การย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูจะเป็นเส้นทางที่สวยงามของมือกาวทีมชาติแคเมอรูน กับเป้าหมายช่วยทีมให้กลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
แต่ว่า 6 เกมผ่านไป กับการเสีย 14 ประตู แถมผลงานในสนามที่น่าผิดหวัง ทำให้เกิดการกล่าวถึงในวงกว้างว่า ยูไนเต็ด คิดผิดรึเปล่าที่เลือกปล่อย ดาบิด เด เคอา ออกไปทั้งที่เพิ่งคว้ารางวัลถุงมือทองคำมาครอบครอง
โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่พลาดรับลูกยิงของ เลรอย ซาเน่ พลาดเข้าประตูไปง่ายๆ ยิ่งทำให้เจ้าตัวเจอกับกระแสและเสียงล้อเลียนอย่างสนุกปากจากฝั่งคู่แข่ง
สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้รักษาประตูทุกคน และเราก็ได้เห็นกันมามากมายแล้ว แม้จะมีคนตั้งข้อสงสัยมากมายแต่ไม่ใช่อดีตเพื่อนร่วมทีมรุ่นพี่่อย่าง อัลเบร์โต้ เอ็ดโยโก้-โอโวโน่ เมื่อครั่งที่ โอนาน่า ยังเป็นเด็กเพิ่งเริ่มต้นอาชีพ
โอนาน่า เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลด้วยการอยู่กับ อะคาเดมี่ ของ ซามูแอล เอโต้ ตำนานนักเตะของชาติตั้งแต่อายุ 14 ปี ก่อนนำเขาให้ได้มาอยู่กับยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ในปี 2010 แต่เส้นทางไม่ได้ง่ายอย่างที่หวังกับกฏหมานที่ผู้เล่นจากต่างแดนที่อาศัยในประเทศน้อยกว่า 5 ปี ถูกห้ามแข่งในระดับอาชีพจนกว่าอายุ 18 ปี ทำให้เจ้าตัวก็โดนปล่อยให้สโมสรอย่าง กอร์เนย่า ในปี 2012/13
แต่ทาง "เจ้าบุญทุ่ม" รู้สึกว่า โอนาน่า ต้องได้สัมผัสเกมรับดับผู้ใหญ่ ดังนั้นเลยส่งไปเล่นกับ บิสต้า อาเลเกร ทีมระดับดิวิชั่น 5 ของ สเปน ยืมตัวใช้งาน
บิสต้า อาเลเกร เป็นพื้นที่ของชนชั้นแรงงานใน กาสเตลเดเฟลส์ ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลโดยผู้เล่นชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า มักจะอาศัยอยู่ที่นั่น
ชาบี โมโร่ ที่เป็นหัวหน้าโค้ชของ บิสก้า อาเลเกร ซึ่งเป็นอดีตเด็กฝึกหัดของ บาร์ซ่า อธิบายถึง โอนาน่า ว่า เป็น "เพชรเม็ดงาม" ที่พบว่ามันยากกับการปรับตัวในการใช้ชีวิตใน ลา มาเซีย แต่ต้องขึ้นรถไฟไปซ้อมและเล่นกับสโมสรชั่วคราวของเขา
เอ็ดโยโก้-โอโวโน่ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ บิสต้า อาเลเกร เล่าความหลังว่า "เขามีข้อผิดพลาดครั้งใหญ่ในเกมหนึ่งที่เขาออกมาจากประตูเพื่อโต้เถียงเรื่องการตัดสินใจของผู้ตัดสิน"
"อีกทีมรีบเล่นบอลอย่างรวดเร็วและก็ทำประตูตีเสมอตอนที่เวลาใกล้จะหมดลงเแล้ว มันกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขา เราทุกคนรู้ดีว่าสถานการณ์จะต้องหยุดลง"
"มันเป็นปัญหาสำหรับ โอนาน่า เราคุยกันเรื่องนี้หลายครั้ง นั่นไม่ใช่ที่สำหรับเขา เขาอยู่ที่นั่นเพาะต้องการแข่งขัน แต่มันอ่อนชั้นเกินไปสำหรับเขา ดังนั้นเขาไร้แรงจูงใจ"
"เขารู้สึกว่า บาร์เซโลน่า ไม่ได้ร่วมเส้นทางนี้กับเขา, สโมสรควรจัดการสถานการณ์ได้ดีกว่านี้"
"คุณอายุ 17 ปี ห่างไกลบ้าน คุณมีความฝันที่จะประสบความสำเร็จที่ บาร์เซโลน่า และคุณค้นพบว่าคุณกำลังเล่นในสนามกีฬาเล็กๆ บาหญ้าเทียมต่อหน้าแฟนบอล 300 คน, ดูถูกคุณหรือโห่ใส่คุณ ผมคิดว่าเขารู้สึกโดดเดี่ยว"
โอนาน่า แสดงให้เพื่อนร่วมทีมได้เห็นถึงความสามารถ โดยเฉพาทักษะการเล่นบอลด้วยเท้าอันโด่งดัง ซึ่งทาง เอ็ดโยโก้-โอโวโน่ กล่าวว่า "เขาเป็นผู้เล่นที่ดีกว่านักเตะส่วนใหญ่ในทีม"
"เราจะมีลูกบอล 3-4 ลูกอยู่กลางสนาม เขาเคยบอกว่า 'เฮ้ พี่ชาย เดี๋ยวผมจะพยายามเตะบอลไปชนคานจากทั้งเท้าซ้ายและขวานะ' ซึ่งเขาก็ทำมันได้จริงๆ งัดบอลขึ้นมาและวอลเล่ย์ นั่นคือตอนที่ผมพูดว่า 'ว้าว เด็กคนนี้น่าประทับใจจริงๆ'"
เขามีแคแร็กเตอร์นั้นตั้งแต่อายุ 17 ปี ในการตะโกนใส่เพื่อนร่วมทีมหรือพูดเสียงดัง แต่นอกสนามเขาเงียบมาก ผมต้องบอกว่าผู้เล่นในทีมส่วนใหญ่แทยไม่เคยคุยกับเขาเลย"
หนึ่งในปัญหาคือการสื่อสารภาษาสเปน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการมาซ้อมสายเป็นครั้งคราวและการขาดสมาธิในบางช่วง การเสียประตูที่น่าอายที่เขายอมรับเพิ่มความตึงเครียดและเขาก็กลับ บาร์ซ่า หลังลงเล่นไปแค่ 6 เกมเท่านั้น และหลังจากนั้นเขาก็ไปอยู่ อาแจ็กซ์ และสร้างชื่อที่นั่น
เอ็ดโยโก้-โอโวโน่ ที่ปัจจุบันทำหน้าที่กูรูของ DAZN กล่าวว่า "ผมมั่นใจว่าเขามีศักยภาพในการเป็นผู้เล่นในแบบที่เขาเป็นได้ มันยากมากที่จะยิงผ่านเขาไปได้ ถ้าเขาจริงจังหรือมีสมาธิ ผมไม่คิดว่าเขาจะได้เรียนรู้อะไรมากมายเท่าไรในแง่ของกีฬาที่ บิสต้า อาเลเกร"
"แต่บางทีมันอาจจะทำให้เขาตาสว่างว่า 'ถ้าฉันไม่ถ่อมตัวหน่อย ถ้าฉันไม่ทำงานหนักหรือทุ่มเทเต็มร้อยในทุกวัน บางทีฉันอาจไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้'"
