนต์ ขยับเข้ามายืนเป็นกองกลางในบางช่วงจังหวะของเกม กราเฟ่นเบิร์ช เกิดหลัง 1 มกราคม 2002 นั่นทำให้เขาเข้าเกณฑ์เป็นผู้เล่นโควต้าอายุไม่เกิน 21 ปี สำหรับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ไม่ต้องเข้าโควต้า 25 คน ดีลนี้มีความใกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่า มอยเซส ไกเซโด้ และ โรมิโอ ลาเวีย และค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะไม่มีมือดีที่ไหนมาฉกฉวยตัดหน้าไปอีกแล้ว ถ้ายังมาแย่งไปอีก คงบอกได้คำเดียวว่า "พี่มาซื้อทีมผมไปบริหารเองเลย น่าจะสะดวกใจกว่า" ฮ่า ๆ