:::     :::

'เพื่อ ยูไนเต็ด ... ผมพร้อมเสมอ'

วันพุธที่ 04 เมษายน 2561 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
1,736
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มากกว่า 150 นัดที่ อันเดร์ เอร์เรร่า ลงสนามในเครื่องแบบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมามีทั้งสุขและเศร้าปะปนกันไป

ไม่ต่างไปจากชีวิตนักเตะคนอื่นๆ เอร์เรร่า มีความฝันของตนเอง ซึ่งความฝันของเขากำลังเเนินไปอีก 1 ฤดูกาล

นับตั้งแต่ย้ายมาเป็นนักเตะ ปิศาจแดง อดีตดาวเตะ แอธเลติก บิเลบา อุทิศความทุ่มเท, มุ่งมั่น รวมไปถึงความกระหายทุกครั้งในยามลงสนาม ซึ่งนั่นคือกุญแจสำคัญที่เขาเอาชนะใจแฟนบอล

แฟนบอลผีแดงต่างยกนิ้วถึงความมุ่งมั่นและสิ่งที่เขามอบให้กับสโมสร 

นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ เอร์เรร่า มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นผ่าน เว็บไซต์ ของสโมสร และทางทีมงาน THSPORT ไม่ลืมที่จะนำความเหล่านั้นมาถอดเป็นภาษาไทยให้ท่านได้อ่านอีกครั้ง ... 



ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมมีทั้งผลงานที่ไม่น่าพอใจกับ เซบีย่า รวมไปถึงผลงานที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะ เชลซี, คริสตัล พาเลซ และ ลิเวอร์พูล นอกจากนี้ยังเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 

- ใช่ เกมที่เจอกับ เชลซี และ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่ยากมากและเป็นกุญแจสำคัญในการลุ้นพื้นที่ท็อป 4 ซึ่งเราเอาชนะได้ทั้งสองเกมและผมคิดว่าเราสมควรคว้าชัยทั้งสองนัด แต่เรากลับไม่สามารถนำประโยชน์จากเกมเหล่านั้นมาใช้ได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมเจอกับ เซบีย่า ซึ่งผมไม่พอใจกับใจมากเนื่องจากพวกเราคาดหวังใน รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไว้สูง สิ่งที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้คือมองไปข้างหน้าและทำให้มั่นใจว่าเราจะรักษาอันดับ 2 ในลีก และต่อสู้เพื่อแชมป์ เอฟเอ คัพ มันเป็นรายการที่สำคัญของประเทศนี้รวมไปถึงของโลกด้วย ถ้าผมพูดไม่ผิดมันคือการแข่งขันอย่างเป็นทางการรายการแรกของโลก ดังนั้นมันสำคัญกับเรามาก


อะไรเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้รักษาความได้เปรียบตลอดในช่วงไม่กี่เกมที่เหลือต่อจากนี้? 

- ผมคิดว่าเกมในบ้านคือกุญแจสำคัญ ถ้าคว้าชัยในรังได้เราจะมั่นใจว่าทีมจะรักษาพื้นที่ ท็อป 4 ไว้ได้ แต่นั่นไม่เพียงพอสำหรับเรา เราต้องการจบด้วยอันดับที่เราอยู่ในตอนนี้ และมันจะเป็นทิศทางที่ดีสำหรับการเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลต่อไปของเรา ถ้าเราจบในอันดับที่ 2 เราสามารถมองและสร้างพื้นฐานจากสิ่งนี่ ดังนั้นนี่คือสิ่งที่เราคิดในตอนนี้  ด้วยการพยายามคว้าชัยทุกเกมและจบอันดับที่ 2 รวมไปถึงสู้อย่างเต็มที่ใน เอฟเอ คัพ ถ้าเราสามารถคว้าชัยได้ เราจะมีความมั่นใจมากขึ้นก่อนลงเล่นรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 


คุณมองไปถึงการกลับไปที่ เวมบลีย์ หรือไม่? 

- แน่นอน มันไม่สำคัญว่าคุณจะต้องเจอทีมไหนในรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ มันเป็นเกมที่พิเศษ ไม่มีทีมไหนเอาชนะทีมอื่นได้ง่ายๆ และเรารู้ว่าบ่อยครั้งที่เกมรอบรองชนะเลิศหรือนัดชิงชนะเลิศตัดสินในนาทีสุดท้าย มันเหมือนกับนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อเราคว้าชัยในนาทีสุดท้าย รวมไปถึงรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2016 เมื่อ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทำประตูชัย และยังมีเกมนัดชิงชนะเลิศกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อ เจสซี่ ลินการ์ด ทำประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ ดังนั้นเราทราบดีว่าเรากำลังจะเจอกับอะไรใน เวมบลีย์ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย


อะไรคือความทรงจำของคุณในเกมรอบรองชนะเลิศที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน?

