:::     :::

ชีวิตในแง่มุมใหม่ของ "โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่"

วันพุธที่ 27 กันยายน 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
521
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สำหรับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

กำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่กับอัล-อาห์ลี ทีมในลีกซาอุดิอาระเบีย หลังยุติเส้นทางลูกหนังกับลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยเขาย้ายมาร่วมทีม “หงส์แดง” ในช่วงปี 2015 พร้อมกับการสถาปนาตัวเองเ ป็นหนึ่งในนักเตะที่สาวก “เดอะ ค็อป” หลงรักมากที่สุด 


นอกจากผลงานที่ยอดเยี่ยม ด้วยการยิง 108 ประตู บวกกับ 79 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 354 เกม (รวมทุกรายการ) พร้อมกับการพาทีมกวาดแชมป์ครบทุกรายการ ทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และสโมสรโลก


สาเหตุสำคัญ ทำให้ฟีร์มิโน่ กลายเป็นที่รักของผู้คนรอบข้าง ทั้งผู้จัดการทีม, เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “ความไม่เห็นแก่ตัว”

ฟีร์มิโน่เกิด และเติบโตมาที่ย่าน “มาเซโอ” เมืองติดชายฝั่ง ที่แทรกตัวอยู่ในประเทศบราซิล เหมือนกับเด็กชาวบราซิเลี่ยน หลายต่อหลายคน ย่านที่เขาเติบโตมานั้น เต็มไปด้วยปัญหาอาชญากรรม และความรุนแรง 


เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน เขาอาศัยในบ้านไม้หลังเล็ก ที่ถูกคลุมด้วยหลังคาสังกะสี ภายในบ้านแทบไม่มีอาหารประทังชีวิตด้วยซ้ำไป ช่วงวัยเด็กของฟีร์มิโน่ เป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นฟุตบอลมาก อย่างไรก็ตาม เขามักโดนคุณแม่สั่งห้าม ไม่ให้ออกไปเล่นฟุตบอลนอกบ้าน


เพราะคุณแม่กลัวว่า เขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหล่าอันธพาล ที่รายล้อมอยู่ในสังคมที่อันตรา อย่างไรก็ตาม ฟีร์มิโน่ ก็มีฟุตบอลเป็นเหมือนเกาะกำบัง สิ่งล่อแหลมไม่อาจบดบังพรสวรรค์ด้านลูกหนังของเขาได้ โดยเขาบอกว่า ความเป็นคนไม่เห็นแก่ตัวของเขา มีจุดเริ่มต้นมาจากชีวิตที่ยากลำบากในวัยเด็ก 


ฟีร์มิโน่ ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์กีฬา ไม่มีเงินที่จะออกเดินทางไปทดสอบฝีเท้า จนสุดท้าย เขาได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากโค้ชฟุตบอลแถวบ้าน การถูกช่วยเหลือจากโค้ชฟุตบอลแถวบ้าน ทำให้เขาได้รับเข้าร่วมทีมเยาวชนที่มีชื่อว่า “คลับ เด เรกาตาส บราซิล” ก่อนต่อยอดสู่ฟุตบอลระดับอาชีพ


แน่นอนว่า การถูกปฏิบัติแบบนั้น ทำให้ฟีร์มิโน่ เรียนรู้ถึงความสำคัญ สำหรับการเป็นผู้ให้ และผู้รับ นี่คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขามีความหมาย ความไม่เห็นแก่ตัวเหล่านั้น ถูกผ่องถ่ายเข้ามาสู่ตัวตนของเขาอย่างช้าๆ และถูกนำมาใช้ในสนามฟุตบอล ฟีร์มิโน่ บอกว่า “ความไม่เห็นแก่ตัว คือสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้กับผม ผมเป็นคนแบบนี้มาตลอด” 


“ทุกอย่างที่ว่ามา เกิดจากปูมหลังในวัยเด็กของผม ผมคิดถึงผู้อื่นก่อนเสมอ และไม่ค่อยชอบพูดถึงเรื่องของตัวเอง ผมชอบความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชีวิตของผม ผมมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า การให้เป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้น ผมจึงมีความสุขที่ได้แอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม พร้อมกับช่วยเหลือทีมของผม”


“บางครั้งผมก็เล่นเป็นฟอลส์ไนน์, บางครั้งผมก็เล่นเป็นกองหน้า หรือต่อให้ผมต้องเล่นเป็นผู้รักษาประตู ผมก็พร้อมลงมือ หากนั่นคือการช่วยเหลือทีม” ดาวเตะทีมชาติบราซิล กล่าวเอาไว้แบบนั้น 

ฟีร์มิโน่ เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพในบ้านเกิดกับสโมสรฟิกูเรนเซ่ ก่อนย้ายมาเล่นในยุโรปเป็นครั้งแรกในชีวิตกับสโมสรฮอฟเฟ่นไฮม์ ในศึกบุนเดสลีกา จากปี 2011 กินเวลา 4 ฤดูกาลเศษ ฟีร์มิโน่ ที่มีความไม่เห็นแก่ตัวอยู่แล้ว ถูกเพิ่มเติมสิ่งที่เรียกว่า “ความเป็นมืออาชีพ” เข้าไปด้วย


ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบในด้าน “จิตใจ” และ “ทัศนคติ” จนกลายเป็นนนักเตะในฝันของโค้ชหลายคนปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบความเป็นมืออาชีพ และกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ลีกบราซิล อาจไม่มีความเข้มข้นเท่ากับลีกเยอรมัน ฟีร์มิโน่ บอกว่า ประสบการณ์ที่นั่น สอนให้เรียนรู้อะไรมากมาย เขาถูกปลูกฝังเรื่องการทำงาน ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก


เขาพยายามนำสิ่งนั้น เข้ามาผสมผสานกับการเป็นนักเตะบราซิเลี่ยน ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ และทักษะที่สวยงาม นี่คือรูปแบบนักเตะที่เขาอยากเป็น ช่วงเวลาที่ฟีร์มิโน่ ยังคงค้าแข้งกับฮอฟเฟ่นไฮม์ ก็คือช่วงเวลาเดียวกับที่เยอร์เก้น คล็อปป์ กุมบังเหียนทีมร่วมลีกอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 


คล็อปป์ เกิดความประทับใจในตัวของฟีร์มิโน่ ตั้งแต่เล่นในศึกบุนเดสลีกา โดยมักหาโอกาส ช่วงที่เจอกันในการแข่งขัน เพื่อทักทาย และพูดคุยกัน คล็อปป์ ชื่นชมในตัวฟีร์มิโน่ ขณะที่ฟีร์มิโน่ ก็ชื่นชมในตัวคล็อปป์ เช่นเดียวกัน อาจกล่าวได้ว่า ทั้งสองต่างมอบความเคารพให้อีกฝ่ายอย่างเปิดเผย

แฟนบอลลิเวอร์พูล หลายคนอาจจำไม่ได้แล้วว่า คล็อปป์ ไม่ได้เป็นคนที่ซื้อฟีร์มิโน่ g-hkมาร่วมถิ่นแอนฟิลด์ เพราะคนที่ซื้อฟีร์มิโน่ มาร่วมทีมลิเวอร์พูล นั่นคือ “เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” ในฤดูกาล  2015-16 กระทั่งเดือนตุลาคม 2015 ร็อดเจอร์ส จะถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ ซึ่งคนที่เข้ามาแทนที่ ก็คือคล็อปป์ นั่นเอง 


คล็อปป์ ออกมาให้สัมภาษณ์ ผ่านสื่อหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรว่า การเข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูล ถือเป็นหนึ่งในเกียรติยศสูงสุดของเขา อย่างไรก็ตาม หนึ่งสิ่งที่เขาตั้งหน้าตั้งตารอเป็นอย่างมาก นั่นคือการทำงานร่วมกับฟีร์มิโน่ ซึ่งเป็นนักเตะที่เขาหลงรักมาตั้งแต่ที่เยอรมัน 


คล็อปป์ บอกถึงความประทับใจในตัวฟีร์มิโน่ เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า นอกจากเรื่องฝีเท้าแล้ว “นิสัยใจคอ” ทำให้ฟีร์มิโน่ กลายเป็นแข้งคนพิเศษ โดยกล่าวว่า “ฟีร์มิโน่ เป็นนักเตะที่ไม่สนใจเรื่องของการได้รับเครดิตเลย เขาไม่สนใจเรื่องของการเป็นที่ยอมรับด้วยซ้ำไป”


“ทัศนคติของฟีร์มิโน่ ยอดเยี่ยมมาก เขาเป็นผู้ฟัง และเป็นลูกทีมที่ดีด้วย เขาเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ตลอดเวลา” หากจะเอ่ยถึงนักเตะที่คล็อปป์ รักมากที่สุด เราคงจะหาคำตอบได้ไม่ง่ายนัก เพราะการคุมทีมเกินกว่า 2 ทศวรรษ เขาผ่านการร่วมงานกับลูกทีมหลายคน


แต่หากถามว่า นักเตะคนไหนที่เป็นคนโปรด และตอบโจทย์เรื่องแท็คติกของคล็อปป์ มากที่สุด ? คำตอบที่ถูกกลั่นออกมาคือ “ฟีร์มิโน่” หลักฐานที่ยืนยันคือ ตลอดเส้นทางผู้จัดการทีมของกุนซือชาวเยอรมัน ฟีร์มิโน่ คือนักเตะที่คล็อปป์ เลือกส่งลงสนามมากสุด ด้วยจำนวน 347 เกม โดยไม่มีใครมากกว่าอีกแล้ว


“ซาลาห์ เวิลด์ คลาส แต่ไม่ทุกวัน ... มาเน่ เวิลด์ คลาส แต่ไม่ทุกวัน .... ขณะที่ฟีร์มิโน่ เวิลด์ คลาส เกือบจะทุกวัน” คล็อปป์ มอบคำจำกัดความ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})