- ผมจำได้ว่าเราสมควรทำได้มากกว่า 1 ประตู โดยเฉพาะในครึ่งแรก แต่เราทำไม่ได้และพวกเขาก็ตีเสมอแถมมาได้จุดโทษ ทว่า ดาบิด เด เคอา เซฟลูกนั้นจากการยิงของ โรเมลู ลูกากู เอาไว้ได้ ผมจำได้ดีว่าผมลงสนามซึ่งมันเป็นเกมที่บ้าคลั่งมาก รูปเกมกลับไปกลับมาแลกกันสนุก ผมจำได้ถึงการส่งบอลไปที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล รวมไปถึง ช่วงเวลาแห่งความสนุกเมื่อผมปะทะจังหวะนั้นใส่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ซึ่งแฟนบอลยกให้เป็นการปะทะแห่งฤดูกาลเพราะมันเกือบจะเป็นจังหวะสวนกลับที่อันตรายแก่เรา


คุณทราบดีถึงความรู้สึกในการคว้าแชมป์ ซึ่งมันเป็นแชมป์ที่พิเศษใช่หรือไม่? 

- แน่นอน เราคว้าแชมป์ได้น้อยกว่า อาร์เซน่อล 1 ครั้ง  พวกเขาคว้าแชมป์ได้ 13 ครั้ง และพวกเราทำได้ 12 ครั้ง มันสำคัญสำหรับเราในการคว้าแชมป์ และตอนนี้เรามีโอกาส 25% 


ฤดูกาลนี้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มีโอกาสสร้างผลงานที่ดีและคุณประทับใจกับผลงานของเขาอย่างไรบ้าง? 

- ผมรู้ในตอนที่เห็นเขาลงซ้อมกับเราว่าเขาเป็นเด็กที่ชอบการแข่งขัน มันทำให้เขาต้องการที่จะลงช่วยทีมรวมไปถึงเรียนรู้ในทุกๆวัน เขากำลังจะกลายไปเป็นนักเตะที่ดีสำหรับสโมสร เขาเป็นนักเตะที่เล่นเพื่อทีมและสามารถช่วยทีมในทุกตำแหน่งที่ถูกจับลงไปในสนาม คุณจะเห็นได้ในเกมเจอ เชลซี ที่เขาเล่นเกมรับมากกว่าเดิมและเกือบจะทำงานแบบเดียวกับผมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาในการตามประกบ เอแด็น อาซาร์ แม้มันจะไม่เหมือนกันแต่ก็มีความคล้ายคลึงกัน เขายังสามารถเล่นเกมรุกและกดดันได้มากด้วย เราทราบดีว่าเราจะไม่มี ไมเคิ่ล คาร์ริค ในทีมหลังจบฤดูกาลนี้ ดังนั้นเราต้องการเพิ่มนักเตะในตำแหน่งกองกลาง และผมคิดว่า สกอตต์ พร้อมแล้วในการลงสนามใน พรีเมียร์ลีก แล้ว


คนอื่นๆพูดเหมือนกันเลยว่าเขาเป็นคนที่ชอบฟังคนอื่นพูด ... 

 - ใช่ เขาเป็นแบบนั้นอยู่เสมอ ในขณะที่เราพูดสเปนกัน เขาก็จะเงี่ยหูเพื่อรับฟังและเรียนรู้เพราะเขาต้องการเป็นนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ 10 หรือ 15 เกม เขาต้องการมีเส้นทางอาชีพที่ที่ยาวไกลที่้สโมสรแห่งนี้และเขามีคุณภาพที่จะทำแบบนั้น


หลังจบฤดูกาลนี้ ไมเคิ่ล คาร์ริค จะแขวนเกือกแล้ว คุณช่วยบอกถึงผลงานของเขาที่ทำให้ ยูไนเต็ด และ อะไรคือสิ่งที่คุณชอบในการเล่นร่วมกับเขา ... 

- ผมไม่มีคำพูดที่จะอธิบายถึงเขาได้เลย ... บอกตรงๆว่าผมรู้สึกเขินอายมากเมื่อต้องมาพูดถึงเขา เพราะเขาเป็นตำนานตัวจริงที่คว้าแชมป์ทุกรายการกับสโมสรและไม่เพียงแค่เขาจะดูสุขุมนุ่มลึกยามอยู่ในสนามเท่านั้น เขายังคงเป็นนักเตะที่ผ่อนคลายอีกด้วย เขารู้ถึงวิธีการแสดงออกในทุกๆจังหวะ ทั้งในช่วงเวลาที่ดีหรือว่าแย่ นอกจากนี้เขายังคงเป็นคนที่เรียบง่ายและสมถะ ผมมีความสุขที่ได้มีโอกาสเล่นกับเขามา 4 ปี และผมขออวยพรให้เขาโชคดี 


จากมุมมองส่วนตัว เป้าหมายของคุณในอีกไม่กี่นัดต่อจากนี้คืออะไร? 

- ลงสนามช่วยทีมเหมือนที่เป็นมาตลอด ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บมากเท่าไหร่ แต่ก็ต้องพักรักษาตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าตนเองเป็นคนที่มีความอดทนต่ำ ผมต้องการลงสนาม มีความพร้อมที่จะเป็นตัวเลือกให้กับผู้จัดการทีมและสโมสร ผมลงสนามให้กับสโมสรนี้ไปมากกว่า 150 นัดและต้องการเพิ่มจำนวนต่อไป รวมไปถึงพยายามเล่นให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะเมื่อวันหนึ่งในตอนที่ผมเลิกเล่นไปแล้ว ผมจะสามารถพูดได้เต็มปากว่าตนเองมีโอกาสลงสนามให้กับทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอังกฤษ ผมต้องการสนุกกับทุกช่วงเวลา ไม่เพียงแค่การลงสนามแต่รวมไปถึงการฝึกซ้อม สิ่งแรกที่สามารถทำให้ร่างกายฟิตและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมีความสุขในการกลับมาสู่ทีม


คุณทำสถิติลงสนามให้สโมสรครบ 150 เกม ด้วยการทำประตูในเกมที่เอาชนะ โยวิล ทาวน์ ในศึก เอฟเอ คัพ คุณภูมิในมากแค่ไหนในเรื่องนี้? 

- ผมชอบลงเล่นรายการ เอฟเอ คัพ โดยเฉพาะการออกไปเยือนทีมที่เล็กกว่ามากๆ เพราะมันเป็นเกมที่เล่นด้วยควายากลำบาก ทุกคนคาดหวังให้คุณคว้าชัย แต่เมื่อคุณลงไปในสนามเหล่านั้นคุณจะพบถึงทีมและแฟนบอลที่เต็มไปด้วย 'แพสชั่น' ผมชอบรูปแบบของฟุตบอลสมัยเก่าแบบนั้นนะ รวมไปถึงประวัติศาสตร์ในสนามเหล่านั้น ผมมีความสุขมากที่ลงสนามครบ 150 เกมในนัดนั้นพร้อมกับทำประตูได้ มีความทรงจำดีๆมากมายในจำนวน 150 เกมนั้น แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ เกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก  เพราะการคว้าแชมป์ยุโรปคือสิ่งที่ผมปรารถนามาเป็นระยะเวลนานแล้ว เกมประเดิมสนามของผมซึ่งเป็นนัดเจอกับ สวอนซี, เกมออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่เราชนะ 2-1 ซึ่ง ฆวน มาต้า ทำทั้งสองประตู ผมไม่สามารถเลือกได้เลย ยังมีเกมในบ้านกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เราเอาชนะพวกเขาไปได้ 4-2 ผมมีความทรงจำมากมาย เวลาผ่านไปเร็วมากแต่ผมต้องบอกว่าเมื่อผมมองย้อนกลับไปและรู้สึกสนุกกับทุกช่วงเวลา นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการทำเมื่อผมย้ายมาร่วมทีม และผมพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในทุกๆการซ้อมและทุกๆเกมที่ผมมีโอกาสสวมเครื่องแบบ ยูไนเต็ด 


อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณได้เรียบรู้จากเกมเหล่านั้น? 

- สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมได้เรียนรู้มาคือความยากลำบากในการลงสนามให้กับทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษรวมไปถึงในโลกใบนี้ด้วย ทุกๆคนคาดหวังให้คุณคว้าชัยชนะและเมื่อคุณไม่สามารถทำได้ผู้คนที่ไม่ใช่แฟนบอล ยูไนเต็ด ต่างพูดถึงเราเป็นอย่างมาก และพวกเขาชอบที่เห็นเราพ่ายแพ้  แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา มันแสดงให้เห็นว่าเรายิ่งใหญ่แค่ไหน เราไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ พวกเขาคิดถึงเราและนั่นบอกทุกอย่างได้ดี



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})